สวัสดีจ้าทุกคน...ใครเป็นสายชานมไข่มุก น้ำผลไม้ หรือสายเครื่องดื่มตามร้านเด็ด ๆ ยกมือขึ้น! ผู้เขียนเองจะมาเขียนบทความเรื่องความแตกต่างระหว่างสั่งแบบหวานน้อยกับสั่งแบบหวานปกติ เรื่องปริมาณความหวานยังคงเป็นข้อถกเถียงกันเยอะมาก คงเป็นเพราะเครื่องดื่มยังคงเป็นที่ตอบโจทย์ในหลายกลุ่มลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มแบบน้ำผลไม้ทั้งแบบสดและแบบสังเคราะห์ กาแฟ ชาธรรมดา รวมถึงชาใส่นม เช่น พวกชาเขียวนม ชาไทย ซึ่งบางร้านอาจจะเติม Topping เพื่อเพิ่มอรรถรสในการดื่มCredit pic : https://unsplash.com/photos/ieXeRR0qUFAคำถามสุขภาพในเรื่องของการทานใส่น้ำตาลมากหรือน้อย มีความแตกต่างกันอย่างไร ปัจจัยหลักเลยก็คือในร่างกายมีกลูโคส (Glucose) โดยธรรมชาติอยู่แล้ว ในตอนเช้าร่างกายจะมีระดับกลูโคสในเลือดต่ำ บางคนอาจไม่ทานอาหารเช้าแต่สั่งชานมหวานปกติ จะกลายเป็นเพิ่ม Ketone ในเลือดสูงขึ้นกว่าเดิม ตามที่กองโภชนาการ กรมอนามัย ได้กำหนดปริมาณของน้ำตาลไว้ว่า ใน 1 ช้อนชาให้พลังงานถึง 15 กิโลแคลอรี ในคนปกติไม่ควรทานเกิน 4 ช้อนชา ยกเว้นในกรณีที่เป็นหนุ่มสาวอายุระหว่าง 18-25 ปี จะทานน้ำตาลปริมาณ 6 ช้อนชา และกลุ่มที่ต้องใช้พลังงานมากในการทำกิจกรรมทางกายต่าง ๆ เช่น นักกีฬา ผู้ใช้แรงงาน และเกษตรกร จะทานน้ำตาลได้ไม่เกิน 8 ช้อนชาการแบ่ง %ระดับการทานน้ำตาลการสั่งเครื่องดื่มมีปริมาณน้ำตาลได้รับแตกต่างกัน ส่วนมากจะไม่เกิน 4 ช้อนชาโดยเฉลี่ย เพราะฉะนั้นเวลาที่ลูกค้าส่วนมากสั่งเครื่องดื่ม อาจจะหนักใจในผู้ชงที่ต้องดูว่าลูกค้าอยากทานแบบไหน ผู้เขียนจึงมีวิธีแบ่ง %ความหวานดังนี้1. หวานมาก จะมีปริมาณ 100% จากปริมาณน้ำตาลที่ตักไปในแต่ละสูตรของเครื่องดื่ม ลูกค้าบางรายที่ติดหวานมาก ๆ อาจจะเพิ่มน้ำตาล 50% ด้วย2. หวานพอดี จะหวานปานกลาง ไม่มากหรือน้อยเกินไป มีปริมาณน้ำตาล 50% จากปริมาณน้ำตาลที่ตักไปในแต่ละสูตรของเครื่องดื่ม3. หวานน้อย จะมีปริมาณน้ำตาล 25% จากปริมาณน้ำตาลที่ตักไปในแต่ละสูตรของเครื่องดื่ม4. ไม่หวานเลย มีปริมาณน้ำตาล 0% จากปริมาณน้ำตาลที่ตักไปในแต่ละสูตรของเครื่องดื่มนอกจากการเติมน้ำตาลแล้ว ยังมีส่วนผสมที่ให้ความหวานเข้ามาด้วย เช่น น้ำผลไม้อาจจะใส่น้ำเชื่อม ส่วนเครื่องดื่มชาใส่นม อาจใส่นมข้นหวานเพื่อเพิ่มความลงตัวในส่วนผสมCredit pic : https://unsplash.com/photos/dHQQv-BKTjoเหตุที่มีความแตกต่างกันของความหวานในการสั่งเครื่องดื่ม เพราะแม้ว่าร่างกายจะได้รับปริมาณน้ำตาลแน่นอน แต่สภาพร่างกายของมนุษย์มีความพิศวงแตกต่างกัน คนที่สั่งหวานมากอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสติดหวานมากกว่าคนที่สั่งหวาน้อย เพราะได้รับน้ำตาลสูงมีโอกาสที่เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานมากขึ้น คนที่สั่งหวานน้อยจะลดการทานน้ำตาลลง เพื่อดูแลสุขภาพตนเอง อีกทั้งเป็นการควบคุมน้ำหนักในตัว หากเติม Topping อื่นเข้ามา เช่น ไข่มุก ฟรุตสลัด วิปครีม ตกแต่งผลไม้ อาจจะเพิ่มความหวานมากกว่าเดิมแม้ว่าจะสั่งแบบหวานน้อยก็ตามCredit pic : https://unsplash.com/photos/Q4Ha5yEzb9Eต่อให้เครื่องดื่มแต่ละแบบตอบโจทย์ในหน้าร้อน ณ ตอนนี้หรือโดยส่วนตัวชอบรสชาติเครื่องดื่มแค่ไหนก็ตาม อย่าลืมที่จะออกกำลังกาย เพราะถ้าไม่ออกกำลังกายหรือมีกีฬาอะไรให้เล่น มีโอกาสเสี่ยงเบาหวานกับน้ำหนักเกินได้มากกว่าปกติ เพราะร่างกายไม่ได้มีการจัดการเผาผลาญที่ดี ฉะนั้นทานหวานแล้วก็อย่าปล่อยตัวเองมากจนเกินไปล่ะ ไม่นั้นจะกลิ้งได้โดยไม่ตั้งใจ หรือเป็นโรคเบาหวานถามหา ก็งานเข้าเลยนะ อีกปัจจัยหนึ่งก็คือความหวานก็มีโอกาสเร่งให้น้ำหนักเกิน การที่สั่งหวานน้อยจะเป็นการลดน้ำตาลไม่หักดิบมาก และลดแบบค่อยเป็นค่อยไป ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้คงจะถูกใจผู้อ่านไม่มากก็น้อย เอาล่ะ...ก็คงต้องขอจบบทความเพียงเท่านี้ สวัสดีจ้า :)Credit pic ภาพปก : https://www.pexels.com/photo/person-holding-plastic-cup-1025493/