รีวิวโปรแกรม BodyKey กินยังไง? ทำอะไรบ้าง?รูปร่างเปลี่ยน ภายใน 4 เดือน by Cashchiรีวิวโปรแกรมบอดี้คีย์แบบครบ! เปลี่ยนรูปร่างภายใน 4 เดือน กินยังไง? ทำอะไรบ้าง? เปลี่ยนรูปร่างคุณแม่อย่างแคชได้ คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าการลดน้ำหนักต้องอดอาหารทานน้อยๆ งดมื้อเย็นกินผลไม้เยอะๆ แต่จริงๆ แล้วคือ เป็นการกินสารอาหารให้ครบแล้วก็มากพอเท่าที่ร่างกายต้องการค่ะ แล้วระบบของร่างกายจะเลือกสารอาหารไปใช้เองโปรแกรมบอดี้คีย์คืออะไร?โปรแกรมบอดี้คีย์ คือโปรแกรมที่จะช่วยแนะนำการปรับพฤติกรรม 6 อย่างแบบเฉพาะบุคคล เพื่อให้เราลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืนค่ะ โดยจะเป็นการช่วยเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ที่ส่งผลต่อน้ำหนักของเราทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องทัศนคติ ไปจนถึงอาหารการกินในแต่ละวัน ซึ่ง 6 พฤติกรรมที่ว่า ก็ตามด้านล่างนี้ 1. การนอนในโปรแกรมบอดี้คีย์ จะเน้นย้ำเรื่องการนอนค่อนข้างมากเลยค่ะ เพราะมีผลมากกับน้ำหนักตัว หากเรานอนไม่พอ ร่างกายจะทำงานผิดปกติ ส่งผลให้กินเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกอิ่ม และอยากทานอยากเคี้ยวอยู่ตลอดเวลาสำหรับแคช จริงๆ ควรจะนอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งแคชยอมรับเลยว่าการนอนของคนเป็นแม่ไม่มีเวลาที่มันแน่นอนหรือว่าควบคุมการนอนได้ใน 24 ชั่วโมง ลูกหลับตอนไหนก็ชิงเวลาหลับไปพร้อมกับลูกพอดีแคชเป็นคุณแม่ลูก 2 ด้วย ช่วง 6 เดือนแรกที่เพิ่งคลอดลูก เราไม่สามารถที่จะกำหนดเวลาได้แน่นอน 100% ทำให้น้ำหนักหลังคลอดแทบไม่หายไปเลย การจะหาเวลาที่เพื่อนอนเยอะๆ ให้เต็มอิ่มได้คือยากมาก แต่หลังจากนั้น พอเริ่มเข้าโปรแกรมบอดี้คีย์ เราก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของการนอน ที่บอกเลยว่าถ้าเราจะลดน้ำหนัก การนอน เป็นสิ่งสำคัญ ต้องสมดุลแล้วก็มากพอ เราก็เลยพยายามปรับในส่วนนี้ให้ดีขึ้น บวกกับ น้องเริ่มนอนเป็นเวลามากขึ้นแล้ว แม้จะยังนอนได้ไม่เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็ทำให้เห็นผลเรื่องน้ำหนักได้ชัดเจนมากเลยค่ะ 2. ความเครียด นอกจากเรื่องการนอนแล้ว ความเครียดก็สำคัญค่ะ ถ้าเราลองสังเกตตัวเอง เวลาที่เราเครียด เราก็มักจะหิวบ่อยผิดปกติ หรือกินเยอะผิดปกติ ซึ่งโปรแกรมบอดี้คีย์ก็แนะนำให้หากิจกรรมที่ผ่อนคลาย เพื่อบรรเทาความเครียดในแต่ละวัน ซึ่งสำหรับแคชแล้ว ความเครียดเนี่ยแคชมองว่ามันมีอยู่ 2 อย่างก็คือเครียดทางร่างกายแล้วก็เครียดทางจิตใจ และการลดน้ำหนักเนี่ยเรียกได้ว่าเป็นความเครียดของร่างกาย จะไม่ได้เกี่ยวกับจิตใจที่มันเครียดนะคะ เพราะถ้าเราลดน้ำหนักผิดวิธี เช่น อดอาหารจนขาดสารอาหารบางอย่าง หรือออกกำลังกายหักโหมจนกล้ามเนื้ออักเสบ ร่างกายก็จะเครียดด้วยตัวของมันเองดังนั้นเราต้องไม่ปล่อยให้ภาวะร่างกายเครียด โดยเติมเต็มด้วยสารอาหารให้เต็มที่ ไม่ออกกำลังกายหนักเกินจำเป็นแล้วความเครียดทางร่างกายก็เลยไม่มีอะไรที่จะต้องกังวลค่ะส่วนสภาวะจิตใจ แคชเองไม่ได้มีความเครียดอะไรที่มันจริงจังอยู่แล้ว สำหรับตัวแคชเองนะ แต่สำหรับคนที่โฟกัสกับตัวเลขบนตาชั่งมากจนนอยด์ อยากให้ทำใจสบายๆ ค่ะ ถ้าตัวเลขบนตาชั่งเพิ่ม แต่รอบเอวเราเท่าเดิมหรือเล็กลง แคชว่ามันหมายถึงหุ่นที่กระชับและกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้น สุขภาพที่ดีขึ้นไปด้วยนะคะ3.ทัศนคติในโปรแกรมบอดี้คีย์ จะเน้นย้ำเรื่องของทัศนคติให้มีความเชื่อมั่นในตัวเองในทุกๆ ด้าน ทั้งการออกกำลังกาย การกิน การมองเห็นเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้นสำหรับแคช จากใจเลยที่รู้สึกอยากจะลดน้ำหนักก็คือเราเห็นเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ที่เราเคยใส่ได้ตอนที่ก่อนท้องแล้วเราก็มาเปรียบเทียบกับเสื้อผ้าที่เรามาใส่ตอนช่วงที่หลังท้องซึ่งหลังคลอดใหม่ๆ เนี่ยมันจะเป็นเสื้อผ้าที่มันไซด์ใหญ่มากไม่ว่าจะเป็น 3xl 4xlเวลาออกจากบ้านเนี่ยก็จะต้องใส่ชุดคลุมที่มันตัวใหญ่ๆไม่งั้นเราจะไม่เกิดความมั่นใจ (เพราะว่าหน้าท้องใหญ่มากจ้า) จะเป็นคนที่ไม่ใส่อะไรที่มันรัดรูปมากกางเกงก็ตัวใหญ่เสื้อก็ตัวใหญ่ แต่ในใจลึกๆ เนี่ยเรามีทัศนคติมีความรู้สึกว่ายังไงเราก็จะต้องลดให้ได้เพื่อที่เราจะได้หยิบจับเสื้อผ้าสวยๆ กลับมาใส่เหมือนเดิม และความจริงเราก็รู้อยู่ในใจลึกๆ ว่าเราสามารถที่จะลดได้แล้วก็กลับมาเหมือนเดิมแค่เรารู้สึกว่าช่วงนี้ยังไม่พร้อมแต่พอเรารู้สึกว่าตอนนี้พร้อมแล้วแหละฉันเริ่มว่างละ ก็เลยตัดสินใจที่จะลดน้ำหนัก ทัศนคติในการลดน้ำหนักจึงไม่ได้มีบวกลบอะไร รู้แต่ว่าเราทำได้อยู่แล้ว 4.ประเภทอาหารแน่นอนว่า ช่วงที่ลดน้ำหนัก โปรแกรมบอดี้คีย์ก็จะเน้นให้เราเลือกอาหารมากขึ้น อย่างเช่นลดการกินของทอด ของมัน ของหวาน ลดผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง รวมถึงข้าวขาวขัดสี เปลี่ยนเป็นข้าวกล้อง และเลือกเมนูที่เป็นประเภทโปรตีนเพิ่มขึ้น อาหารประเภทที่จะกินบ่อยๆ ก็จะเป็นผักลวก ผักนึ่ง ฟักทองนึ่ง เผือกนึ่ง ไข่ต้ม อกไก่ประมาณนี้ค่ะ และที่สำคัญเลยนะคะ เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารเต็มและครบร่างกายจะไม่เรียกกิน อาหารอื่นๆ อีก แคชก็เลยเลือกทานบอดี้คีย์เพราะแคชต้องการสารอาหารที่อยู่ในบอดี้คีย์สะดวกง่ายด้วย แค่เขย่าดื่มก็ได้สารอาหารครบเลยค่ะ 5.พฤติกรรมการกินในโปรแกรม จะแนะนำให้บริหารแคลอรี่ต่อวันด้วยการแบ่งทานเป็นหลายๆ มื้อค่ะ ตามในแอพคือจะแบ่งเป็น 4 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น และเพิ่มมื้อว่าง 1 มื้อ เพราะในช่วงลดน้ำหนัก เรามักจะจดจ่อกับเรื่องอาหารมากกว่าปกติ ซึ่งการเติมสารอาหารให้เพียงพอนั้นสำคัญมาก เพราะร่างกายจะนำสารอาหารไปใช้ตามระบบที่ควรจะเป็นแต่อย่างที่บอกว่า แคชต้องเลี้ยงลูกไปด้วย ทำให้ไม่สามารถที่จะควบคุมการกินได้เหมือนคนปกติ มีเวลาตอนไหนก็ทานค่ะโชคดีที่แคชมีบอดี้คีย์ เพราะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก แคชก็แค่ดื่มบอดี้คีย์เป็นมื้อแรกและมื้อสุดท้าย มั่นใจว่าได้สารอาหารครบเลยโดยไม่ต้องมานั่งเตรียมทีละมื้อๆ และทำอาหารปกติกินในมื้อย่อยๆ อีก 2 มื้อ คือช่วงสาย และช่วงเที่ยงเป็นการลดน้ำหนักที่ไม่หิวเลย รู้สึกอิ่มท้องตลอดวัน แคชรู้สึกอย่างงั้นเลยนะ 6.กิจกรรมเรื่องสุดท้าย กิจกรรมในแต่ละวัน ตามแบบทดสอบในโปรแกรมบอดี้คีย์ แคชมีกิจกรรมที่เพียงพออยู่แล้วค่ะ เลยไม่ต้องปรับส่วนนี้มาก เพราะแคชเลี้ยงลูกเอง พ่วงตำแหน่งแม่บ้าน กิจกรรมส่วนใหญ่ของตัวแคชเองเนี่ยก็จะเป็นการทำงานบ้าน ทำอาหารให้ลูก พาลูกคนโตเล่นชีวิตประจำวันก็จะเป็นชีวิตที่ปกติเรียบง่ายเลย ใช้ชีวิตอยู่กับลูก เล่นอยู่กับลูก ตื่นเช้ามาก็ทำอาหารให้ลูกกินกลางวันมาก็ทำอาหารให้ลูกกิน กิจกรรมรายวันก็จะเป็นรูทีนแบบนี้ในทุกๆ วัน ถ้าถามถึงเรื่องของการออกกำลังกายไม่ต้องพูดถึงเลยจ้าทุกคน คือ.. ไม่มีเวลาที่จะได้ออกกำลังกายเลยค่ะ เพราะเราเลี้ยงลูกเอง ก็เลยใช้การทำงานบ้าน เล่นกับลูกนี่แหละ เป็นการออกกำลังกายไปในตัว BodyKey Program ใช้เงินเท่าไหร่?อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ดูเหมือนเข้าคอร์สยิ่งใหญ่เลยใช่มั้ยคะ แต่จริงๆ ราคาของโปรแกรมนี้ไม่ได้โหดขนาดนั้นนะ แถมยังปรับได้ตามงบของแต่ละคนด้วย ซึ่งถ้าถามวิธีการของแคชแล้ว ไม่ถึง 10,000 บาท/เดือนค่ะขอเล่าถึงช่วงก่อนที่จะเข้าโปรแกรมบอดี้คีย์ก่อนเล็กน้อยนะคะ คือนอกจากการปรับพฤติกรรมตามที่บอกข้างต้นแล้ว ระหว่างที่ลดน้ำหนัก ก็จะต้องวัดผลต่างๆ เพื่อให้เห็นพัฒนาการ และปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามแต่ละช่วงไป โดยตามนี้ค่ะ Weight หรือน้ำหนักตัว แน่นอนว่า ลดน้ำหนัก ก็ต้องชั่งน้ำหนักเนอะ ตอนนั้นน่าจะหนักประมาณ 80 กิโลกรัมเลยค่ะ บอกตรงๆ ว่าไม่กล้าชั่ง Waist หรือวัดรอบเอว ไม่กล้าวัดเลยค่ะ เลยไม่มีตัวเลขตรงนี้Visceral Fat คือตัวเลขที่บอกถึงความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ตอนนั้นก็ไม่ได้วัดไว้เช่นกัน แต่น่าจะหนามาก เกิน 20 แน่นอนBody Fat คือสัดส่วนไขมันทั้งหมดของร่างกาย ไม่ได้วัดเอาไว้Muscle คือสัดส่วนกล้ามเนื้อในร่างกายค่ะ ไม่ได้วัดจ้า แต่น่าจะแทบไม่มี เพราะตัวนิ่มมากพุงใหญ่ด้วยBMR คือค่าการเผาผลาญพลังงานของเราในแต่ละวัน อันนี้น่าจะถึง 2000 เพราะเราตัวใหญ่สุดๆ ไปเลยค่ะBody Age อายุร่างกายค่ะ ไม่ได้วัดไว้ แต่เดาว่า น่าจะ 45+ลืมบอกด้วยค่ะว่า ถ้าเรามีตาชั่งแบบดูค่าไขมันเปอร์เซ็นต์ ค่าเผาผลาญต่างๆ ยิ่งดีเลยค่ะเพราะบางทีเราอาจจะโฟกัสแต่น้ำหนักในช่วงที่เราลดอยู่ บางทีตอนที่เราลด ถ้าเกิดน้ำหนักไม่ลดลง แต่ตัวเลขอื่นๆ อาจจะดีขึ้น เราจะได้รู้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง เปอร์เซ็นต์ของไขมันอาจจะลดลง หรือเปอร์เซ็นต์กล้ามเนื้อเราอาจจะเพิ่มขึ้นก็เป็นไปได้ ทำให้น้ำหนักเราไม่ลง เพราะกล้ามเนื้อหนักกว่าไขมันไงคะ BodyKey Program ต้องทำอะไรบ้างหลักๆ เลยก็คือ ใช้ชีวิตปกติของเราเนี่ยแหละค่ะ เพียงแต่ปรับ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตามคำแนะนำของโปรแกรม เพื่อให้มันเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด เราจะได้ทำได้ต่อเนื่องยาวนาน และไม่กลับไปทำพฤติกรรมแบบเดิมซ้ำอีกค่ะBodyKey Program: Day 1-30 เริ่มเดือนแรก แคชจะทานบอดี้คีย์ทดแทนอาหาร 2 มื้อค่ะ เช้ากับเย็น โดยชีวิตของแคชเองก็คงจะมีชีวิตประจำวันที่คล้ายแม่ๆทั่วไปค่ะก็คือตื่นเช้ามาภายใน 1 ชั่วโมงแรกเนี่ยร่างกายก็ต้องได้รับสารอาหารแล้ว แคชก็เริ่มจากการชงเชคบอดี้คีย์แล้วก็ใส่โปรตีนเพิ่ม และทานอาหารเสริมชนิดเม็ด แล้วก็ดูลูกในช่วงเช้าค่ะ จากนั้นก็ไปทำอาหารให้ลูก แล้วก็นั่งกินบอดี้คีย์ไปพร้อมๆ กันกับลูกตอนกินข้าวค่ะ หากมีเวลาก็จะมีเสริมคุกกี้โปรตีน เพื่อให้ได้พลังงานประมาณ 400 cal ในช่วงเช้าในระหว่างวันก็จะมีการดื่มน้ำ พอตกตอนเที่ยงก็ทานอาหารปกติ มื้อเที่ยงเลยนะ อาหารช่วงที่จะลดน้ำหนักก็จะกินอาหารที่เราจะพอเข้าใจกันก็คืออาหารคลีนที่พอเลือกสรรมาได้ ณ ช่วงเวลานั้นเนาะ คำนวณให้ได้ประมาณ 400-450 calแต่ส่วนมากก็จะทำอะไรที่มันง่ายๆไว้อย่างเช่น หุงข้าวกล้องไว้เพื่อเอาไว้ทานกับปลาทูนึ่งหรือไข่ต้มบ้าง แต่ก็จะเลี่ยงอาหารที่เป็นประเภทของหวานของทอด งดทานข้าวขัดสี ข้าวขาว เปลี่ยนเป็นข้าวกล้องแทนแบบนี้ค่ะเพราะว่ามันจะมีใยอาหารสูง ทานอาหารที่มันมีใยอาหารที่มันอิ่มได้นานมากขึ้นและไม่เลือกกินผลไม้เลยค่ะช่วงบ่ายก็ทำงานบ้านคุยกับลูกค้าทาง LINE บ้าง เติมนมอัลมอนด์ หรือฟักทองต้ม ซักประมาณ 100 cal หรือถ้าลูกหลับก็หลับไปด้วยค่ะ ลูกหลับตอนไหนรีบหลับด้วยเลย เป็นการชาร์จพลังงานให้ของคุณแม่ไปในตัวช่วงเย็นก็คือทานอาหารแบบช่วงเช้า ชงเชคบอดี้คีย์แบบช่วงเช้าเมนูเดิมเหมือนเดิมเป๊ะเลยจ้า รวมๆ แล้วให้ทั้งวันได้พลังงานเท่าๆ กับค่า BMR คือประมาณ 1300 cal ค่ะถ้าในระหว่างวันวันไหนว่าง หรือคึกๆ ขึ้นมาหน่อยก็อาจจะมีการทำงานบ้านอื่นๆ ให้รู้สึกว่าร่างกายจะต้องได้นำพลังงานออกไปใช้เพิ่มขึ้นบ้าง อาจจะมีการขัดกระจกทำนู่นทำนี่เพิ่มให้ร่างกายเหนื่อยเพิ่มแต่มันได้งานบ้านเพิ่มด้วยโดยประมาณนี้ค่ะสรุปผลเดือนที่ 1 น้ำหนัก 75.7 กิโลกรัม รอบเอว 38 นิ้ว ชั้นไขมัน 7 สัดส่วนไขมัน 36% สัดส่วนกล้ามเนื้อ 40.1 BMR 1310 ที่เห็นในรูปเหมือนผอมลงไปเยอะ เพราะเป็นคนแขนขาเล็กค่ะ พอใส่ชุดคลุมหลวมๆ ทำให้ดูผอมลงไปเลย แต่จริงๆ หน้าท้องยังใหญ่มากนะ BodyKey Program: Day 31-60เข้าสู่เดือนที่ 2 เพราะค่า BMR เริ่มลดลง แคชเลยปรับมากินบอดี้คีย์และเสริมโปรตีนจากพืชเฉพาะช่วงเช้าอย่างเดียวค่ะ วิธีการลดไขมันหรือว่าลดน้ำหนักของแคชช่วงเดือนที่ 2 นี้ แคชอยากจะเล่าเสริมเรื่องการทานโปรตีนเสริมสักนิดนึงนะคะ ตัวแคชเองต้องเสริมโปรตีนเยอะ เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อค่ะ เมื่อมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นตัวแคชเองก็จะทำกิจกรรมได้นานขึ้น จึงใช้ไขมันสะสมในร่างกายได้มากขึ้นก็เลยทำให้รูปร่างกระชับได้เร็วขึ้นตัวแคชเองเลยเลือกเสริมโปรตีนที่มีกรดอะมิโนครบตามตามที่ร่างกายต้องการ โปรตีนนี้จะต้องมี 0% คอเลสเตอรอลและต้องเป็นโปรตีนที่มาจากพืชด้วยนะค้า สำหรับอาหารที่ทานส่วนใหญ่ในเดือนที่ 2 ก็คือ เช้าชงเชคบอดี้คีย์ ตอนเที่ยงกินอาหารมื้อปกติ แต่จะควบคุมในเรื่องของอาหารที่เป็นของทอดของมันของหวาน เลี่ยงได้ก็จะเลี่ยงค่ะ ในตอนเย็นก็จะปรับจากการชงบอดี้คีย์ มาเป็นอาหารปกติ คือข้าวกล้องกับไข่ต้ม แต่จะเสริมช่วงสายหรือบ่ายเป็นสลัดกุ้ง หรือสลัดอกไก่ รวมๆ แล้วจะได้ประมาณ 1250 cal ตาม BMR ค่ะสรุปผลเดือนที่ 2 น้ำหนัก 61.4 กิโลกรัม รอบเอว 31 นิ้ว ชั้นไขมัน 7 บอดี้แฟต 31.3% มวลกล้ามเนื้อ 39.7 BMR 1261 บอกเลยว่า การได้นอนเพิ่มขึ้นทำให้เห็นผลมากๆ เลยค่ะ เพราะช่วงนี้ลูกก็เริ่มนอนนานขึ้น ทำให้แม่ไม่ค่อยเครียดด้วย น้ำหนักยิ่งลงไวสุดๆ ไปเลยค่า BodyKey Program Day 61 - 90เดือนที่ 3 จริงๆ แล้วแคชเว้นช่วงการลดน้ำหนักไป 1 เดือนค่ะ ตามหลักการของโปรแกรมบอดี้คีย์ เพื่อลดความเครียดในร่างกาย บอกเลยค่ะว่าจัดหนักจัดเต็ม หมูกะทะบ่อยมากๆ แต่น้ำหนักก็ไม่พุ่งเยอะ แค่ 1-2 กิโลเท่านั้น แต่ได้ค่าการเผาผลาญเยอะขึ้น และเท่าที่สังเกตดูคือ สัดส่วนไขมันเพิ่มขึ้นมาแค่เล็กน้อยเท่านั้นค่ะ ซึ่งการกินหมูกระทะของแคชต้องกินแบบมีสตินะคะ คือเลือกกินเนื้อที่ไม่ค่อยติดมัน กินผักเยอะหน่อย และไม่เน้นซดน้ำซุปค่ะ เป้าหมายสำหรับการลดน้ำหนักระยะที่ 2 คือแคชอยากได้หุ่นที่กระชับค่ะ เลยจะเพิ่มน้ำดื่มเยอะหน่อย ประมาณวันละ 3 ลิตร และไม่โฟกัสกับตัวเลขน้ำหนักมากจนเกินไป แต่หันมาสนใจตัวเลขรอบเอวมากกว่าอาหารในโปรแกรมบอดี้คีย์เดือนที่ 3 นี้ แคชก็จะกลับมากินบอดี้คีย์ 2 มื้อ ทั้งเช้าและเย็น โดยจะเพิ่มโปรตีนที่เป็นอาหารเสริมเข้าไปแล้วก็มีอาหารเสริมชนิดเม็ดที่กินเป็นประจำ อาจจะเพิ่มนมอัลมอนด์และไข่ต้ม หรือคุกกี้โปรตีนเป็นของว่างตอนบ่าย แบ่งเป็น 4 มื้อตามในโปรแกรมบอดี้คีย์ส่วนมื้อเที่ยง เป็นอาหารปกติ ที่จะเน้นเป็นอาหารประเภทต้มค่ะ อาจจะเป็นสุกี้ หรือข้าวกล้องต้ม โดยที่ไม่ใส่เครื่องปรุงในน้ำซุปเยอะ เพื่อลดโซเดียม และเน้นทานผักกับเนื้อสัตว์เป็นหลักเลย โดยรวมให้ได้พลังงานประมาณ 1200 cal สรุปผลเดือนที่ 3 น้ำหนัก 60.5 กิโลกรัม รอบเอว 31 นิ้ว ชั้นไขมัน 4 บอดี้แฟต 31.8% มวลกล้ามเนื้อ 38.9 BMR 1237 ถึงชั้นไขมันจะลดลงไปเยอะมากๆ แล้ว แต่น้ำหนักเราก็ยังลดได้อีกนะ ใครมีปัญหาเรื่อง Hit Plateau มาลองวิธีนี้ อาจจะเป็นทางออกก็ได้นะคะ BodyKey Program: Day 91 - 120 เดือนที่ 4 เป็นเดือนที่เราได้รูปร่างแล้วก็สัดส่วนมาตามที่เราพอใจในระดับหนึ่งแล้วค่ะ ดังนั้น อาหารก็จะยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่สิ่งที่ต้องการคือความกระชับของกล้ามเนื้อ ผิวพรรณที่ต้องดูเนียนนุ่มขึ้น แคชก็จะปรับเพิ่มในส่วนของการกินและควบคุมปริมาณน้ำดื่ม ก็คือจะดื่มน้ำเพิ่มขึ้นให้ได้อย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวันโดยแบ่งดื่มเป็นช่วงๆและพยายามหากิจกรรมเพิ่มขึ้นไปด้วย เช่น พาลูกไปเดินสนามเด็กเล่นบ้าง เวลาพาลูกไปวิ่งในตอนเย็นเราก็วิ่งไปกับลูกด้วย หรืออุ้มลูกออกกำลังกายก็จะได้ทั้งแขนและก็ต้นขาเพื่อให้ได้มัดกล้ามเนื้อใหญ่สรุปผลเดือนที่ 4 น้ำหนัก 54 กิโลกรัม รอบเอว 28 นิ้ว ชั้นไขมัน 2 บอดี้แฟต 27% สัดส่วนกล้ามเนื้อ 38.9 BMR 1202 พอเพิ่มเรื่องกิจกรรมเข้ามา ทำให้ชั้นไขมันลดลงไปเยอะเลยค่ะ แล้วน้ำหนักเราก็ลดลงไปได้อีก แถมรอบเอวเล็กลงด้วย ฉะนั้นไม่อยากจะให้โฟกัสแค่ตัวเลขของการลดน้ำหนัก อย่างที่บอกว่า ถ้ามีตาชั่งแบบที่วัดค่าได้ครบทุกอย่าง เราก็จะได้เห็นได้ชัดว่า อะไรที่เราลดหรืออะไรที่เราเพิ่มจริงๆ แล้วก็อย่าลืมวัดสัดส่วนไว้ด้วยนะคะก่อนที่เราจะเริ่มควบคุมน้ำหนัก เพราะว่าสัดส่วนก็เป็นอีกอย่างนึงที่จะทำให้เราเห็นได้ชัดว่าเรามีสัดส่วนที่กระชับแล้วก็เล็กลงตรงไหนบ้างจ้า พอหุ่นสวยๆ กลับมา เราก็กล้าหยิบชุดสวยๆ มาใส่มากขึ้น กล้าถ่ายรูปมากขึ้น ความมั่นใจหลายๆ อย่างก็กลับมา รู้สึกมีความสุขมากขึ้น และที่สำคัญเลย เราจะไม่กลับไปอ้วนอีกแล้วค่ะ แคชก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังลดน้ำหนักกันอยู่นะคะ ใครอยากทักมาปรึกษา ก็ทักมาได้ตามเฟซบุ๊คของแคชเลยค่ะที่เพจ Cashchi ความงามและสุขภาพสามารถสอบถามได้ทุกเรื่องเลยนะคะ ทั้งเรื่องลดน้ำหนักแล้วก็อาหารเสริมที่แคชกินอยู่ค่าhttps://youtu.be/LEgt6V1_ncYขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จมีสุขภาพที่แข็งแรง และไม่กลับไปอ้วนอีกเลยนะค้า เพี้ยง!เครดิตภาพ Cashchiอยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้