ขอบคุณภาพ : หน้าปกจาก pexels.com by Ella Olsson สังคมในยุคปัจจุบัน ทำให้คนส่วนใหญ่มีการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบ ไม่เอื้ออำนวยต่อการเลือกและการประกอบอาหารด้วยตัวเอง บ่อยครั้งที่ต้องกินอาหารนอกบ้าน ได้รับพลังงานจากอาหารค่อนข้างสูง ประกอบกับการออกกำลังกายที่ลดลง ส่งผลให้เกิดปัญหาโภชนาการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือ โรคอ้วนและอ้วนลงพุง เป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังที่พบบ่อย ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต แล้วอาหารจานเดียว ขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่ม เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาหารดังกล่าวมีหลากหลาย ทั้งที่ให้พลังงานต่ำ ปานกลาง และสูง การกินอย่างเหมาะสมจึงเป็นแนวทางสำคัญในการป้องกันและควบคุมปัญหาด้านสุขภาพภาพจาก : pexels.com by Bruce Mars เคล็ดลับในการกินเพื่อสุขภาพ ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ กินอย่างพอดี ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ลดการกินรสจัด หวาน มัน เค็ม และควรปรับเปลี่ยนทัศนคติในการรับประทาน คือ กินเพื่ออยู่ไม่ได้อยู่เพื่อกิน แล้วเมนูที่จะแนะนำก็คือ น้ำพริก แกงเลียง แกงส้ม สุกี้ผักรวม สลัดผัก เป็นต้นภาพจาก : pexels.com by Ella Olsson ส่วนการปรุงอาหารควรใช้น้ำมัน มะพร้าว น้ำมันรำข้าว น้ำมันคาโนลา และน้ำมันทานตะวัน แทนน้ำมันพืช เพราะในน้ำมันพืชแบบบรรจุขวดเติมไฮโดรเจนในโมเลกุล เพื่อไม่ให้เหม็นหืน อยู่ได้นานขึ้นมีการปรับแต่งโมเลกุลให้ทอดด้วยความร้อนสูงได้และน้ำมันพวกนี้มักมาจากพืชตัดแต่งพันธุกรรมเมื่อปรุงอาหารด้วยความร้อนจะเกิดอนุมูลอิสระ/ไขมันทรานซ์ ทำร้ายเซลล์ร่างกาย ไขมันทรานซ์เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ส่วนขนมหวานและเครื่องดื่มในปัจจุบันมีขายอยู่มากมายและถ้าทานขนมหรือดื่มทุกวันก็จะทำให้เกิดโรคร้ายได้ ดังนั้นไม่ควรจะทานขนมหวานให้ทานเป็นผลไม้หรือเบอร์รี่แทน ส่วนเครื่องดื่มให้ลดหรือเลิกกิน ให้กินน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติแทน แล้วทำไมต้องดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติ เพราะการดื่มน้ำเย็นทำให้เราหิวง่ายแล้วทำให้ปวดหัว ระบบย่อยแปรปรวน ถ้าดื่มน้ำอุณหภูมิห้องจะช่วยดับกระหาย ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการดื่มน้ำที่ดีควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้วจะส่งผลดีมากภาพจาก : pexels.com by Pixabay ฉะนั้น คุณจะเริ่มหันมาใส่ใจกับสุขภาพตอนไหนหากคุณใส่ใจสุขภาพเสียตั้งแต่วันนี้ เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเสียใหม่ กินให้ถูกหลักโภชนาการ ดูแลจิตใจ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะอายุเท่าไร ย่อมห่างไกลจากโรคต่างๆแน่นอน