หากผู้อ่านได้เปิดอ่านบทความนี้ แสดงว่า ผู้อ่านได้ตกอยู่ในสภาวทางอารมณ์เดียวกัน นั้นคือ ‘เหนื่อย’ เหนื่อยคำนี้แฝงความรู้สึกไว้หลากหลาย จากสภาพแวดล้อมในแต่ละวันที่เราเผชิญ มันเหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ เหนื่อยทั้งสมอง เมื่อเรามีความรู้สึกนี้นานวันเข้าอาจก่อให้เกิด Burnout syndromes หรือที่เราเรียกกันว่า ‘ภาวะหมดไฟ’ ได้ ภาวะหมดไฟ (Burnout syndromes) คือ ภาวะที่บุคคลเกิดความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ที่สะสมต่อเนื่องกัน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากความเครียดและความกดดันในที่ทำงาน หากมีภาวะนี้ไปเนิ่นนาน อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจของเรา ดังนั้น ผู้เขียนจึงขอรวบรวมวิธี “ฮีลใจ” เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของสุขภาพใจ ให้มีแรงใจในการต่อสู้กับทุกปัญหาที่กำลังจะเข้ามา อาบน้ำแล้วสบายตัวใช่ค่ะ การอาบน้ำถือเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการอาบน้ำเป็นการชะล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย ทำให้เราสะอาด สดชื่น เช่นเดียวกัน! เมื่อผู้อ่านรู้สึกเหนื่อย ฟุ่งซ่าน คิดไม่ตก อ่อนแอมากแค่ไหน ให้สายน้ำเย็นชื่นใจชำระออกไปให้หมด ทุกตะกอนความคิดลบที่สร้างขึ้นมา ปลดปล่อยมันออกมาอย่ากักเก็บ ซ่อนเร้นเอาไว้ แล้วเราจะรู้สึกดีขึ้นเองค่ะ ขีดเขียนมันออกมาลองค่ะ ลองเขียนสิ่งที่อยู่ในหัวของเราออกมาให้หมด คิดอะไรเขียนตามนั้น ไม่ต้องประดิษฐ์คำพูดให้สวยหรู เอาแค่ในหัวของเราตอนนี้คิดอะไรอยู่ หรือจะพุ่งเป้าไปที่จิตใจของเราในตอนนี้ที่อัดอั้นจนมันแทบจะระเบิดออกมา เขียนมันออกมาให้หมด ระบายอารมณ์ผ่านตัวอักษร แล้วสิ่งที่เราเขียนก็ควรขยำทิ้งมันไป อย่ากลับไปอ่าน เชื่อเถอะว่าวิธีนี้ก็โล่งดีเหมือนกัน ตัดขาดจากโซเชียลสักพัก หันมาทำจิตใจให้สงบวิธีนี้เหมือนจะง่าย แต่บางคนที่มือติดแง็กกับโทรศัพท์อาจจะทำยากสักนิด แต่อยากให้ลองทำดูนะคะ เพราะการเสพสื่อในโซเชียลมากเกินไป ก็เหมือนกับเราถูกดูดจากพลังงานด้านลบไปด้วย ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เพื่อนคนนี้ซื้อบ้านหลังใหญ่ น้องคนนั้นได้งานดี ๆ พี่คนนี้ทำไมถึงสวยจัง แน่นอนว่ามนุษย์ทุกคนมักเกิดการเปรียบเทียบกับผู้อื่นอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น วางโทรศัพท์ที่ติดมือลงบ้าง ลองหันมาอ่านหนังสือฮีลใจสักเล่ม นิยายที่ชอบสักเรื่อง หรือจะสวดมนต์ไหว้พระ ลองนั่งสมาธิ ทำจิตให้สงบ ลองอยู่กับตัวเองบ้าง ถือเป็นการชาร์ตพลังงานใจให้ตัวเองอีกรูปแบบหนึ่ง ปลดปล่อยตัวเองหนึ่งวันวิธีนี้หากเรียกภาษาปาก ก็คือ วัน ‘ปล่อยผี’ นั้นเอง ทำตามใจตัวเองหนึ่งวัน อยากกินอะไรก็กิน อยากเที่ยวที่ไหนก็ไป หรืออยากช็อปปิ้งอะไรก็ได้ ให้อิสระทางอารมณ์กับตัวเองในสิ่งที่เราชอบทำ หรือสิ่งที่เคยอยากลองทำบ้าง หาเส้นทางใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง อย่าตีกรอบตัวเองจนหายใจไม่ออก เพราะสุดท้ายแล้ว ก็มีแค่ตัวเราเองที่แบกรับความรู้สึกไว้คนเดียว ท้ายที่สุดนี้ อย่าลืมว่า อัตตาหิ อัตตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ตัวเราเท่านั้นที่จะเยียวยา รักษาใจเราได้ แต่หากสิ่งที่เราพบเจอ มันหนักเกินกว่าจะแบกรับไหว เราอาจจะต้องพึ่งจิตแพทย์เพื่อรักษาจิตใจ ให้กลับมาดีดั่งเดิม ภาพประกอบ : ผู้เขียนคอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง เพลงดังฟังไม่หยุด ศิลปินหน้าใหม่โดนใจ หวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน