อากาศประเทศไทยตอนนี้เรียกได้ว่าร้อนสุด ๆ ร้อนปรอทแตก และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยตอนนี้คือ "น้ำ" ไม่ว่าจะแดดร้อน เหงื่อออก คอแห้ง สิ่งที่ช่วยชีวิตเราไว้ตอนนี้ก็คือน้ำนั่นเอง เราต้องดื่มน้ำกันอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เพราะต้องมาช่วยดับความร้อนในร่างกายให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ซึ่งในชีวิตประจำวันของเราก็ต้องมีอยู่ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ซึ่งน้ำก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในชีวิตของเราที่เราจะต้องลงทุน แต่ว่าเราจะเลือกกินเลือกใช้น้ำแบบไหนให้ประหยัดมากที่สุด เดี๋ยววันนี้เราจะมาแชร์วิธีเลือกน้ำดื่มของเรากันระหว่างซื้อน้ำแบบแพ็คกับใช้เครื่องกรองน้ำ “eSpring” ของ Amwayแต่ก่อนเราอาจจะเน้นการซื้อน้ำเป็นขวดดื่ม ดื่มแล้วก็ทิ้ง เพราะมันง่าย สะดวก ราคาก็ไม่ได้แพงแล้วแต่ยี่ห้อของน้ำที่เราเลือกดื่ม แต่การที่เราเน้นความง่ายจนมากเกินไป สิ่งนั้นทำให้เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม เพราะถือว่าเราก็เป็นคนที่เพิ่มปริมาณขยะให้โลกของเรา เพราะขวดน้ำนั้นมีทั้งขวด ฝา ฉลาก ที่ล้วนเป็นสิ่งที่เราเรียกว่าขยะทั้งสิ้น เราเลยจึงหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยการเปลี่ยนมาใช้กระติกน้ำหรือกระบอกน้ำแล้วกรอกน้ำดื่มแทน ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้กระบอกน้ำนี้ถือว่าได้ประโยชน์หลายต่อเลย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรักษาอุณหภูมิของน้ำ ได้กินน้ำอุ่น น้ำร้อน น้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิปกติ ตามที่เราต้องการได้เลย แล้วก็พกพาไปไหนมาไหนสะดวก ไม่ต้องทิ้ง ไม่ต้องเพิ่มขยะให้โลก แล้วก็อาจจะไว้ถือเก๋ ๆ เป็นแฟชั่นได้อีกด้วย แต่การที่เราจะกรอกน้ำใส่กระติกถ้าเราซื้อแบบน้ำแบบแพ็คมาเติมมันก็คือการเพิ่มปริมาณขยะด้วยอยู่ดี จึงเป็นที่มาว่าเราควรติดเครื่องกรองน้ำ จะได้ไม่ต้องเก็บขวดไปทิ้ง แต่ก็ยังมีความลังเลเนื่องจากเราเห็นว่าเครื่องกรองน้ำอาจจะมีราคาที่สูง แต่จริง ๆ เราก็ต้องประเมินราคาแบบระยะยาว เพราะว่าอายุการใช้งานของเครื่องกรองน้ำก็มีอายุการใช้งานที่ยาวเหมือนกันพอเรามีแนวคิดที่จะเปลี่ยนไม่กินน้ำแบบขวดเราก็ต้องมาคำนวณราคาของเครื่องกรองน้ำและ ว่ามันดีหรือไม่ คุ้มหรือเปล่า โดยเราจะทำการเทียบราคาของราคาน้ำแพ็คที่เราซื้อตลอดทั้งปี สมมติลองคิดแบบง่าย ๆ คร่าว ๆ บ้านเรากินน้ำเฉลี่ยกันวันละ 1.5 ลิตรต่อคน (เราอ่านมาว่า คนเราควรดื่มน้ำให้ได้ 1.5 ลิตรต่อวัน เพื่อรักษาความสมดุลของน้ำในร่างกาย ซึ่งการที่เรารักษาระดับน้ำในร่างกายที่ดีจะส่งผลทำให้เกิดสุขภาพที่ดีกับตัวเรา) และบ้านเราอยู่กันทั้งหมด 7 คน เพราะเป็นครอบครัวใหญ่ดังนั้นเราจะลองมาคำนวณราคาน้ำแพ็คทั่วไปแบบคร่าว ๆ กันดูนะคะสมมุติว่าน้ำขวดใหญ่ 1.5 ลิตร ราคาประมาณแพ็คละ 75 บาท มีทั้งหมด 6 ขวด เฉลี่ยขวดละ 12.5 บาทสมาชิกในบ้านจำนวน 7 คน ดื่มขั้นต่ำคนละ 1 ขวด ตกค่าน้ำแพ็คประมาณวันละ 87.5 บาท++เดือนนึงเราจ่ายค่าน้ำดื่มประมาณ 2,700 บาท 1 ปีจะต้องเสียค่าน้ำแพ็คอย่างต่ำประมาณ 32,000 บาท (พอมาคำนวณก็น่าตกใจอยู่นะคะ นี่แค่ขั้นต่ำของน้ำที่ดื่ม ไม่รวมการใช้ประกอบอาหารหรืออื่น ๆ )ทีนี้ถ้าเราจะคิดที่จะติดเครื่องกรองน้ำก็ต้องมีปัจจัยในการเลือกซื้อเลือกใช้อีก เพราะอย่างที่กล่าวไปว่าน้ำสำคัญกับชีวิตประจำวันของเรามาก การที่เราดื่มน้ำเข้าไปในร่างกายเราก็ต้องการดื่มน้ำที่สะอาด มีคุณภาพ แล้วก็ต้องคุ้มค่ากับเงินที่เราเสียไปด้วย พอคิดเราคิดที่จะซื้อเครื่องกรองน้ำ ยี่ห้อเครื่องกรองน้ำเจ้าแรกที่แว๊บเข้ามาในหัวของเราเลยก็คือเครื่องกรองน้ำของ Amway เพราะว่าได้ยินคนพูดถึงเยอะมาก แล้วก็มีคนชวนให้ใช้หลายคนบอกว่าใช้ดี คุ้ม ก็เริ่มหาข้อมูลคำนวณ เพราะว่าการที่เราจะติดตั้งเครื่องกรองน้ำก็จะต้องมีทั้งค่าเครื่อง ค่าติดตั้ง ค่าน้ำมากมาย ก่อนจะติดตั้งก็ต้องมั่นใจว่าคุ้มค่าและดีจริง ที่นี้เราเลยมาดูข้อมูลรายละเอียดของเครื่องกรองน้ำของ Amway โดยเครื่องกรองน้ำ Amway เค้ามีชื่อเรียกว่า "เครื่องกรองน้ำ eSpring” ที่นี้เราก็มาดูราคากันดีกว่าค่ะว่าเป็นยังไง? ราคาเครื่องกรองน้ำ อีสปริงเครื่องกรองน้ำ อีสปริง ราคา 40,150 บาท และ ราคาเฉพาะสมาชิก 36,500 บาท (ราคา ณ วันที่ 16 กรกฎาคม 2567)ค่าจัดส่ง ฟรีรับประกันความพึงพอใจและเราลองมาคำนวณตามอายุใช้งานหากเราติดตั้งเครื่องกรองน้ำ อีสปริง 10 ปี พร้อมอะไหล่ ก็จะอยู่ราว ๆ ที่ 690 บาท/เดือนคำนวณค่าน้ำ (7คน x 1.5 ลิตร x 0.5 บาท x 30 วัน) ตกอยู่ที่ 157.5 บาท/เดือน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจำนวนของคนในบ้าน รวมแล้วค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 850 บาท/เดือน ถ้าหากเราซื้อแพ็กเกจอีสปริงแคร์ที่ให้ส่วนลดเพิ่ม ก็จะถูกกว่านี้อีกค่ะซึ่งเมื่อดูจากราคาเบื้องต้นแล้วส่วนตัวเรามองว่าคุ้มค่านะคะ เพราะโดยปกติแล้วเราจ่ายค่าน้ำแพ็ค ไปแบบเยอะมากจริง ๆ อีกทั้งเราเป็นคนที่ดื่มน้ำเยอะมากบวกกับที่บ้านเรานั้นเป็นครอบครัวใหญ่ อยู่ด้วยกันถึง 7 คน ปริมาณการดื่มน้ำจึงมากขึ้นตามลำดับอย่างแน่นอน ดังนั้น การติดตั้งเครื่องกรองน้ำ eSpring จึงถือเป็นตัวเลือกที่สำคัญและถือว่าคุ้มค่าสำหรับเราและครอบครัวเราค่ะ และจากที่เรามองจริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องเป็นครอบครัวใหญ่ เป็นบ้านครอบครัวเล็ก ครอบครัวปานกลาง หรือการอยู่ที่คอนโด หอพัก การติดเครื่องกรองน้ำก็คุ้มค่าและเหมาะอยู่ดีนะคะ เพราะเราไม่ต้องแบกน้ำแบกขวดขึ้น ๆ ลง ๆ หรือเข้า ๆ ออก ๆ ประหยัดพื้นที่ในการจัดวางน้ำแพ็ค ประหยัดเวลาในการใช้สอย ถือว่าเครื่องกรองน้ำก็ตอบโจทย์ในทุก ๆ ครัวเรือนเลยทีเดียว เพราะเครื่องกรองน้ำ eSpring สามารถติดตั้งง่ายกระทัดรัดไม่เปลืองเนื้อที่ค่ะสรุปแล้วก็คือการเลือกใช้เครื่องกรองน้ำแทนการซื้อน้ำดื่มทั่วไป เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ๆ เหมือนเป็นการลงทุนระยะยาวที่ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ช่วยให้เรามีเงินเก็บมากขึ้น ช่วยประหยัดเงินในชีวิตประจำวัน แล้วก็เหมือนได้ดูแลสุขภาพไปในตัวด้วย เพราะเรามั่นใจได้ว่าเราได้ดื่มน้ำที่สะอาด มีคุณภาพ เพราะภายในเครื่องกรองน้ำนั้นเค้ามีไส้กรองที่มีประสิทธิภาพสูง 3 ชั้น กรองไมโครพลาสติก สิ่งปนเปื้อนในน้ำ แล้วก็ฆ่าเชื้อโรคไปในตัวด้วย จะดื่มน้ำทำอาหารก็มั่นใจว่าได้น้ำที่สะอาด มีคุณภาพ จริง ๆ การดื่มน้ำที่สะอาดก็ถือว่าเป็นการช่วยดูแลสุขภาพเราไปในตัวด้วยเช่นกัน แล้วก็ที่ชอบที่สุดก็คือได้ช่วยรักษ์โลก ลดปริมาณขยะที่มาจากขวดน้ำ ลดการทำลายสิ่งที่มีชีวิตทั้งบนบกและทะเล ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แล้วก็ช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้อีกด้วย แอบคิดว่าพอเปลี่ยนมาใช้เครื่องกรองน้ำก็ทำให้ดูฉลาดและสวยขึ้นมานิดนึงค่ะ เพราะได้เป็นส่วนหนึ่งของสายอีโค่รักษ์โลก ><ข้อดีของการเปลี่ยนมาใช้เครื่องกรองน้ำประหยัดเงินกว่า คุ้มค่า ราคาค่าน้ำถูกได้น้ำที่สะอาด มีคุณภาพ ลดการได้รับสารปนเปื้อนต่าง ๆ รวมทั้งไมโครพลาสติกที่อาจปนเปื้อนมาจากขวดน้ำพลาสติกสะดวกต่อการบริโภคสามารถดื่มน้ำ ใช้น้ำในปริมาณที่ต้องการได้อย่างเพียงพอไม่เสียเวลาขนส่งน้ำไม่เสียแรงในการยกน้ำแพ็คประหยัดเวลาในการใช้น้ำช่วยลดปริมาณขยะจากขวดพลาสติกมีแอปไว้ดูรายละเอียดหรือสถานะเครื่องกรองน้ำมีบริการหลังการขายที่ดีอ่านกันมาถึงตรงนี้แล้ว เพื่อน ๆ ก็สามารถลองคำนวณความคุ้มค่าของราคาค่าน้ำแบบเป็นขวดและเครื่องกรองน้ำกันดูนะคะ เพราะว่าน้ำคือ 1 ในปัจจัยสี่ของการดำรงชีวิตของเราอยู่แล้ว การได้ดื่มน้ำที่ดี สะอาด มีคุณภาพ เหมือนเป็นการดูแลสุขภาพของเราไปในตัวเช่นกัน แล้วถ้าเราวางแผนการใช้น้ำอย่างคุ้มค่าก็จะช่วยประหยัดเงินเราได้อีกด้วยสรุป: ติดเครื่องกรองน้ำ คุ้มกว่า ซื้อน้ำดื่มทั่วไปรูปภาพโดย Amway eSpring