ภาวะหมดไฟ (Burn out) เป็นภาวะอาการทางจิตใจ ซึ่งเป็นผลตอบสนองระยะยาวจากความเครียดเรื้อรังในที่ทำงาน และผู้ปฏิบัติงานไม่สามารถจัดการกับความเครียดได้สำเร็จ แสดงออก 3 องค์ประกอบ คือ ความอ่อนล้าทางอารมณ์ ทัศนคติลบต่อบุคคล และการลดคุณค่าในตัวเอง (Maslach และ Jackson) อาการนี้ มักจะเกิดกับผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน ทั้งเพศชายและหญิง อายุ 30 ปีขึ้นไป ภาวะทางจิตใจนี้ ส่งผลเสียต่อสุขภาพทางกาย ในระยะยาว 7 วิธี รับมือภาวะหมดไฟ 1. ฉันจะมีความสุขให้ได้ เดี๋ยวนี้ฝึกให้ตัวเองเอ็นจอย กับสิ่งต่างๆรอบตัว ทำตัวให้ง่ายกว่าที่เป็น หากคุณเป็นคนเยอะสิ่ง เงื่อนไขในชีวิตมีมากมาย ต้องฝึกละวางสิ่งต่างๆ ลงบ้าง เพื่อทำให้ชีวิตมีความสุข กินอิ่ม นอนหลับ ไม่ป่วย ได้ไปเที่ยว ได้ใช้ชีวิตกับครอบครัว สุขกับแค่เรื่องง่ายๆให้ได้ให้ลดคำว่า ต้อง....ก่อน แล้วค่อย...ลงบ้าง ตัวอย่างเช่น ต้องมีเงินเยอะๆ ก่อน แล้วค่อยไปเที่ยว, ต้องรอลูกโตก่อน ค่อยเริ่มงานที่ตัวเองชอบ, รอประสบความสำเร็จก่อน แล้วค่อยมีความสุข....กว่าจะถึงวันนั้น คุณอาจจะหมดไฟไปก่อนแล้วก็ได้ 2. ฉันต้องเปลี่ยนโฟกัสคุณควรเปลี่ยนโฟกัส จากงาน หรือจากสถานการณ์เดิม ไปยังสิ่งใหม่ๆ อาจมาในรูปแบบของงานเสริม (Second Job), งานอดิเรกที่เราสนใจ, กีฬา หรือเรื่องอื่นๆ ที่สามารถ เปลี่ยนอารมณ์คุณได้ ทำให้ไม่ไปจดจ่อกับสิ่งที่เป็นปัญหาเรื้อรัง เริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ บนโลกใบนี้ ในมิติที่แตกต่างออกไป การได้รู้สิ่งใหม่ๆ จะเกิดสิ่งแวดล้อมใหม่ ทำให้ลดอารมณ์ซึมเศร้า วิตกกังวล ความเครียด ที่เกิดขึ้นได้ 3. ฉันต้องเปลี่ยนเลนส์การมองใหม่เมื่อเปลี่ยนโฟกัส ก็จะทำให้เห็นโลกใบใหม่ในสิ่งแวดล้อมเดิม มุมการมองก็จะเปลี่ยนไป ลองฝึกคิดในรูปแบบที่ไม่คุ้นเคย เช่น มุมมองแบบย้อนกลับ ไปในสถานที่ใหม่ๆ ที่ไม่เคยไป นอกจากนี้ เราแนะนำให้คุณอ่านหนังสือเกี่ยวกับการมองโลกเชิงบวก หนังสือพัฒนาตัวเอง จะทำให้เราเข้าใจการมองโลกในมิติที่แตกต่างกัน กฎแห่งการจับคู่ ในวิกฤตมีโอกาส, ความสุขและความทุกข์ แสงแดดและความมืด, ชีวิตที่แย่จะทำให้เราเห็นคุณค่าของความสุขง่ายขึ้น เป็นต้น 4. ฉันต้องออกกำลังกายเป็นวิธีเบื้องต้นในการช่วยเหลือตัวเอง ให้รอดพ้นจากภัยคุมคามทาง สุขภาพกาย และสุขภาพใจ สารเคมีในสมองที่หลั่งผิดปกติไป จะกลับคืนค่า สู่ภาวะสมดุลได้มากขึ้น ความเครียดสะสมจะลดลง ความสุขจะเพิ่มขึ้น การนอนหลับจะมีคุณภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ 5. ฉันต้องทำสมาธิเพิ่มขึ้น เพื่อปรับอารมณ์สมาธิ คือ เครื่องมืออันทรงพลัง ที่จะช่วยปรับอารมณ์อันขุ่นมัวที่สะสมภายในจิตใจ ของคุณ เหมือนเป็นการซักล้าง ทำความสะอาดจิตใจ เพื่อเปิดรับกับอารมณ์ใหม่ๆ ในอนาคต เมื่อดีท็อกซ์ (detox) จิตใจได้ เมื่อนั้นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ และสังคมที่วุ่นวาย ก็ไม่สามารถทำอะไรคุณได้ ก็จะห่างไกลกับสภาพการหมดไฟ แน่นอน 6. ฉันต้องหาวันลาพักผ่อนในบางครั้ง การลาพักผ่อน ไม่เพียงแต่เพื่อผ่อนคลายอารมณ์เท่านั้น การลาพักในระยะเวลาหนึ่ง การหยุดเช็คอีเมล หยุดการเคลียร์งาน เข้าป่า หรือหาความบันเทิงที่ตัวเองชอบ โดยไม่มีเรื่องงานมาให้คอยคิดกังวล เป็นการเติมพลังให้กับร่างกายและจิตใจ หยุดเพื่อให้ตัวเองมีแรง ลาพักเพื่อให้ตัวเองไปต่อแบบมีพลัง เหมือนนักกีฬากระโดดไกล ต้องย่อตัวเพื่อส่งแรง 7. ฉันต้องการที่ปรึกษาหากไม่สามารถควบคุมร่างกายและอารมณ์ของตัวเอง เช่น รู้สึกหมดแรงลุกจากเตียง เริ่มป่วย อยากร้องไห้ อยากอยู่คนเดียว เศร้าหมองขุ่นมัว รู้สึกดิ่ง ไม่มีความสุข การพบที่ปรึกษา นักจิตบำบัด จิตแพทย์ หรือคนไว้ใจได้ที่มีความรู้เชิงจิตวิทยาที่ปรึกษา เพื่อรับฟังความรู้สึก ระบายอารมณ์ ไม่ใช่เรื่องน่าอายอีกต่อไป เป็นเพียงช่วงเวลาที่อ่อนแอก็เท่านั้น บุคคลเหล่านี้ เขาจะเป็นผู้ประเมิน และชี้ช่องทางบอกคุณ ว่าคุณควรไปต่ออย่างไร ควรหาทางออกด้วยวิธีที่สร้างสรรค์ได้อย่างไรบ้าง ขอให้ทุกคนห่างไกลจากภาวะหมดไฟด้วยความปรารถนาดีจาก ใจสตอรี่ อ้างอิงภาพภาพปก: canva โดย irynakhabliukภาพประกอบที่ 1: canva โดย dimaberlinphotosภาพประกอบที่ 2: canva โดย gettysignatureภาพประกอบที่ 3: canva โดย interstidภาพประกอบที่ 4: canva โดย faalguni-mandal เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !