ผู้หญิงหลายคนคงเคยพบเจอกับปัญหาอันน่ากวนใจของน้องสาวทั้งในภาวะปกติและช่วงมีประจำเดือน ทำให้เกิดความกังวลและไม่มั่นใจเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่น ซึ่งส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพได้ โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีอาการคัน ตกขาว มีกลิ่นเหม็นตรงบริเวณจุดซ่อนเร้น ถ้าอาการเหล่านี้เกิดในช่วงก่อนหรือหลังมีประจำเดือนไม่กี่วันยังถือว่าปกติอยู่ เนื่องจากก่อนมีประจำเดือนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิงที่เกี่ยวกับการตกไข่คือ estrogen และ progesterone ส่งผลให้เกิดอาการตกขาวและคันตามมา แต่ถ้าอาการเหล่านี้เกิดในช่วงที่ไม่มีประจำเดือนถือว่ามีความผิดปกติและควรจะรีบรักษาอย่างเร่งด่วน การคัน ตกขาว มีกลิ่นเหม็น ที่ผิดปกตินั้น เกิดจากสาเหตุการติดเชื้อในช่องคลอด ซึ่งสามารถแยกออกได้จากสีของตกขาว > เฉดสีขาว หรืออาจมีอาการคันร่วมด้วย แต่ไม่มีกลิ่นเหม็น แสดงว่าอาจเกิดจากการติดเชื้อราหรือแคนดิดาได้ > สีเหลือง-เขียว มีกลิ่นเหม็นมาก บางคนอาจมีอาการตกขาวเป็นฟองร่วมด้วย สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ > สีเทา เป็นลักษณะการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด โดยการตกขาวแบบนี้มักจะมีกลิ่นเหม็นร่วมด้วย การรักษาอาการตกขาวผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าวข้างต้น ต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือครีมทาภายในเพื่อบรรเทาอาการคัน โดยแต่ละอาการจะใช้ยาปฏิชีวนะที่แตกต่างกันไปตามลักษณะการติดเชื้อ และจะต้องกินยาติดต่อกันจนหมด ผู้ป่วยควรพบแพทย์หรือเภสัชกรที่มีความชำนาญ การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการตกขาว> รักษาความสะอาด เช็ดให้แห้งสนิท ไม่ปล่อยให้อับชื้น> ป้องกันทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เช่น การใส่ถุงยางอนามัย> หลีกเลี่ยงของหมักดอง เช่น หน่อไม้ดอง ปลาร้า ฯลฯ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้อาการตกขาวแย่ลงได้> การชำระล้างจุดซ่อนเร้นวิธีที่ดีที่สุดคือควรล้างกับน้ำเปล่าที่สะอาด> กินโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวที่ส่วนผสมของเชื้อจุลินทรีย์อยู่เป็นประจำ เนื่องจากเชื้อเหล่านี้เป็นเชื้อประจำถิ่นสามารถปกป้องช่องคลอดจากเชื้อโรคภายนอกได้เป็นอย่างดี เครดิตรูปภาพ : ภาพประกอบที่1 / ภาพประกอบที่2 / ภาพประกอบที่3 / ภาพประกอบที่4