ซอสมะเขือเทศเป็นของคู่ครัวเรามานาน นับตั้งแต่อาหารทางฝั่งตะวันตกเริ่มเข้ามาแพร่หลายในบ้านเรา แต่จะดีกว่ากันมั้ย หากเราทำซอสมะเขือเทศกินเองได้เพื่อสุขภาพของเราเองและทุกคนในครอบครัว เพราะในซอสมะเขือเทศที่มีขายตามท้องตลาดนั้นมีปริมาณน้ำตาลสูงถึง 25.95 กรัม ต่อน้ำหนักซอสมะเขือเทศ 100 กรัม และมีโซเดียมถึง 741 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังมีสารกันบูดและสารอื่น ๆ ที่ร่างกายเราไม่ต้องการเป็นของแถมอีกด้วย ขอบคุณภาพประกอบโดย Davies Designs จาก Pixabay จริงๆ แล้วเราสามารถทำซอสมะเขือเทศได้เองในครัวที่บ้านโดยไม่ยุ่งยากอะไรนัก และอุปกรณ์หลักที่จำเป็นจริงๆ ก็มีแค่เครื่องปั่นผลไม้เท่านั้นเองค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียมคือขวดแก้วสำหรับบรรจุซอสพร้อมฝาที่ล้างและต้มฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว วัตถุดิบที่ต้องใช้คือ มะเขือเทศราวครึ่งกิโลกรัม หอมใหญ่ 3 หัว กระเทียมไทย 3 หัว แครอต 2 หัว ขึ้นฉ่ายฝรั่ง (Celery) 3 ก้าน เครื่องปรุงรสที่ต้องใช้ น้ำส้มสายชูหมัก เกลือทะเล 1 ช้อนชา น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ (หรือมากกว่านั้นตามชอบ) ใบกระวานแห้ง 3 ใบ (ใช้แต่งกลิ่น) พริกไทยครึ่งช้อนชา ขอบคุณภาพประกอบโดย Clker-Free-Vector-Images จาก Pixabay วิธีทำ หอมใหญ่หั่นเต๋านำไปผัดกับน้ำมันจนมีความใส ใส่เกลือทะเลลงไปเล็กน้อย จากนั้นจึงโขลกกระเทียมนำลงไปผัดด้วยกันจนหอมใหญ่และกระเทียมกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน หั่นแครอทเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเช่นกัน นำลงไปผัดด้วย ตามด้วยก้านขึ้นฉ่ายฝรั่งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ผัดพอทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนสี ฉีกครึ่งใบกระวานใส่ลงไป แล้วตามด้วยมะเขือเทศที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ผัดให้ทุกอย่างละลายรวมกันจนงวดลงและมีกลิ่นหอม จึงเริ่มปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว ตามด้วยน้ำส้มสายชูหมัก(ส่วนนี้ต้องกะเอานะคะ เพราะแต่ละคนชอบเปรี้ยวมากเปรี้ยวน้อยต่างกัน) ผัดต่อไปจนหมดกลิ่นฉุนของน้ำส้มสายชู ใส่พริกไทยเล็กน้อย ปิดไฟ แล้วเอาใบกระวานออก รอให้อุ่น นำไปปั่น แล้วกรองผ่านกระชอน นำไปตั้งไฟอีกครั้ง ชิมและเพิ่มเติมรสชาติตามชอบ ก่อนบรรจุขวดในขณะที่ยังร้อน ปิดฝาแล้วคว่ำขวดลงสักพัก ซอสที่ได้นี้สามารถเก็บไว้นอกตู้เย็นนาน 1 สัปดาห์ แต่ขอแนะนำว่าหากเปิดใช้แล้วควรเก็บในตู้เย็นจะดีที่สุดค่ะ ขอบคุณภาพประกอบโดย Rico k จาก Pixabay ซอสมะเขือเทศทำเองอาจมีสีที่ไม่สดสวยเท่าซอสที่มีขายตามท้องตลาด แต่มีกลิ่นและรสที่หอมอร่อยและดีต่อสุขภาพกว่าแน่นอนค่ะ .... และขอบคุณภาพปกโดย ขอบคุณภาพปกโดย Istvan Pocsai จาก Pixabay
