หน้าร้อนแบบนี้เรามักจะได้ยินคำว่า Heat stroke บ่อยๆ นอกจากคนที่ต้องระวังสภาวะนี้แล้ว รู้ไหมว่า สัตว์ทุกตัวก็สามารถเกิดสภาวะนี้ได้เช่นกัน ช่วงหน้าร้อนแบบนี้เรามักจะพบปัญหาที่สัตว์มีภาวะ Heat stroke ได้บ่อยๆ ก่อนที่เราจะมารู้จักว่า Heat stroke คืออะไร เราต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการระบายความร้อนในร่างกายของสัตว์กันก่อน1. สุนัข สุนัขมีต่อมเหงื่อเพียง 2 ที่ คือ ที่อุ้งเท้า และที่ปลายจมูก แต่ทั้งสองบริเวณนั้นไม่ได้ช่วยทำหน้าที่ในการระบายความร้อนแต่อย่างใด การระบายความร้อนของสุนัขส่วนใหญ่คือการหอบหายใจ เนื่องจากการหอบหายใจคือการหายใจออก โดยสุนัขจะห้อยลิ้นออกมาทำให้เลือดมาไหลเวียนบริเวณปลายลิ้นมากขึ้น เมื่อเลือดมาเลี้ยงบริเวณปลายลิ้นมากขึ้นก็จะเกิดเป็นความชื้นที่จะช่วยนำพาความร้อนออกจากร่างกายได้แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่าแบบไหนคือการหอบหายใจที่ปกติ แบบไหนที่ผิดปกติ ? โดยปกติแล้วนั้นสุนัขจะหายใจ 30 - 40 ครั้ง/นาที (ยิ่งเป็นสุนัขพันธุ์เล็กจะยิ่งมีอัตราการหายใจที่สูงขึ้น) แต่ถ้าสุนัขเริ่มเหนื่อย จะเริ่มหายใจหอบถี่ขึ้นเพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย อาจจะมีอัตราการหายใจที่สูงถึง 300 - 400 ครั้ง/นาทีได้เลย หากสุนัขหอบหายใจถี่มากๆ ประกอบกับใช้ช่องท้องช่วยหายใจ ลักษณะแบบนี้คือเกิดความผิดปกติ เพราะปกติแล้วการหายใจจะใช้เพียงช่องอกเท่านั้น ยิ่งปล่อยให้สุนัขหอบหายใจนานเท่าไรก็ยิ่งเสี่ยงต่อการขาดน้ำและสูญเสียพลังงานมากขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องช่วยเขาด้วยการพาไปอยู่ตามที่ๆอากาศถ่ายเท และให้น้ำเขากินอย่างเพียงพอ 2. แมว แมวมีต่อมเหงื่อเหมือนกับสุนัข คือที่ปลายจมูกและอุ้งเท้า แต่ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ช่วยระบายความร้อนเช่นเดียวกัน การระบายความร้อนของแมวนั้นจะเกิดจากการกินน้ำมากขึ้น และการเลียขน เพื่อให้ตัวเปียกและให้ลมพัดพาความร้อนไป ใช้หลักการเดียวกับที่เราเช็ดตัวเพื่อระบายความร้อนเวลาเป็นไข้ แต่อีกอาการที่สามารถพบได้คือการหอบหายใจ ซึ่งส่วนใหญ่แมวมักไม่ค่อยหอบหายใจ หากเราพบอาการนี้แสดงว่าอาการของแมวเริ่มเข้าขั้นวิกฤตแล้ว 3.หนูแกสบี้ กระต่าย และนก เช่นเดียวกับสุนัขและแมว สัตว์ทั้ง 3 ชนิดนี้ ไม่มีต่อมเหงื่อเช่นเดียวกัน ในหนูแกสบี้ และกระต่ายจะระบายความร้อนผ่านทางเส้นเลือดที่มาเลี้ยงบริเวณใบหูโดยการแผ่ความร้อนออกจากร่างกาย ดังนั้นในหนูหรือกระต่ายที่หูเล็ก หูสั้น จะระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่ากับพันธุ์ที่มีหูยาว ส่วนในนกนั้นเราจะเห็นเขากางปีกออก หรือลงไปเล่นน้ำจนขนเปียก เพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย แล้วเราจะสามารถสังเกตได้อย่างไรว่าสัตว์ของเรามีภาวะ Heat stroke หรือไม่ ?1. อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น มีอาการหอบหายใจถี่ เยื่อเมือก/สีเหงือกเป็นสีแดงจัด หรือรุนแรงจนชัก หมดสติ2. สัตว์เริ่มมีอาการง่วงซึม ไม่ค่อยตอบสนองต่อสิ่งเร้า หรืออาจจะมีเลือดออกจากจมูก ซึ่งถือว่าอัตรายแล้ว3. หากไม่ง่วงซึม สัตว์อาจจะมีอาการกระวนกระวายตลอดเวลา เดินหรือวิ่งไปมาอย่างผิดสังเกต หากสัตว์มีภาวะต้องสงสัยว่าเป็น Heat stroke เราจะต้องทำอย่างไรเพื่อปฐมพยาบาลดีล่ะ ?1. ช่วยเขาลดอุณหภูมิร่างกายให้เร็วที่สุด โดยการใช้ผู้ชุบน้ำที่อุณหภูมิห้องมาเช็ดตามตัว ตามง่ามขาและแขนของเขา หากเป็นหนูและกระต่ายให้เช็ดตามขาและใบหู (ไม่ควรใช้เป็นน้ำเย็นหรือน้ำแข็ง เพราะอาจจะทำให้เส้นเลือดเกิดการหดตัวอย่างรวดเร็ว สัตว์อาจจะช็อคได้)2. นำเขาไปอยู่ในที่ๆอากาศถ่ายเท เพื่อช่วยให้อากาศช่วยระบายความร้อนออกจากตัวได้เร็ว3. หากสัตว์ชัก หรือหมดสนิท ไม่ควรฝืนป้อนน้ำ หรือสิ่งใดๆให้เขา ควรจะรีบพาไปพบสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด เราจะดูแลสัตว์เมื่อพบเจอกับวันที่อากาศร้อนมากๆ แบบนี้ได้อย่างไร ?1. ในสุนัขและแมว ควรเปิดพัดลม หรือเปิดแอร์ เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี หรืออาจจะพาไปว่ายน้ำเพื่อลดความร้อนภายในร่างกาย2. วางชามดินเผาไว้บริเวณที่เขาอยู่ ก็สามารถช่วยให้เขามีมุมเย็นๆ ไว้นอนเวลาร้อนได้3. ที่สำคัญควรมีน้ำให้พวกเขากินอย่างเพียงพอ ควรเป็นน้ำที่ไม่เย็นเกินไป ถ้าจะให้ดีควรเป็นน้ำที่อุณหภูมิห้อง สุดท้ายนี้อยากจะฝากให้ทุกท่านที่มีสัตว์เลี้ยงระวังภาวะ Heat stroke ให้ดี อย่าคิดว่าความร้อนแค่นี้เราสามารถทนได้ ในสัตว์อาจจะไม่ได้ทนความร้อนได้สูงเท่าคน และภาวะนี้หากเกิดขึ้นมาแล้วแก้ไขได้ไม่ทันท่วงที สัตว์มีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก ภาพที่ 1 Image by Creatorภาพที่ 2 Image by StockSnap from Pixabay ภาพที่ 3 Image by Isa KARAKUS from Pixabay ภาพที่ 4 Image by Pixamio from Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !