โดดเด่นในทุกปาร์ตี้ ไปกับ KIKO MILANO Festival Glow Collection

     เตรียมตัวให้พร้อมกับช่วงเวลาแห่งความสุขและความสนุกกับทุกเทศกาลงานดนตรีในช่วง Summer ด้วย KIKO MILANO Festival Glow Collection คอลเลคชั่นที่นำเอาช่วงเวลาอันแสนตราตรึงด้วยออร่าความเปล่งประกายเมทัลลิค พุ่งสุดตัวในทุกปาร์ตี้เสมือนมีสปอร์ตไลท์ สาดส่องมาที่เราในทุกย่างก้าว สีเอิร์ธโทนเข้ากับทุกเฉด เติมประกายเปล่งปลั่งด้วยสีทองดุจทะเลทราย ครีเอทลุคสวยได้ยาวนานตลอดวัน แพคเกจสีเทอร์ควอยซ์ (Turquoise) เจือด้วยสีทองอร่าม ให้ฟีลลิ่งความหรูหราแบบวินเทจ เหมาะกับลุคงานเทศกาลดนตรีเก๋ๆ เพื่อความโดดเด่นท่ามกลางฝูงชนมหาศาล

The Skincare

     เริ่มต้นวัน โดยเฉพาะวันกลางแจ้งแบบนี้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด Perfecting Face Fluid SPF 50 UVA (ราคา 990  บาท) ลูบไล้ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เพื่อปกป้องผิวอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะปลายจมูก หน้าผาก และโหนกแก้ม นอกจากนี้ยังช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนก่อนลงเมคอัพ ดุจผืนผ้าใบอันเรียบลื่นพร้อมกับทุกสีสัน จากนั้นบำรุงและปกป้องเรียวปากด้วย Crystal Lip Balm SPF 50 (ราคา 600 บาท)  ต่อด้วยการใช้ Shine Bright Body Fluid (ราคา 890 บาท) ลูบไล้เพื่อปกป้องผิวช่วงหัวไหล่ ไหปลาร้า และช่วงคางด้านหน้า เนื้อสัมผัสสบายผิว พร้อมบำรุงและมอบประกายความเปล่งประกายด้วยอณูไข่มุก

The Base

     เมื่อผิวสวยอย่างอื่นก็สวยตามเสมือนว่าเป็นบัตรผ่านสู่ทุกขั้นตอนความสวยตลอดวัน ไม่ว่าจะกำลังเต้นรำอยู่กลางแสง แดดหรือแม้ตอนกำลังเบียดเสียดอยู่กับฝูงชน แนะนำให้ใช้แปรง Double Ended Face Brush (ราคา 890 บาท)  

     ลงรองพื้น Fresh Feel Foundation SPF 30 (ราคา 1,100 บาท) ที่ออกแบบมาเพื่อผิวที่ต้องอยู่กลางแจ้งในช่วงเฟสติวัลโดยเฉพาะ เบาสบายผิวแต่ยึดเกาะผิวได้ดีเยี่ยม พร้อมทั้งมอบฟินนิชผิวสดใส เปล่งปลั่ง ตามด้วย Powder Foundation SPF 50 (ราคา 1,100 บาท) แป้งที่จะช่วยล็อกงานผิวให้สวยเป๊ะยาวนานตลอดวัน ทั้งกันน้ำและเหงื่อ ให้ฟินนิชผิวแบบแมทท์ เหมาะสำหรับวันที่ใช้ชีวิตกลางแจ้งตลอดวัน พกติดตัวเอาไว้เติมผิวให้สวยระหว่างวันก็ได้ จะใช้แบบแห้งหรือแบบเปียกก็สวยทั้งคู่ ไม่เป็นคราบ

     ถึงเวลาของการเติมสีสันกันบ้างแล้ว ด้วยการใช้ 3D Blush (ราคา 1,100 บาท) ปัดไล้ที่พวงแก้ม เนื้อผลิตภัณฑ์อณูพิกเมนต์เล็กละเอียดจะช่วยเติมประกายให้ผิวเปล่งปลั่ง จากนั้นก็เพิ่มความแทนให้ผิวดูสวยด้วย Baked Bronzer (ราคา 1,300 บาท) โดบปัดไล้ที่ขมับ ปลายจมูก และใต้โหนกแก้ม หรือตำแหน่งใดๆ ที่ผิวมักจะสะท้อนกับแดดให้ผิวดูโกลว์บ่มแดด ตามด้วย Baked Highlighter (ราคา 1,100 บาท) เพิ่มความโกลว์เปล่งประกายไปอีกระดับ ก่อนจะใช้ Golden Star Cushion Highlighter (ราคา 800 บาท) เพิ่มชิมเมอร์ตรงส่วนที่ต้องการเพิ่มความโดดเด่นเป็นพิเศษ ตัวแอพพลิเคเตอร์ของคุชชั่นออกแบบมาให้เบลนด์ได้ง่าย ทั้งยังช่วยมอบโครงหน้าให้สวยมีมิติจากแสงและเงา พกพาง่ายเพื่อใช้เติมระหว่าง

The Eyes

     นาทีนี้เล่นให้เพลิน สนุกให้เต็มที่ ลูกเล่นใดๆ ที่อยากลองมานาน ตอนนี้คือโอกาสเหมาะ เลือกอายแชโดว์สีที่ชอบ แล้วเพิ่มมิติด้วยงานสีเมทัลลิคจาก Back On Stage Eyeshadow Palette (ราคา 890 บาท) จากนั้นก็เพิ่มเลเยอร์ความสดชัดด้วย Metallic Loose Eyeshadow (ราคา 600 บาท) พิกเมนต์สีแน่นแต้มไปที่กึ่งกลางเปลือกตา สวยสะกดใจ ตามด้วยการเขียนขอบตาแบบคมชัดด้วย Waterproof Eye Marker (ราคา 600 บาท) วาดงานเส้น หรือออกแบบกราฟฟิค บนขอบตา แถมกันน้ำ ไม่ต้องกลัวเยิ้มระหว่างวัน ตบท้ายด้วย Volume & Care Mascara (ราคา 850 บาท) มาสคาร่าเพื่อขนตายาว หนา ฟู ให้ดวงตาดูคมเข้ม พร้อมสารบำรุงช่วยให้ขนตาแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย ส่วนคิ้วต้องยกให้ Water Resistant Eyebrow Definer (ราคา 600 บาท) คิ้วเข้ม เรียงเส้นสวยเป๊ะ วาดได้อย่างแม่นยำ แต่ยังดูธรรมชาติ ก่อนจะเซ็ทเมคอัพให้อยู่ยาวๆ ด้วย Keep Shining Make Up Fixer (ราคา 890 บาท)  แถมด้วยประกายความโกลว์จากกลิตเตอร์สีทองไปอีกรอบ

The Lips

     ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะชอบแบบแมทท์หรือแบบครีมเปล่งประกาย ถ้าเลือกแมทท์ก็ต้องเป็น No Transfer Lipstick (ราคา 650 บาท)  เม็ดสีแน่น ติดทนไม่หลุดระหว่างวัน ต่อให้เต้นเพลิน ร้องเพลินเบอร์ไหนก็ยังอยู่ ยิ่งถ้าใช้คู่กับ Waterproof Lip Liner (ราคา 450 บาท) ด้วยแล้ว ความขอบปากเนียนเป๊ะ แม่นยำ กันน้ำ ไม่ทำให้ลิปเลอะเทอะ และถ้าชอบแบบเนื้อครีม Make Me Queen Lipstick (ราคา 650 บาท) คือคำตอบ เนื้อเนียน ให้สีอิ่มเต็มเรียวปาก บำรุงด้วยไฮยาลูรอนิคให้เรียวปากชุ่มชื้น ก่อนจะจบที่ Precious Lipgloss (ราคา 650 บาท) ที่ผสานแผ่นทองมอบลุคเมทัลลิคแวววาว พร้อมช่วยให้สีสันติดแน่นทนนาน

The Finishing Touches

     หน้าพร้อมแล้ว เรียวเล็บก็ห้ามเปลือยนะจุดนี้ เราต้องเต้นรำ ปรบมือ โบกมือไปมา จะมาจืดๆ เบาๆ ได้อย่างไร เลือกสีแซ่บๆ สดใสที่อยากได้ จาก Nail Lacquer ทาสักสองรอบเพื่อสีที่แน่นติดทน จากนั้นเติมประกายด้วย Sparkle Top Coat ทาได้หลากหลาย มีกลิตเตอร์ผสมเพื่อให้สีเล็บโดดเด่นเตะตายิ่งขึ้นไปอีก

     งานเทศกาลดนตรีทั้งทีต้องมีผลิตภัณฑ์ Festival Glow Collection เพื่อความแซ่บขั้นสุด พร้อมแล้วก็วาร์ปเข้าไปอยู่ในโลกแห่งเสียงดนตรีกันได้เลย แล้วสนุกกับทุกช่วงเวลา ดื่มด่ำกับอิสรภาพนั้นให้เต็มที่!