น้ำมันพืชที่ใช้ประกอบอาหารในปัจจุบันมีมากมายหลายชนิด เช่นน้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันปาล์ม น้ำมันเมล็ดองุ่น น้ำมันรำข้าว จนบางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าจะเลือกน้ำมันพืชชนิดใดมาใช้ปรุงอาหาร ยิ่งในยุคปัจจุบันที่เราได้รับวัฒนธรรมการทำอาหารจากชาวตะวันตก ทำให้บางครั้งก็เลือกไม่ถูกว่าจะใช้น้ำมันพืชชนิดไหน ในการทำอาหารแบบใด จึงเสี่ยงที่จะใช้น้ำมันพืชเหล่านั้นไปปรุงอาหารผิดประเภทก็ทำให้คุณค่าทางสารอาหารลดลง และอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ วันนี้เราเลยจะมาแชร์ วิธีเลือกน้ำมันพืชปรุงอาหาร ให้ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ได้ทั้งความอร่อย และคุณค่าของสารอาหารเรามาดูกันเลยค่ะว่า 3 วิธีเลือกน้ำมันพืชมาปรุงอาหาร มีอะไรบ้าง ?1. เลือกน้ำมันพืชมาปรุงอาหาร โดยดูจากกรรมวิธีในการผลิต น้ำมันพืชบางชนิด เช่น น้ำมันมะกอก มีกรรมวิธีการผลิตทั้งแบบสกัดธรรมดา และแบบสกัดเย็น โดยวิธีเลือกน้ำมันพืชมาปรุงอาหาร ให้ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ มีดังนี้น้ำมันพืชแบบสกัดเย็นนิยมเอามาทำน้ำสลัด เพราะจะได้คุณค่าทางสารอาหาร และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ไม่ควรนำน้ำมันพืชแบบสกัดเย็นไปปรุงอาหารร้อนเพราะเสี่ยงที่ไขมันจะแปรสภาพเป็นไขมันทรานส์ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพ สำหรับน้ำมันพืชแบบสกัดเย็น ปกติจะมีอายุใช้งานสั้น ดังนั้นเราจึงควรซื้อน้ำมันพืชแบบสกัดเย็นขวดเล็กมาไว้ปรุงอาหาร น้ำมันพืชที่เราเห็นชาวตะวันตกใช้ทำน้ำสลัดบ่อย ๆ ก็คือ น้ำมันมะกอกแบบสกัดเย็น เดี๋ยววันหลังจะเอาสูตรน้ำสลัดสุขภาพมาแชร์ให้ค่ะ น้ำมันพืชแบบสกัดธรรมดาน้ำมันพืชแบบสกัดธรรมดาไม่ว่าจะเป็นน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันรำข้าว น้ำมันปาล์ม นิยมเอามาปรุงอาหารร้อน เช่น เมนูผัด หรือ อาหารทอด 2. เลือกน้ำมันพืชมาปรุงอาหารจากพืชที่ผลิต น้ำมันพืชที่ดี มีคุณค่าทางสารอาหารสูง มีการแนะนำให้นำมาปรุงอาหารมากที่สุด คือ น้ำมันมะกอก ซึ่งเป็นน้ำมันที่มีไขมันไม่อิ่มตัวสูง และมีกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด แต่หากเรานำน้ำมันมะกอกแบบสกัดเย็น มาปรุงอาหารร้อนก็อาจจะทำให้ไขมันในน้ำมันมะกอกแปรสภาพเป็นไขมันทรานส์ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างที่เรากล่าวไว้ข้างต้น หรือน้ำมันพืชบางประเภทเช่น น้ำมันดอกทานตะวัน มีสารโอเมก้า -6 สูงหากเรานำมาทอดโอกาสที่สารตัวนี้จะแตกตัวทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ รายละเอียดตรงนี้เราเขียนแยกไว้ให้ ติดตามอ่านในบทความถัดไปค่ะ 3. เลือกน้ำมันพืชปรุงอาหาร โดยดูจากไขมันในน้ำมันเพื่อให้ได้รับคุณค่าทางสารอาหารในน้ำมันพืช และน้ำมันจากสัตว์หลายชนิด มีไขมันหลัก 4 ชนิด คือไขมันอิ่มตัว มักจะแข็งตัวเมื่อมีอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาอันนี้เราจะสังเกตได้ง่ายในช่วงหน้าหนาว ที่บางครั้งเราก็พบว่าน้ำมันในขวดที่ซื้อมาแข็งตัว ตัวอย่างไขมันอิ่มตัว เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม ซึ่งบ้านเรานิยมนำมาทำอาหารทอดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวเป็นไขมันดี พบมากในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันงา หรือ น้ำมันจากปลา เช่น ปลาแซลมอน หรือ น้ำมันจากเมล็ดถั่วต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่นักโภชนาการแนะนำให้รับประทานน้ำมันที่มีส่วนผสมของไขมันอิ่มตัวเชิงเดี่ยว เพราะจะช่วยลดระดับไขมันไม่ดีในเลือด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และความดัน ทำให้ร่างกายได้รับกรดไขมันที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสุขภาพของเราเองไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนในน้ำมันพืช พบมาก เช่น น้ำมันเมล็ดองุ่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันทานตะวัน การรับประทานน้ำมันที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน จะช่วยลดระดับไขมันไม่ดีในเลือด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และความดัน ทำให้ร่างกายได้รับกรดไขมันที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ เช่นเดียวกับไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว น้ำมันชนิดนี้จะทนความร้อนได้น้อยไขมันทรานส์ เป็นการนำไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน มาแปรสภาพโดยการเติมฟองอากาศจากไฮโดรเจนบางส่วนไปในน้ำมันพืช ทำให้น้ำมันพืชเปลี่ยนสภาพจากของเหลวเป็นของแข็ง หรือ กึ่งเหลว เช่น เนยเทียม เนยขาว ครีมเทียม มาการีน หรือแม้แต่การใช้น้ำมันพืชไม่ถูกประเภท ถูกวิธีก็เสี่ยงที่ไขมันดี จะแปรสภาพเป็นไขมันทรานส์ได้เช่นกัน การรับประทานไขมันทรานส์ในปริมาณมาก จะทำให้ระดับไขมันไม่ดีในเลือดสูงขึ้น ลดไขมันดีในร่างกาย หากรับประทานไขมันทรานส์ในปริมาณมากจะทำให้เกิดโรคอ้วน เบาหวาน ความดันสูง ตับทำงานผิดปกติ นิ่วในถุงน้ำดี ตัวอย่างอาหารที่มีไขมันทรานส์สูงเช่น เนย มาการีน ที่ต่างประเทศเค้านิยมเอามาทำขนมปัง ขนมอบ เค้ก หรือเอามาทาขนมปังรับประทาน โดยส่วนตัวเราเอง เมื่อก่อนเราก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจกับการเลือกน้ำมันพืชมาทำอาหารมากเท่าไรนัก ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะบ้านเราใช้น้ำมันพืชในการผัด และทอดส่วนใหญ่ แต่ช่วงที่เรามาอยู่ที่ต่างประเทศ น้ำมันพืชที่ขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตมีมามายหลายแบบ บอกไว้ชัดเจน ว่าใช้ทำอะไร และเราสังเกตเห็นว่า ชาวตะวันตกเค้าจะมีน้ำมันพืชหลายชนิดติดบ้าน เค้าอธิบายว่า น้ำมันพืชแต่ละชนิดทนความร้อนได้ไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงใช้ทำอาหารที่แตกต่าง รู้แบบนี้มีหรือที่เราจะไม่หาข้อมูลเพิ่ม หลังจากนั้นเราเลยพยายามใช้น้ำมันมาทำอาหารให้ตรงกับชนิดอาหาร และพยายามลดอาหารที่มีไขมันทรานส์ พวกของทอด ของมัน ทั้งนี้เพื่อสุขภาพที่ดีของเราเอง แล้ววันหลังจะเปรียบเทียบส่วนประกอบของน้ำมันพืชแต่ละชนิดให้ดูว่าแต่ละตัวมีอะไรน่าสนใจ วันนี้ขอลาไปก่อน แล้วกลับมาพบกันใหม่นะคะบทความอื่นที่เกี่ยวข้องรักษาโรคเหงือกอักเสบ กรอรากฟัน ที่คลินิกทันตกรรมสกายเทรน ดีขึ้น จนไม่อยากเชื่อ (trueid.net)5 อาหารที่ควรเลี่ยงมากที่สุด เมื่อเดินทางมาจากต่างประเทศ (trueid.net)รีวิวนมอัดเม็ด ดอยคำ ที่เซเว่น อร่อย รสชาติดี มี 2 รสให้เลือก (trueid.net)https://food.trueid.net/detail/Glv5VOvvKdjohttps://food.trueid.net/detail/OKPdjzxn0YwKขอขอบคุณภาพปก โดย Pezibear จาก Pixabay รูปภาพ ประกอบบทความทั้งหมดโดยผู้เขียนกราฟฟิกจากเว็บ CanvaBy Nurseonomyอยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้