เครดิตภาพหน้าปก : Pixabay เครดิตภาพ : Pixabay สิ่งที่คุณควรทำเมื่อเกิดความขัดแย้งกับคนใกล้ชิดสนิทใจ ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง สามี ภรรยา บรรดาลูก ๆ หรือเพื่อนสนิท ไม่ใช่การทำทุกวิถีทางเพื่อให้พวกเขาเห็นว่าคุณเป็นฝ่ายถูกเพราะต่อให้คุณเป็นฝ่ายถูกจริง ๆ ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดยังไงเรื่องราว ปัญหา ก็ไม่จบลงอยู่ดี(ถูกไปก็แค่นั้น) จริง ๆ แล้ว "พฤติกรรมมีผลต่ออารมณ์และความคิดของมนุษย์" เมื่อเกิดการโต้แย้งกันแล้วใส่อารมณ์บวกกับสีหน้าแววตาท่าทางต่างๆออกมานั้นจะยิ่งทำให้อีกฝ่ายเห็นว่าเราไม่ได้แคร์ความรู้สึกของเขาเลย เขาก็จะส่งฟีดแบคกลับมาโดยการพูดหรือกระทำแบบไม่แคร์เราเหมือนกัน ซึ่งมันเป็นพฤติกรรมการเลียนแบบที่เกิดขึ้นเร็วมาก ๆ โดยที่ต่างฝ่ายต่างอาจไม่ทันได้รู้ตัว ฉะนั้นเวลาที่ทะเลาะกับใคร หรือขัดแย้งกับใครจง “เงียบและฟัง” เพียงอย่างเดียว เครดิตภาพ : Pixabay การเงียบไม่ได้แปลว่าเราแพ้ หรือเป็นการยอมรับว่าเราผิดแต่การเงียบเป็นการแสดงให้เห็นว่าเรามีวุฒิภาวะมากพอที่จะเข้าใจอารมณ์และพฤติกรรมของอีกฝ่ายในขณะนั้น “ให้เขาได้พูดในสิ่งที่เขายากจะพูด" แค่นั้นเองค่ะ และคุณก็จะได้ชนะใจตัวเองที่จะไม่โต้เถียง ไม่เปลืองพลังเสียง และไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์ตัวเองด้วย และอย่าลืมนะคะว่าคนที่เราขัดแย้งหรือกำลังเถียงกันอยู่นั้น คือ “คนที่คุณรักและรักคุณ” คุณไม่ได้ต้องการให้อีกฝ่ายพังพินาศ หรือ หายไปจากโลกนี้ คุณยังคงอยากให้มีเขาอยู่ข้าง ๆ ยังอยากดูแลยามป่วยไข้ อยากกอดเวลาเหนื่อยจากการทำงาน เครดิตภาพ :Pixabay ถ้ายังรักกันอยู่ก็แค่รับฟังในสิ่งที่อีกฝ่ายอยากจะพูดกับคุณเพราะเมื่อเขาได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาแล้วอารมณ์เขาก็จะค่อย ๆ ทุเลาลง คุณเองก็จะได้รู้ในมุมของเขาด้วยว่ามองแตกต่างไปจากคุณอย่างไร และเมื่อดูว่าสถานการณ์เริ่มสงบลงแล้วคุณก็ค่อย ๆ อธิบายในมุมของคุณต่อในภาวะที่อารมณ์ปกติ และมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งจะทำให้เวลาที่คุณใช้ไปในการโต้แย้งลดลงและเพิ่มเวลา "รักกัน" ได้มากยิ่งขึ้น บทความ : แว่นสุนทรีย์ ภาพถ่าย : Pixabay