ติดเชื้อในกระแสเลือด คำนี้เรียกว่า หากใครได้ยินเป็นต้องใจหวั่นไม่น้อย ยิ่งเกิดขึ้นกับตัวเองหรือบุคคลใกล้ชิดยิ่งผวาเป็นเท่าตัว เพราะเท่าที่รับรู้โดยทั่วไป อาการนี้พาผู้ป่วยเสียชีวิตค่อนข้างมาก เราสูญเสียดารานักแสดง คนมีชื่อเสียง ด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดหลายคน ทั้ง แอน อังคณา ทิมดี กระทั่งล่าสุด นาธาน โอมาน ติดเชื้อในกระแสเลือดคืออะไร น่ากลัวจริงหรือไม่ ติดเชื้อในกระแสเลือด ไม่ใช่โรค แต่เป็นภาวะแทรกซ้อนขึ้นมาในขณะที่เราป่วย และอ่อนแอ ฉะนั้นบางครั้งจะพบว่า ผู้ป่วยนอนพักรักษาตัวด้วยอาการหนึ่ง แต่หมอสรุปว่า เสียชีวิตเพราะติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งโดยทั่วไปมีสาเหตุดังนี้ 1. ป่วย ขณะที่ร่างกายอ่อนแอ ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่าปกติ ในขณะเดียวกันแม้จะไม่ป่วยแต่เด็กกับคนชราก็มีโอกาสติดเชื้อในกระแสเลือดสูง เพราะภูมิต้านทานต่ำ 2. มีโรคประจำตัวเป็นทุนเดิม เช่น ตับแข็ง เนื่องจากตับมีหน้าที่กรองป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย หากตับทำงานไม่ได้ เชื้อโรคก็ยกทัวร์เข้าร่างกายได้อย่างสบาย, เบาหวาน เพราะถ้าน้ำตาลในเลือดสูง ประสิทธิภาพในการต้านทานเชื้อโรคจะต่ำ 3. อื่น ๆ เช่น มาจากขั้นตอนการรักษา ได้แก่ ใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์สอดเข้าร่างกาย สวนเส้นเลือด ก็มีส่วนทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายเช่นกัน นอกจากนี้ผู้ป่วยเกี่ยวกับเม็ดเลือดขาว เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดขาวบบกพร่อง ก็มีโอกาสติดเชื้อในกระแสเลือดสูง เพราะเม็ดเลือดขาวมีหน้าที่ป้องกันเชื้อโรค เชื้อโรคอะไรที่มักทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด เชื้อโรคที่มักเข้าไปติดเชื้อในกระแสเลือด ได้แก่ เชื้อจุลชีพต่าง ๆ อย่าง ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา เป็นต้น ผู้เขียนเอง เคยมีประสบการณ์กับการได้ฟังคำวินิจฉัยจากหมอว่า "ติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด" ทำเอาใจแป้วไม่น้อย เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ช่วงหนึ่งลุยงานกิจกรรมค่ายเยาวชนอย่างต่อเนื่องอดหลับอดอดนอน อาหารก็กินไม่เต็มที่เพราะมัวกังวลอยู่กับงาน เมื่อโครงการเสร็จ ผู้เขียนก็ป่วย รอบแรกฉีดยาปฏิชีวนะ ก็หาย แต่อาการดีขึ้นเพียงสัปดาห์เดียว อาการป่วยรุนแรงก็กลับมาอีก ก็ใช้วิธีเดิม คือ ฉีดยา รอบนี้หมอเพิ่มการให้ยาทางเส้นเลือด อาการก็ดีขึ้นเพียง 1 สัปดาห์ ครั้งที่ 3 หมอจึงบอกว่า ติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด ให้รักษาโดยการพ่นยา ในที่สุดอาการก็หายขาด ดีที่รักษาตรงจุด จึงไม่ถึงกับมีข่าวเศร้า การรักษาอาการติดเชื้อในกระแสเลือด การจะรู้สาเหตุว่าติดเชื้อชนิดไหน ต้องเจาะเลือดตรวจสารคัดหลั่ง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 - 5 วัน แต่ส่วนมากการติดเชื้อในกระแสเลือดมักฉุกเฉิน แพทย์จึงต้องวินิจฉัยเบื้องต้นและให้ยาที่ครอบคลุมให้มากที่สุด โดยทั่วไปถ้าให้ยาเร็วโอกาสหายสูง ถ้าช้าก็เสี่ยงสูงตามไปด้วย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอาการ แต่อย่างที่บอกว่าภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดมักมาเมื่อร่างกายอ่อนแอ เช่น นอนรักษาร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมียาแก้อาการต่าง ๆ ระงับอยู่ กว่าจะรู้ตัวว่าติดเชื้อในกระแสเลือด ก็แทบให้ยากันไม่ทันแล้ว อย่างกรณีผู้เขียนเองที่หยิบมาเล่า ซึ่งเคราะห์ดียาที่หมอให้เป็นการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย อาการจึงหายไป แต่ไม่หายขาดเนื่องจากไม่ตรงประเภท หรือตรงจุดจริง ๆ ที่สำคัญผู้เขียนไม่ได้ติดเชื้อรุนแรง ในทางกลับกันหากผู้เขียนนอนป่วยลามไปถึงปอดอยู่โรงพยาบาล การได้รับยาฆ่าเชื้อไม่ตรงจุดอย่างนี้ ไม่แน่อาจส่งผลให้ไม่มีโอกาสมานั่งเขียนบทความนี้อยู่ก็ได้ ทำอย่างไรจึงจะไม่ติดเชื้อในกระแสเลือด วิธีป้องกัน สำคัญเลย คือ ดูแลตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปฏิบัติตนตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เชื้อโรคเข้ามารุกรรานในเส้นเลือดได้อ้างอิงwww.rama.mahidol.ac.th/atrama/issue023/health-stationwww.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/เครดิตภาพปก และภาพที่ 2 โดย andreas160578 จาก Pixabay ภาพที่ 1 โดย PublicDomainPictures จาก Pixabay ภาพที่ 3 โดย Parentingupstream จาก Pixabay