ภาพปกจาก Freepik.com การเกิดสิวนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เป็นเรื่องใหญ่ของหลาย ๆ คนโดยเฉพาะสาว ๆ ที่ต้องกังวลเรื่องริ้วรอยหรือรอยแผลเป็นหลังจากการเกิดสิวเป็นพิเศษ สิวสามารถทิ้งร่องรอยไว้นานหลังจากที่คุณคิดว่าสิวมันหายไป รอยแผลเป็นจะทำให้เกิดการวิตกกังวล ความมั่นใจ ขณะที่รอยดำที่เกิดจากการอักเสบทำให้เกิดรอยม่วงสีเทาหรือสีน้ำตาล ดังนั้นการจัดการกับรอยแผลของสิวนั้นยากกว่าการรักษาและป้องกันสิว อย่างไรก็ตามการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างจะทำให้ผิวของคุณไม่ทิ้งร่องรอยจากแผลของสิวไว้ ภาพจาก Freepik.com 1. คุณมองข้ามครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์รักษาสิวทำให้ผิวไวต่อรังสี UV ดังนั้นครีมกันแดดจึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญเป็นพิเศษหากคุณกำลังเผชิญกับสิว แสงแดดจะทำความเสียหายทำให้ผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นแผลเป็น รังสียูวีและการสัมผัสกับแสงแดดมีแนวโน้มที่จะทำให้แผลเป็นเปลี่ยนสีหรือใช้เวลาในการรักษานานขึ้น ภาพจาก Freepik.com 2. คุณชอบที่จะบีบสิว การบีบสิวสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเปลี่ยนสีและแผลเป็น ไม่เพียงแต่การถูและการเกาแบคทีเรียที่มือของคุณเท่านั้น อาจทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น ให้แต้มด้วยครีมรักษารอยด่างเล็กน้อยและรอให้แผลหายดี ภาพจาก Freepik.com 3. คุณหมกมุ่นอยู่กับการล้างรูขุมขน หากคุณเป็นคนที่ทำความสะอาดรูขุมขนบ่อยการหลีกเลี่ยงที่จะเกิดแผลเป็น ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือโลหะเพื่อแยกสิวเสี้ยนหรือสิวหัวดำและหลีกเลี่ยงการใช้เล็บของคุณเช่นกันเพื่อป้องการการอักเสบรูขุมขน ให้ทำความสะอาดเครื่องมือด้วยแอลกอฮอล์ก่อนและหลังการใช้แต่ละครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของแบคทีเรียและลองใช้กระดาษทิชชู่กั้นระหว่างโลหะกับผิวของคุณ ภาพจาก Freepik.com 4. คุณส่องกระจกบ่อยแค่ไหน การใช้เวลามากเกินไปในการจ้องมองรูขุมขนของคุณในกระจกจะทำให้คุณหมกมุ่นอยู่กับสิวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่มีใครสังเกตเห็น นั่นอาจทำให้คุณอาจจะอยากกำจัดมันออกไป และคุณอาจจะได้รอยแผลจากสิวเพิ่มขึ้นบนใบหน้าของคุณก็เป็นได้ ภาพจาก Freepik.com 5. คุณใช้ผ้าเพื่อเช็ดทำความสะอาดใบหน้า การเช็ดทำความสะอาดใบหน้าหลังจากที่คุณล้างหน้าแล้ว ดูเหมือนเป็นการทำความสะอาดผิวที่ดี แต่หารู้ไม่ว่าการเช็ดหน้าด้วยการถูไปมานั้นอาจทำให้ผิวหน้าของคุณระคายเคือง และอาจจะทำให้ฝุ่นเล็ก ๆ หรือเชื้อแบคทีเรียในผ้านั้นไปอุดตันรูขุมขนได้ ยิ่งไปกว่านั้นจะทำให้รอยแผลจากสิวชัดขึ้นและหายช้าลงได้ แนะนำให้คุณใช้ผ้าทำความสะอาดด้วยการซับน้ำจากใบหน้าเบา ๆ ก็เพียงพอแล้ว ภาพจาก Freepik.com 6. คุณใส่เมคอัพหนัก ๆ การปกปิดรอยสิวโดยการทารองพื้น อาจทำให้ผิวระคายเคืองและทำให้รอยแผลเป็นจากสิวแย่ลงได้ ให้คุณหารองพื้นที่ไม่มีส่วนผสมน้ำมัน สิ่งนี้จะทำให้รอยแผลเป็นไม่แย่ไปกว่าเดิมและจางลงได้ไวขึ้นได้ ภาพจาก Freepik.com 7. คุณอาจไปพบแพทย์ผิวหนัง การรักษาตามขั้นตอนการดูแลผิวขั้นตอนแรกที่ดีที่สุด คือไปพบแพทย์ผิวหนังหากรอยแผลเป็นจากสิวกำลังกลายเป็นปัญหา แพทย์ผิวหนังสามารถให้การรักษาด้วยแสงสีน้ำเงินที่ไม่เจ็บปวดเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวบนผิวของคุณ การได้รับการดูแลผิวหน้าเป็นประจำทุกเดือนจะช่วยลดการทำลายของสิวและสามารถช่วยทำความสะอาดรูขุมขนในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้มากขึ้นซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นจากสิวได้เป็นอย่างดี การรักษารอยแผลเป็นจากสิวนั้นยากกว่า การป้องกันสิวและรักษาสิว สิ่งที่คุณควรทำคือวิธีที่แนะนำข้างต้นรับรองว่าใบหน้าของคุณจะปราศจากรอยแผลเป็นจากสิวและ รอยสิวจะหายไวขึ้น