หุ่นยนต์ถ้าชิ้นส่วนชำรุดก็ทำให้เกิดปัญหาได้ร่างกายของคนเราก็เช่นกันถ้าชิ้นส่วนในร่างกายชำรุดชิ้นใดชิ้นหนึ่งก็เกิดอาจเกิดปัญหาได้เหมือนกัน เพราะอย่างนี้สุขภาพ ดีที่แท้จริง คือการมีอวัยวะต่างๆ ที่แข็งแรง ทำงานได้ดี แต่อวัยวะภายในจะแข็งแรงแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการบริโภคในสิ่งมี่ดีและมีประโยชน์ เราจึงขอแนะนำผักและผลไม้ที่จะบำรุงอวัยวะต่างๆในร่างกายทำงานได้ดี 1.มะเขือเทศ บำรุงป้องกันโรคสมองเสื่อม มะเขือเทศ นอกจากจะเป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดในโลกแล้ว ประโยชน์ของมะเขือเทศยังมีอยู่มากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก โดยมะเขือเทศขนาดปานกลางนั้นจะมีปริมาณของวิตามินซีครึ่งหนึ่งของส้มโอทั้งลูก และมะเขือเทศหนึ่งผลมีปริมาณวิตามินเอที่ร่างกายต้องการจำนวน 1 ใน 3 ของวิตามินเอที่ร่างกายต้องการต่อวันเลยทีเดียว ! และยังมีสารจำพวกไลโคปีน (Lycopene) แคโรทีนอยด์ เบตาแคโรทีน และกรดอะมิโน เป็นต้น และมะเขือเทศยังจัดว่าเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย เช่น ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด ขับปัสสาวะ รักษาความดัน เป็นต้น 2.ถั่ว บำรุงลำไส้ใหญ่ ถั่วเป็นอาหารอีกประเภทที่มีโปรตีน สารต้านอนุมูลอิสระ และเส้นใยสูงมาก จึงสามารถช่วยจัดสมดุลของระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี ทำให้ช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ได้ 3.อาโวคาโด บำรุงใบหน้า อโวคาโดแม้เป็นผลไม้ที่มีไขมันสูง แต่เป็นกรดไขมันโอเมก้า 9 ที่มีประโยชน์ ที่สำคัญวิตามินบี และอีในอาโวคาโดสามารถช่วยบำรุงผิว ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และปกป้องผิวจากรังสีต่างๆ ในแสงแดด 4.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ บำรุงสายตา แอนโทไซยานิน (Antho-cyanin) ซึ่งเป็นสารเม็ดสีในเบอร์รี่ช่วยให้มองเห็นชัดในที่มืด หรือที่ที่มีแสงสลัวๆได้ชัดเจนขึ้น และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเลนส์ตาและเส้นเลือดฝอยในลูกตาด้วย 5.ผักโขม บำรุงกระดูกผักโขมไม่ได้ขมอย่างชื่อ ผักโขมจัดเป็นผักโปรตีนสูงชนิดหนึ่งง ซึ่งโปรตีนเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับ เพื่อช่วยในการเสริมสร้างกระดูก เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย 6.ผัดสลัด หรือผักกาดหอม ต้านมะเร็ง ผักสลัดหรือ ผักกาดหอมนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการ คือ ประกอบด้วยวิตามินบี วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และลูเทียน (lutein) มียาง (latex) ชื่อ แลคทูคาเรียม (lactucarium) ซึ่งมีระดับสูงมากขณะออกดอก นอกจากนั้นยังมีวิตามินบีสูงด้วย สรรพคุณ ผักกาดหอม นั้นมักใช้เป็น ผักสลัด มีสารต้านมะเร็งและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับผักสลัดที่มีสีเขียวอื่น ๆ ส่วนที่ใช้ประโยชน์ของผักกาดหอมคือ ใบ เมล็ด และต้น ซึ่งแต่ละส่วนจะให้สรรพคุณแตกต่างกันดังต่อไปนี้ ต้นผักกาดหอมทั้งต้นคั้นเอาแต่น้ำ นำน้ำที่ได้มาทาฝีมะม่วง (รีดเอาหนองออกก่อน) ใช้ขับพยาธิ แก้พิษ ขับลม เป็นยาระบาย ใบผักกาดหอม น้ำคั้นจากใบ ใช้แก้ไอ ทำให้หลับง่าย แก้ไข้ ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ เมล็ดผักกาดหอม ใช้รักษาโรคตับ ขับปัสสาวะ ขับน้ำนม ระงับปวด แก้ปวดเอว และรักษาโรคริดสีดวงทวาร 7.น้ำมะพร้าว สร้างคอลลาเจนบำรุงผิว น้ำมะพร้าว อุดมไปด้วยวิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 6 วิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก กรดอะมิโน และยังช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินให้กับผิว จึงทำให้ผิวพรรณเต่งตึง เปล่งปลั่งสดใสช่วยรักษาอาการขาดน้ำ เมื่อไรก็ตามที่รู้สึกกระหายน้ำ หรือร่างกายขาดน้ำ น้ำมะพร้าวจะช่วยให้เติมน้ำในร่างกายไปพร้อมๆ กับเกลือแร่ที่มีประโยชน์ และรสชาติหวานสดชื่นจากธรรมชาติ นักกีฬาจึงสามารถดื่มน้ำมะพร้าวแทนการดื่มน้ำเกลือแร่หลังออกกำลังกายได้สบายๆมีไซโตไคน์ ที่ช่วยบำรุงฮอร์โมนในร่างกายให้แข็งแรง ดูแลการเจริญเติบโต และการพัฒนาของร่างกาย ช่วยชะลอวัย และช่วยลดโรคภัยที่มักมาพร้อมกับวัยชราได้ เช่น โรคความจำเสื่อม (อัลไซเมอร์) เป็นต้นน้ำมะพร้าว ช่วยย่อยอาหาร และลดอาการกรดไหลย้อนช่วยขับปัสสาวะ บรรเทาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบหากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือเมาค้าง สามารถดื่มน้ำมะพร้าวเพื่อบรรเทาอาการดังกล่าวได้ดีเลยทีเดียว 8.แครอท ป้องกันสิว ต่อต้านมะเร็ง แครอท อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น เบตาแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังมีสารสำคัญคือสาร "ฟอลคารินอล" (falcarinol) ซึ่งช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็งและยังวิตามินต่างๆ ช่วยบำรุงสุขภาพผิวให้สดใสเปล่งปลั่งช่วยป้องกันเซลล์ผิวไม่ให้ถูกทำลายได้ง่ายจากมลภาวะแสงแดดต่าง ๆช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยบำรุงกระดูก ฟัน เหงือก เล็บ ให้แข็งแรงยิ่งขึ้นมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมี่วนช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งชลอวัยแครอทช่วยสร้างสร้างภูมิต้านทานโรคของร่างกายให้แข็งแรงยิ่งขึ้นช่วยบำรุงและรักษาสายตา รักษาโรคตาฟาง และต้อกระจก ช่วยรักษาโรคถุงลมโป่งพองและไทยรอยด์เป็นพิษช่วยย่อยอาหาร และช่วยแก้และบรรเทาท้องผูกใช้เป็นยาขับปัสสาวะ และยาถ่ายพยาธิไส้เดือน 9.แตงกวา ลดความดันโลหิต แตงกวามีสรรพคุณช่วยแก้กระหาย ลดความร้อนในร่างกาย ทำให้ร่างกายสดชื่น และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยกำจัดของเสียที่ตกค้างในร่างกาย แตงกวามีสารฟีนอลที่ทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ ผลและเมล็ดอ่อนมีฤทธิ์ช่วยต่อต้านมะเร็ง ช่วยลดความดันโลหิต (เถาแตงกวา) ช่วยรักษาสมดุลต่าง ๆ ในร่างกาย รักษาระดับน้ำตาลในเลือด ระดับภูมิคุ้มกันให้อยู่ในสุขภาพดี ช่วยควบคุมระดับความดันเลือดและความสมดุลของสารอาหารในร่างกาย (โพแทสเซียม, แมงกานีส) ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท ระบบกล้ามเนื้อ ระบบการหมุนเวียนเลือด (แมกนีเซียม) ช่วยเสริมสร้างการทำความของระบบประสาท เพิ่มความจำ (ผล, เมล็ดอ่อน) ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ (ผล, เมล็ด) เส้นใยอาหารจากแตงกวาช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ให้พลังงานต่ำ เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ช่วยแก้ไข้ (น้ำแตงกวา) ช่วยแก้อาการเจ็บคอ โดยใช้นำคั้นจากผลแตงกวานำมากลั้วคออย่างน้อยวันละ 3 ครั้งจะช่วยทำให้อาการดีขึ้นแตงกวา สรรพคุณช่วยลดอาการนอนไม่หลับ (น้ำแตงกวา) 10. กล้วย แก้ปัญหาระบบขับถ่าย กล้วย 1 ผล ให้พลังงานได้ราว ๆ 100 แคลอรี่ และยังมีน้ำตาลจากธรรมชาติอยู่ถึง 3 ชนิด ทั้งซูโครส ฟรุกโตส และกลูโคส ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย แถมยังอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด เช่น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโพแทสเซียม รวมไปถึงคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และวิตามินซี ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน นอกจากนี้ยังมีเส้นใย และกากอาหาร กล้วยจึงไม่ใช่เพียงผลไม้ที่ช่วยเพิ่มพลังงานเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ที่จะเกิดกับร่างกายได้อีกหลายโรคเลยด้วย สุขภาพเป็นเรื่องใกล้ตัวหากเราดูแลเอาใส่ร่างกายก็แข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วยประหยัดเงินอีกต่างหากแถมยังร่างกายแข็งแรงไม่เป็นภาระคนอื่นหรือลูกหลานเริ่มต้นง่ายๆจากการกินผักผลไม้ที่ถูกต้องแล้วเราจะมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงปราศจากโรค "การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐนะครับ" Cr. Pixabay