กลิ่นตัวไม่ใช่เรื่องตลก! 3 วิธีเช็คสุขภาพจากกลิ่นตัว พร้อมวิธีดับกลิ่นด้วยตัวเองเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เด็ก ๆ วัยรุ่นทุกคนทั้งเพศชาย เพศหญิง ต่างเริ่มสังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ในวัยเจริญพันธุ์ฮอร์โมนต่าง ๆ ก็ต่างทำงานมากขึ้น เด็กชายเริ่มมีหนวด มีเครา เสียงแตกเนื้อหนุ่ม ในขณะที่เด็กสาวก็เริ่มมีหน้าอก เอวคอด และมีประจำเดือน และสิ่งที่พวกเราต่างมีเหมือนกันนั่นก็คือเรื่องของ กลิ่นตัว โดยธรรมชาติแล้วเราทุกคนต่างมี กลิ่นกาย ที่เป็นลักษณะเฉพาะของเราเอง กลิ่นนั้นจะไม่เหม็นมากจนทนไม่ได้ เป็นกลิ่นอ่อน ๆ ปกติ อาจจะถูกกลบด้วยน้ำหอม หรือน้ำยาปรับผ้านุ่มบ้าง แต่ก็มีหลายครั้งที่เรารู้สึกได้ถึง กลิ่นที่แรงเกินทน โดยแต่ละกลิ่นนั้นก็มีสาเหตุที่มาที่ต่างกัน และยังเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสุขภาพของเราอีกด้วย photo: https://unsplash.com/photos/QNn7w4jHx2w01. กลิ่นเหม็นเปรี้ยวเนื่องจากว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน หลังจากอาบน้ำแต่งตัวสวยหล่อออกจากบ้านแล้ว ทันทีที่ก้าวขาขึ้นรถประจำทาง เหงื่อก็เริ่มออกจนอยากจะนั่งรถกลับไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ จึงไม่แปลกใจว่ากลิ่นตัวที่หลายคนประสบปัญหามากที่สุดก็คือกลิ่นจากเหงื่อไคลตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น รักแร้ ข้อพับต่าง ๆ หรือบริเวณขาหนีบ กลิ่นเหล่านี้เกิดจาก เหงื่อของเราผสมกับแบคทีเรีย ทำให้กลายเป็นกลิ่นเปรี้ยวไม่พึงประสงค์ที่ในรายการโทรทัศน์ชอบนำมาล้อเลียนกันนั่นเองวิธีการรักษากลิ่นเหล่านี้ คือการรักษาความสะอาดของเสื้อผ้าเป็นอันดับแรก เพราะบางคนกลิ่นแรงมากจนติดเสื้อผ้าหลายตัว พอนำกลับมาใส่กลิ่นก็ทวีความรุนแรงอีก และอย่างที่สองคือการใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่ช่วยลดแบคทีเรีย อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ว่าตัวไหนที่ใช้ดี และลดแบคทีเรียได้จริง ไม่ต้องเน้นกลิ่นหอมมาก ที่สำคัญคือถ้ารู้ว่าเหงื่อเยอะ อาจจะนำเสื้อผ้าไปเปลี่ยนช่วงบ่ายได้ และพกผ้าเย็นไว้เสมอเพื่อเช็คคราบไคลบนร่างกายลงก็ช่วยได้photo: https://unsplash.com/photos/B5LZDN_t_fc02. กลิ่นสาปฉุนจมูกเรามักจะได้กลิ่นเหล่านี้มาจากผู้ชายที่เป็นนักกีฬาทั้งหลายที่เหงื่อออกเยอะกว่าคนปกติทั่วไป ทำให้แบคทีเรียมากกว่าหลายเท่า และยังพบได้ในคนที่มีน้ำหนักตัวค่อนข้างเยอะ ทำให้การผลิตเหงื่อออกมามากกว่าปกติ และยังเกิดการสะสมตามบริเวณข้อพับ ร่างกายในส่วนต่าง ๆ ทำให้กลิ่นแรงมากขึ้นวิธีแก้ อาจจะต้องเริ่มจากการสำรวจตั้งแต่เรื่องอาหารที่เราทานทั่วไป อาทิ การทานอาหารรสจัด หรือ เครื่องเทศ ก็ส่งผลต่อเรื่องกลิ่นตัวได้ และการทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ควรจะใช้ผลิตภัณฑ์อย่าง เดทตอล แช่ด้วยเพื่อกำจัดเหล่าแบคทีเรียที่เกาะติดบนเสื้อผ้า ควรเลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่นยี่ห้อของ Uniqlo เป็นต้น แม้ว่าเหงื่อจะออกไว แต่ก็ระบายได้ง่ายเช่นกัน หลีกเลี่ยงผ้ายีนส์ ผ้ารัดรูปที่ทำให้เหงื่อไม่มีที่ระบายออก งดทานอาหารทอด มัน เค็ม เพราะมันไปกระตุ้นให้เหงื่อเราออกเยอะขึ้นphoto: https://unsplash.com/photos/ft7vJxwl2RY03. กลิ่นเค็มหลายคนอาจจะเคยโดนทักว่าทำไมกลิ่นเค็ม ๆ จังวันนี้ แหม แค่พูดก็ขมคอกันเลยทีเดียว กลิ่นแบบนี้ไม่ต้องตกใจไป เพราะอาจจะเกิดมาจากอาหารที่เราทานอาหารในบางชนิด อาทิ ของหมักดอง เป็นต้น ถ้าไม่ใช่กลิ่นเปรี้ยวรุนแรง อาจจะต้องลองมาสำรวจกันอีกทีว่าเราทานอาหารอะไรผิดปกติไปหรือไม่ เพราะอาหารก็ส่งผลต่อกลิ่นกายของเราเช่นกัน อย่าง การทานเนื้อสัตว์มาก ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดกลิ่นได้ หรือสำหรับสาว ๆ หากเกิดกลิ่นเค็มก็ต้องเริ่มสำรวจว่าเกิดจากกลิ่นที่ร่างกาย หรือเกิดจากจุดซ่อนเร้นของเรากันแน่ วิธีแก้คือเริ่มสำรวจอาหารที่เราทานและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมก่อน ถ้าหากว่ากลิ่นลดลงก็เป็นไปได้ว่าเราได้แก้สาเหตุของปัญหาอย่างตรงจุด แต่ถ้ากลิ่นยังไม่หายอันนี้อาจจะต้องเริ่มปรึกษาคุณหมอเพิ่มเติมphoto: https://unsplash.com/photos/opGKCk9GImUเรื่อง กลิ่นกาย ของมนุษย์นั้น เป็นเรื่องปกติมาก ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ และเปลี่ยนแปลงไปตามอาหาร กิจกรรม สภาวะอากาศ รอบ ๆ ตัวเรา ดังนั้นหากเริ่มรู้สึกว่ากลิ่นกายตัวเองแปลกไปจากปกติ ก็อาจจะบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพบางอย่างได้ ดังนั้นจึงอย่าละเลยที่จะสำรวจและรักษา หลายคนชอบประโคมน้ำหอมดับกลิ่น นั่นเป็นข้อเสียที่ทำให้เราไม่ได้รับรู้กลิ่นที่แท้จริงของตัวเอง หรือกลิ่นที่ธรรมชาติพยายามจะส่งสัญญาณผิดปกติกับเรา ดังนั้นทุกวันอย่าลืมดมกลิ่นกายตัวเอง และคนข้าง ๆ นะคะ เพื่อเช็คว่าเรายังมีสุขภาพที่ดีอยู่จริง ๆ :)