สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านที่น่ารัก วันนี้แป้งจะมาแชร์ประสบการณ์การโดนต่อยค่ะ ! ไม่ใช่คนต่อยนะคะ แต่เป็นเจ้าแตน แมลงตัวน้อยที่ต่อยหนักนั่นเองคือเมื่อปีที่แล้วแป้งไปเดินเล่นที่ทุ่งนา ช่วงเย็น ๆ บรรยากาศกำลังดีเลยค่ะ ก็เดินไปตามคันนาซึ่งมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นอยู่เรียงราย แต่ขณะที่กำลังชมวิวชมทุ่งอยู่นั้น น้องแตนเจ้ากรรมก็มาบินวนแถว ๆ หัว แป้งก็เลยใช้มือปัด (ตอนนั้นยังไม่รู้นะคะว่าเป็นแตน) ทีนี้แหละค่ะ จี๊ดเข้าอย่างจังที่หลังมือ รู้สึกถึงความเจ็บปวดปนด้วยความตกใจ มือก็เริ่มบวม ร้องไห้วิ่งกลับบ้าน ยายจ๋า หนูโดนแมลงต่อย คุณผู้อ่านท่านใดเคยมีประสบการณ์โดนแมลงสัตว์กัดต่อยแบบนี้ไหมคะ แล้วรักษาอาการปวดบวมอย่างไร บางท่านอาจจะใช้ยาสามัญประจำบ้านอย่างเช่นยาหม่อง แต่วันนั้น ยายของแป้งได้ใช้ 3 สิ่งที่มีติดบ้านเป็นประจำมาทาให้แทนยา แม้ตอนนั้นจะปวดมือมาก แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า สามสิ่งนี้จะช่วยได้จริงหรือ ! 3 สิ่งที่ว่านั้นก็ได้แก่ ปูนกินหมาก ยาจืดหรือยาเส้น (ซึ่งยายใช้เวลาเคี้ยวหมาก) และมะนาว ยายใช้ยาจืดหรือยาเส้น 1 หยิบมือ ปูนกินหมากเพียงเล็กน้อย และบีบมะนาว 1 แว่นลงไป ผสมกัน จากนั้นนำมาทาที่แผลที่โดนแตนต่อย ผ่านไปประมาณ 10 นาที อาการปวดก็ค่อย ๆ ทุเลาลง นิ้วมือที่บวมเป่งก็เริ่มยุบลงจนเป็นปกติ ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่า 3 สิ่งนี้จะเป็นยาบรรเทาอาการปวดบวมจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ ด้วยความสงสัยจึงถามยายว่าได้สูตรยานี้มาจากไหน ยายบอกว่าสมัยก่อนยายก็เคยโดนตะขาบต่อย ไม่มียาแบบปัจจุบันนี้ เพื่อนของยายจึงนำ 3 สิ่งที่ว่านั้นมาทำเป็นยาทาให้ แล้วก็หายปวดบวมจริง ๆ จึงใช้สูตรนี้มาตลอด ซึ่งแป้งคิดว่าสูตรยานี้คงมีมานานและน่าสนใจจึงลองสืบค้นข้อมูลดูก็พบว่า ยาจืดที่ได้จากใบยาสูบนั้น มีสรรพคุณแก้ปวด ลดอาการบวม และเป็นยาสมานแผล ปูนที่ยายใช้กินหมาก ที่เป็นสีขาว ซึ่งหากเติมขมิ้นก็จะกลายเป็นปูนแดง ปูนที่ว่านี้ก็สามารถช่วยแก้พิษแมลงกัดต่อย ลดอาการเจ็บและปวดบวมได้ อีกหนึ่งสิ่งคือมะนาว ซึ่งเชื่อว่าช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อยและช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดได้ ในอดีตที่ยังไม่มียาที่ทันสมัย ชาวบ้านก็ได้มีการใช้สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว และหาได้ง่ายในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นพืช หรือสมุนไพรต่าง ๆ มาใช้เป็นยารักษาโรคและบรรเทาอาการเจ็บป่วย พร้อมทั้งได้ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่รุ่นลูกรุ่นหลานเรื่อยมา นับว่าเป็นมรดกทางภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทยที่มีคุณค่า และควรมีการศึกษาเพื่อพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ต่อไปได้ภาพหน้าปก : pixabay.com