แสงไฟเป็นภัยใกล้ตัวหรือแสงไฟทำให้ผิวดำได้จริงหรือไม่นั้น มาดูกัน แสงไฟที่อยู่ในระดับสายตาตามที่เรามองเห็นได้ นอกจากแสงแดดแล้วก็มีแสงอย่างอื่นอีกนั่นก็คือ แสงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น แสงจากมือถือ แสงจากทีวี และแสงจากจอคอมพิวเตอร์ เพราะแสงทั้งหมดเหล่านี้ถือเป็นแสงที่อยู่ในระดับสายตาเรามองเห็นได้ แต่มันคนละตัวกับแสงแดดเลย ซึ่งเราจะพูดถึงแสงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ว่า แสงสีฟ้า นั่นเองภาพแสงแดดจาก https://bit.ly/2UZjgQFแสงสีฟ้าทำร้ายผิวเราได้มากกว่าแสงแดดอีก แต่แสงแดดเรากลับมีความรู้สึกว่ามันทำร้ายเรามากกว่า เพราะว่าเวลาเราเจอแสงแดดมันจะทำให้เรารู้สึกแสบร้อนเราจึงกลัวแสงแดดมากกว่าแสงจากอุปกรณ์เหล่านี้ เพราะมันไม่มีความแสบร้อนเลยแต่รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วแสงสีฟ้าทำร้ายผิวได้ร้ายแรงกว่า เราอาจจะไม่รู้สึกถึงแสงสีฟ้าเพราะว่ามันจะซึมลึกถึงใต้ผิวในคอลลาเจน แต่เราอาจจะมารู้สึกกังวลในเรื่องริ้วรอยหน้าหมองคล้ำรูขุมขนกว้างผิวเสียสมดุลเกิดสิวเรื่อย ๆ รอยสิวเข้มจางหายช้า นั่นก็เพราะว่าแสงสีฟ้าเป็นส่วนหนึ่งที่ไปทำร้ายผิวของเราให้เสียสมดุลได้ ถ้าเราสังเกตผิวของผู้ใหญ่เราจะเห็นว่าความหย่อนคล้อยจะตกไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก ภาพแสงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ https://bit.ly/39JBrPCใครที่กำลังรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องสนใจก็ได้ บอกเลยว่าคิดผิดเพราะว่าสมัยก่อนหรือรุ่นคุณพ่อคุณแม่เรา เขายังไม่ค่อยใช้สมาร์ทโฟนหรือว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นประจำทุกวัน แต่สมัยนี้เราใช้เป็นเสมือนส่วนหนึ่งของร่างกายเราไปแล้วซึ่งเราจะยกมาดูตลอดหรือแทบไม่ให้ห่างจากตัวเลย เราก็จะได้รับมันอยู่บ่อย ๆ จึงส่งผลให้ผิวของเราแก่ตัวได้เร็วหรือเรียกว่าผิวแก่ก่อนวัยนั้นเอง การที่ผิวแก่ไม่เกี่ยวกับอายุเราเรียกว่าเป็นอาการหนึ่งของผิวหนัง ภาพสภาพผิวจาก https://bit.ly/2XcrVlxโดยสรุปแล้วแสงสีฟ้าเรียกว่าเป็นโทษที่ร้ายแรงและควรจะป้องกัน โดยการที่เราจะต้องทาครีมกันแดด เพราะมันไม่มีครีมที่บอกว่าป้องกันแสงสีฟ้า แต่ครีมกันแดดมีคุณสมบัติช่วยป้องกันแสงสีฟ้าได้ซึ่งเขาจะมีส่วนผสมที่สามารถช่วยป้องกันแสงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ได้ เพราะฉะนั้นเราจะต้องทาครีมกันแดดทุกวัน และวิธีทาครีมกันแดดก็สำคัญเหมือนกันถึงจะทำให้ได้รับการป้องกันที่ดีก็คือทาประมาณ 2 ข้อนิ้วมือเรียกว่าต้องทาให้ทั่วใบหน้าเพื่อได้รับการป้องกันที่ดี และครีมควรมีค่าป้องกันแสงแดดหรือมีค่า SPF ที่50 เพื่อจะให้ผิวของเราได้รับการป้องกันแบบครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นแสงแดด แสงสีฟ้า หรือแสงอื่น ๆ ความร้อนต่าง ๆ ที่มาทำร้ายผิวของเราด้วย ภาพครีมกันแดดจาก https://bit.ly/2UG8sYGอีกวิธีหนึ่งก็คือการลดแสงลงมาจากอุปกรณ์ที่เราใช้อยู่จากที่สว่างมาก ๆ เพราะมันทำให้เรามองเห็นสบาย ก็เอาแค่ให้เรามองเห็นโดยไม่ปวดตาก็พอ และอีกอย่างหนึ่งที่เป็นกันมากก็คือการเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอนหรือปิดไฟแล้วก็เล่นโทรศัพท์ ซึ่งวิธีนี้ส่งผลทำให้ผิวเราได้รับผลกระทบจากแสงสีฟ้าแบบเต็ม ๆ แนะนำว่าไม่ควรเล่นโทรศัพท์มือถือในตอนกลางคืนหรือว่าตอนปิดไฟแล้ว เพราะว่าเราไม่ได้ทาครีมกันแดดตอนก่อนนอนนั่นเอง ภาพจาก https://bit.ly/39Hh85pสรุปแล้วครีมกันแดดสามารถป้องกันผิวของเราจากแสงสีฟ้าได้รวมไปถึงแสงอื่น ๆ ที่อยู่ในระดับสายตาเรามองเห็นเรียกว่าทุกแสงเลยที่มีผลกระทบต่อสายตาเรานั้นสามารถมีผลกระทบต่อผิวของเราได้เช่นกันไม่ใช่แค่ผิวหน้า ผิวกายก็เหมือนกันเพียงแต่ว่าเราอาจจะไม่สังเกตเห็นถึงความแตกต่างกับผิวเท่าไหร่แต่เราจะมาสังเกตได้ที่ใบหน้ามากกว่า เพราะฉะนั้นเราควรจะทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันเปรียบเสมือนการแปรงฟันทุกเช้า ครีมกันแดดก็ต้องทาทุกเช้าในตอนเช้าเช่นกัน ภาพหน้าปกจาก https://bit.ly/3dY21rUขอบคุณภาพจาก Pixabay.com