เชื่อว่ามีสาว ๆ หลายคนหลงไหลผ้าห่มทิพย์ราคาแสนแพงที่ชื่อว่าผ้าพัชมิน่า "หนาวห่มอุ่นร้อนห่มเย็น" ผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในนั้นชอบห่มตอนอากาศหนาวเพราะความเบาและบางพกง่ายนั่นเอง เนื่องจากผู้เขียนมีโอกาสไปอินเดียบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมืองธรรมศาลาที่มีร้านพ่อค้าชาวแคชเมียร์นำผ้าพัชมิน่ามาขายมากมายมีทั้งแท้และเทียมและแคว้นแคชเมียร์ ถึงแม้ตอนนี้เพื่อน ๆ ผู้เขียนจะยกให้เป็นกูรูในเรื่องผ้าพัชมิน่า ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ก็ฝากให้ซืัอ หรือถ้ามาเองก็ต้องให้ผู้เขียนไปเลือกด้วยทุกครั้ง แต่เดียวก่อน! มาฟังแม่จ้า แม่โดนมาเยอะ เห็นผ้าในสมัยยุคเริ่มแรกที่เริ่มซื้อก็บังเกิดความขัดใจโดนพ่อค้าหลอกขายผ้าแคชเมียร์ในราคาเกือบเท่าผ้าแพชมิน่า น้ำตาจะหยดแหมะได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า ก็หนูไม่รู้นี่นา ไม่รู้ก็ต้องเรียนรู้ ค้นข้อมูลสารพัด แต่มารู้เยอะจริงคือได้มารู้จักคนขายที่อธิบายชัดเจนไม่โกหก และพาไปเยี่ยมถึงโรงทอในแคชเมียร์เลยจ้า มารู้จักผ้าพัชมิน่าให้มากกว่านี้กันดีกว่า พัชมิน่า (Pashmina) เป็นชื่อแพะภูเขาที่มีปอดขนาดเล็กต้องอาศัยบนภูเขาสูงมากกว่า 4,300 เมตรขึ้นไป ถ้าลงมาพื้นที่ต่ำปอดของมันจะแตกเพราะรับออกซิเจนได้ในปริมาณที่ต่ำ คนจะนำขนอ่อนที่ติดกับผิวหนังที่สุด มาทอเป็นผ้าพัชมิน่า ข้างต้นผู้เขียนพูดถึงคนขายเอาผ้าแคชเมียร์มาขายแล้วบอกว่าเป็นผ้าพัชมิน่า แคชเมียร์ (Cashmere) เป็นชื่อของแพะภูเขาเช่นกันแต่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ที่ความสูง 3,700 เมตร คนจะใช้ขนส่วนด้านนอกตัวแพะ ความละเอียดของขนจะน้อยกว่าขนจากพัชมิน่า และเก็บขนได้ปริมาณที่มากกว่า จึงทำให้ผ้าแคชเมียร์ราคาถูกกว่าพัชมิน่า น้ำหนักจะมากกว่าผ้าพัชมิน่าเล็กน้อย ความเหมือนที่แตกต่างนี้ คนที่ดูไม่เป็นจะคิดว่าเป็นอันเดียวกัน พวกพ่อค้าหัวใสจึงโกหกลูกค้าว่าเป็นผ้าพัชมิน่า เจอมาแล้วจ้า แต่เชื่อไหมผ้าพัชมิน่าแท้ 100 % มันดูไม่สวยเลยสำหรับบางคนเพราะมันจะบางแจ๋วแหววหนากว่าผ้าขาวบางคั้นกะทินิดนึง แล้วจะไม่มีความแวววาวด้วย มีคนบอกไว้ว่าถ้าผ้าพัชมิน่าแท้จะเอาสอดลอดแหวนได้ ผู้เขียนลองแล้วมันก็ผ่านทั้งพัชมิน่าและแคชเมียร์เลยนิ แต่ถ้าได้จับผิวสัมผัสมันจะต่างกัน แน่นอนผ้าพัชมิน่ามันจะนุ่มละเอียดมือมาก ๆ อันนี้ก็ต้องอาศัยประสบการณ์ที่ต้องลองสัมผัสผ้าทั้งสองชนิดมาก่อนไปอีก ผ้าพัชมิน่าจะมีทั้งสีธรรมชาติตามรูปด้านบนหรือย้อมสีอย่างดียี่ห้อของอังกฤษ โรงทอจะทำการย้อมสีหลังจากที่เอาขนมาปั่นเป็นเส้นด้ายก่อนเอามาทอ ผ้าพัชมิน่าที่ทอมือจะมีความแน่นละเอียดกว่าทอเครื่อง และคนที่หลงไหลผ้าพัชมิน่าจะบอกว่าการทอด้วยมือมีรสนิยมมากกว่าผ้าทอเครื่อง เนื่องด้วยผู้ซื้อบางคนจะรับได้ผ้าที่ทอเครื่อง และหรือผ้าพัชมิน่าที่ผสมไหมเพื่อความวาวหรือฝ้ายลงไปด้วยในราคาที่ถูกลงมากกว่าครึ่ง ราคาปกติของผ้าพัชมิน่าแท้ 100 % สีพื้นที่ซื้อจากโรงทอเลยไม่บวกกำไรจึงจะอยู่ที่ประมาณ 7,500 - 10,000 รูปี ขึ้นอยู่กับปริมาณในการซื้อ และผ้าพัชมิน่าที่นิยมอีกประเภทหนึ่งคือ ผ้าพัชมิน่าปักลาย เป็น Semi Pashmina แปลเป็นไทยคือผ้ากึ่งพัชมิน่า ตัวนี้ตัวผ้าจะเป็นพัชมิน่าแท้ 100% แต่ด้ายที่นำมาปักลวดลายจะเป็นฝ้าย งานปักมืออย่างปราณีต ดูสวยงามหรูหรา มีนักสะสมผ้าหลายคนที่ให้ผู้เขียนเลือกมาให้ มีทั้งแบบปักแบบเต็มผืน หรือปักเฉพาะขอบและชาย หรือปักเล็กเฉพาะขอบ บางผืนใช้เวลาปัก 10 เดือนหรือ 1 ปี ราคานั้นก็จะแตกต่างกันไปตามความละเอียดของลายปักเริ่มต้นตั้งแต่ 20,000 รูปีขึ้นไปจนถึงหลักแสน คนที่ปักผ้าพัชมิน่าได้ไม่ใช่ทุกคน เจ้าของร้านขายส่งพัชมิน่าจะเป็นผู้จ้างและคัดเลือกช่างปัก เพราะต้องอาศัยความใจเย็นมาก ๆ ไม่อย่างนั้นงานจะออกมาย่นไม่สวยงาม และอีกอย่างหนึ่งที่เจ้าของร้านขายพัชมิน่าทั่วไปไม่ค่อยบอกคนซื้อมือใหม่ คือผ้าพัชมิน่าแท้ เค้าจะไม่เอามาโชว์หน้าร้าน ส่วนใหญ่หน้าร้านที่แขวนโชว์จะเป็นผ้าแคชเมียร์แต่คนขายจะเรียกพัชมิน่า ถ้าคนไม่เคยจับพัชมินามาก่อนก็เข้าใจว่ามันอันเดียวกันค่ะ เนื่องด้วยผ้าพัชมิน่ามันมีราคาแพง ไม่คุ้มหากเกิดความเสียหาย ดังนั้นเวลาที่เราเข้าไปในร้านเค้าก็จะสังเกตุว่าเรารู้เรื่องพัชมิน่ามากแค่ไหน แล้วถึงจะเอาออกจากหีบมาให้ดูค่ะ อันนี้แท้จริงค่ะเพราะเพื่อนที่เป็นเจ้าของร้านเล่าให้ผู้เขียนฟัง ดังนั้นถ้าอยากเห็นและซื้อของจริงบอกคนขายไปเลยค่ะว่าขอดู Pure Pashmina หน่อยเค้าก็จะไปเปิดห้องเก็บลากกระเป๋าหรือหีบใส่ผ้ามาให้ดูค่ะ ถามได้เลยค่ะ สุดท้ายการดูแลรักษา ให้ทำความสะอาดโดยใช้แชมพูเด็กละลายน้ำแช่ทิ้งไว้สักครู่ ล้างแชมพูออก ห้ามขยี้หรือบิด ให้ค่อย ๆ เอามาวางบนผ้าขนหนูแล้วเอาผ้าขนหนูอีกผืนซับน้ำออก พอหมาดผึ่งลมให้แห้ง การซักไม่ต้องทำบ่อยเกินไปเพราะมันจะมีผลต่อเส้นใย พับเก็บในกล่องหรือกระเป๋าที่ไม่มีกลิ่นอับ แค่นี้มันก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานหลายสิบปีค่ะ ภาพถ่ายโดยแทนใจ