ถ้าจะให้พูดถึง นมวัว อาหารที่มีประโยชน์ และเรามักจะถูกปลูกฝังให้ดื่มกันเยอะ ๆ แถมดื่มได้ทุกเพศทุกวัย เพื่อน ๆ คงจะรู้จักกันดี และเรามักจะเห็นการโฆษณาพูดถึง แคลเซียมสูง ในนมวัว ซึ่งแน่นอนว่าแคลเซียมคือ สารอาหารที่จำเป็นต่อการกระดูกและฟัน เพราะโครงสร้างของกระดูกและฟันเป็นแคลเซียมมากถึง 99% แล้วมันยังมีประโยชน์ต่อส่วนอื่น ๆ ด้วยนะครับ อย่างเช่น ช่วยดูแลระบบหลอดเลือด ป้องกันเลือดแข็งตัว ควบคุมการทำงานของหัวใจ และช่วยการทำงานของระบบประสาทอีกด้วย ภาพจาก pixabay.com แล้วแคลเซียมเราพบแค่ในนมวัวอย่างเดียวหรือเปล่า จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลยนะครับ มันยังมีอยู่ในอาหารชนิดอื่น ๆ เยอะแยะเลย แถมอาหารบางอย่างจะมีเยอะกว่านมวัวด้วยซ้ำ ในปริมาณที่กินเข้าไปเท่า ๆ กันนะครับ เริ่มสงสัยกันแล้วละใช่ไหมครับว่ามีอะไรบ้าง วันนี้ผู้เขียนก็ไปหามาฝากเพื่อน ๆ กันแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราไปดูกันเลยดีกว่าครับ 1. งาดำ ธัญพืชสุดฮิตที่กำลังมาแรง ด้วยสารอาหารที่มีอยู่เยอะในงาดำ ปัจจุบันก็จะทำออกมาในรูปแบบของ นมถั่วเหลืองผสมงาดำ เหมือนที่เราเห็นตามท้องตลาดนั่นแหละครับ ซึ่งงาดำ 100 กรัม จะมีแคลเซียมสูงถึง 1,200 มิลลิกรัม ซึ่งนมวัวมีอยู่ประมาณ 650 มิลิกรัม นอกจากนี้งาดำยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกนะครับ เช่น ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยดูแลเส้นผม ช่วยเผาผลาญพลังงาน เป็นต้น ทีนี้ก็ไม่แปลกใจแล้วใช่ไหมละครับ ว่าทำไมนมผสมงาดำถึงได้เป็นที่นิยมกันมากขึ้น แถมกลิ่นของงาดำยังหอมอีกด้วยนะครับ ภาพจาก pixabay.com 2. ปูกะตอยทอดกรอบ เคี้ยวเพลิน ๆ แต่ประโยชน์ล้นเหลือ ปูกะตอยเป็นปูทะเลตัวเล็ก ๆ ครับ ซึ่งชาวบ้านนิยมเอามาทอดกรอบขาย ใครที่ไปเที่ยวทะเลคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี นี่คือสุดยอดของกินเล่น เคี้ยวเพลิน ๆ กรอบ ๆ หรือจะกินเป็นอาหารมื้อหลักก็ได้นะครับ ซึ่งแคลเซียมที่มีหากเรากินในปริมาณ 100 กรัม จะมีมากถึง 3,824 มิลลิกรัม โอ้โห!! อย่างเยอะ กินแค่ไม่กี่ตัวก็ได้แคลเซียมที่เพียงพอต่อวันแล้วนะครับ จากนี้ยังมีสารอาหารอย่างโปรตีน ที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างกล้ามเนื้ออีกด้วย ภาพจาก pixabay.com 3. ใบมะกรูด เอาไปทอดกรอบอร่อยมาก ๆ เพื่อน ๆ ไม่ต้องตกใจนะครับ ใบมะกรูดที่เราเอาไว้ใส่ต้มยำ เอาไปทอดกรอบกินกับเนื้อทอด หรือใช้เป็นเครื่องเทศในอาหารไทยเรานี่แหละครับ เพราะว่าใบมะกรูดให้กลิ่นที่หอม และเป็นเอกลักษณ์นั่นเอง ใครที่ชอบเขี่ยทิ้งต้องคิดใหม่แล้วนะครับ เพราะในใบมะกรูด 100 กรัม จะมีแคลเซียมสูงถึง 1,672 มิลิกรัมเลยทีเดียว และในใบมะกรูดยังมีสารเบต้าแคโรทีน ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายได้อีกด้วย ภาพใบมะกรูดโดยผู้เขียน 4. มะขามหวาน ของดีเมืองเพชรบูรณ์ ปิดท้ายกันที่ผลไม้กันดีกว่าครับเพื่อน ๆ พูดถึงมะขามหวานถ้าอยากกินที่อร่อยสุด ๆ ก็ต้องเป็นมะขามหวานเมืองเพชรบูรณ์แน่นอนอยู่แล้ว เพราะขนาดที่ว่าตั้งเป็นคำขวัญประจำจังหวัดเลยนะสิครับ ไปดูแคลเซียมที่มีอยู่ในมะขามหวานกันดีกว่าครับ ในปริมาณ 100 กรัม จะมีแคลเซียมอยู่ประมาณ 141 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามิน ซี และ อี ที่ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ และสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอีกด้วย ภาพจาก pixabay.com แหมมีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลยใช่ไหมละครับ ที่นำมาฝากกันวันนี้ก็เพราะว่า บางทีเราก็เบื่อการดื่มนม อยากจะกินอาหารอย่างอื่นบ้าง ที่จะทำให้เราได้รับแคลเซียม เพียงพอต่อความต้องการได้เหมือนกัน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วเราต้องการแคลเซียม ประมาณ 800-1,200 มิลิกรัมต่อวัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุช่วงวัยทอง หรือคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ แคลเซียมจำเป็นมากเลยนะครับ เพราะช่วงนี้เราจะสูญเสียแคลเซียมเยอะกว่าคนทั่วไปนั่นเอง ภาพหน้าปกจาก Freepik.com