วิธีแก้อาการปวดหัวเบื้องต้น แบบไม่พึ่งยากิน ด้วยตัวเองง่ายๆ ที่บ้าน...อ่านต่อเลย / บทความสุขภาพโดย Pchalisaเนื่องจากเมื่อเดือนที่แล้วอยู่ๆ ป้าของผู้เขียนก็มาหาที่บ้านมาคุยธุระเรื่องอื่นค่ะ แต่อยู่ๆ ป้าก็บอกว่าเมื่อคืนปวดหัวปวดมากแต่ก็ทน เพราะไม่อยากทานยาแต่ไม่รู้จะทำยังไง? ตอนแรกป้าว่าเป็นจากการดูโทรศัพท์ก็เลยหยุดดูสักพัก แต่ก็มานั่งนึกอีกว่าเอ๊ะ! โทรศัพท์ใช้ตาจะเกี่ยวอะไรกับหัว ก็เลยทนจนตื่นเช้ามาก็เหมือนว่าอาการปวดหัวดีขึ้นและหายไปเอง และถ้าเราเป็นแบบนี้อีกจะทำไงดีแบบไม่ต้องใช้ยา?🤔นั่นคือคำถามทิ้งท้ายจากป้าเอาไว้ให้ผู้เขียนก่อนที่ผู้เขียนจะได้พูดคร่าวๆ เกี่ยวกับการดูแลตัวเองตอนปวดหัวแบบไม่ต้องใช้ยาค่ะ และจากเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้เขียนมานั่งนึกดูอีกที ก็คิดว่าหรือว่าคนส่วนใหญ่ยังมองภาพเรื่องนี้ไม่ออก? ก็เลยเป็นเหตุให้ผู้เขียนนั้นอยากส่งต่อเนื้อหาเอาไว้ในบทความนี้นะคะ ที่บางวิธีการนั้นผู้เขียนประยุกต์ใช้เองตลอดและมักได้ผล ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกันเลยดีกว่าค่ะว่า ถ้าปวดหัวแต่ไม่อยากทานยาจะทำยังไงดี✅️สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัว!คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า? อาการปวดหัวสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุมาก และจากที่ผู้เขียนมีประสบการณ์มานั้น โดยส่วนตัวถ้ามีปวดหัวมักเกิดจากมีประจำเดือนค่ะ โดยเฉพาะในช่วงวันแรกของการมีประจำเดือน การดูโทรศัพท์เป็นเวลานานก็ทำให้ปวดหัวได้อีกเหมือนกัน กับอีกอย่างที่ชัดเจนมากคือตอนไปอยู่กลางแจ้งและมีแดดร้อนจัดเป็นเวลานาน ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลให้ผู้เขียนมีอาการปวดหั☹️อ้อ! อีกอย่างเช่นการอดนอนก็มีส่วนทำให้ปวดหัวได้ด้วยนะคะ และการทำความเข้าใจถึงสิ่งกระตุ้นที่มาทำให้เราสามารถปวดหัวได้ถือเป็นกุญแจสำคัญค่ะ เพราะถ้าเรารู้อย่างแน่ชัดแล้วว่าอะไรเป็นปัจจัยชักนำ ง่ายสุดเราก็แค่ไปจัดการที่สาเหตุนั้นค่ะ เช่น มีอาการปวดศีรษะ จากที่มีการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะ ท้ายทอยและคอ แบบนี้มักเป็นผลมาจากความเครียดค่ะ ท่าทางที่ไม่ดีหรือการอยู่หน้าจอเป็นเวลานาน แบบนี้เราก็ไปแก้ด้วยการจัดการความเครียด ปรับท่าทางในการนั่ง การนอนและการทำงานใหม่และลดการใช้เวลากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ลงค่ะ🆗️อย่างไรก็ตามนอกจากสาเหตุบางส่วนที่ผู้เขียนได้เกริ่นเอาไว้บ้างแล้วนั้น ภาวะขาดน้ำยังมีผลทำให้เกิดอาการปวดศีรษะจากหลอดเลือดได้ เนื่องจากระดับของเหลวที่ลดลงส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ในขณะที่อาการปวดตาจากการอ่านหนังสือเป็นเวลานานหรือการใช้หน้าจอสามารถทำให้เกิดอาการปวดศีรษะจากความตึงเครียดได้ นอกจากนี้ อาหารหรือเครื่องดื่มบางชนิด เช่น อาหารที่มีคาเฟอีนหรือสารให้ความหวานเทียม ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวในบางคนได้ด้วยนะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาการปวดหัวเรื้อรังสามารถบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพอย่างอื่นที่ซ่อนอยู่ เช่น ไมเกรน และถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องได้รับการรักษาเฉพาะทางค่ะ🆗️ปวดหัวทำไงดีจึงจะหาย? แบบไม่ต้องพึ่งยาจากที่ผู้เขียนได้เคยมีอาการปวดหัวมานั้น ต้องบอกว่าได้ทำให้ตัวเองหายเป็นปกติโดยที่ไม่ต้องทานยาบ่อยมากค่ะ คือจริงๆ ยามีแต่ผู้เขียนเลือกใช้วิธีการอื่นก่อนเสมอ ถ้าไม่ได้ปวดมากจริงๆ และได้ผลตลอดค่ะ ซึ่งแนวทางในการดูแลตัวเองง่ายๆ ที่บ้านให้เป็นอิสระจากอาการปวดหัวนั้น ให้ลองปรับใช้แนวทางดังต่อไปนี้ค่ะ👇1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า? ภาวะขาดน้ำมีผลทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ ดังนั้นควรดื่มน้ำให้เพียงพอในตอนนั้นเลยก็ให้ยกน้ำขึ้นมาดื่มเลยค่ะ เพราะการให้ความชุ่มชื้นเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย และส่งผลต่อการป้องกันอาการปวดศีรษะได้อย่างมาก เนื่องจากภาวะขาดน้ำทำให้ปริมาณเลือดลดลงและเลือดข้นขึ้น ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักขึ้นในการไหลเวียนของเลือด ความเครียดในระบบหัวใจและหลอดเลือดทำให้ออกซิเจนและสารอาหารส่งไปยังสมองลดลงและกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวได้🆗️นอกจากนี้ภาวะขาดน้ำยังส่งผลต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง จึงส่งผลให้มีความไวต่อความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นกว่าปกติด้วยค่ะ และปกติผู้เขียนดื่มน้ำเปล่าเป็นหลักตอนปวดหัวค่ะ แต่ก็มีบางช่วงดื่มแบบเย็นบ้างแต่ไม่เย็นมากเช่นถ้าเจอว่าปวดหัวจากความร้อน แต่โดยส่วนใหญ่ดื่มน้ำธรรมดาในอุณหภูมิห้องค่ะ และการดื่มที่ว่านี้ไม่ใช่การดื่มจนจุกนะคะ แต่เป็นการดื่มแบบเติมน้ำให้ร่างกายเป็นระยะๆ ค่ะ🥤เกี่ยวกับน้ำดื่ม ดูเพิ่มเติม: รีวิว น้ำดื่มลดโลกร้อน SIXTY DEGREES เซเว่น จากน้ำพุร้อนเชียงดาว...กดอ่านเลย / บทความโดย Pchalisa2. จัดการความเครียด จากที่เกริ่นมาแล้วนะคะว่า ความเครียดมักเป็นปัจจัยชักนำอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดหัว ดังนั้นง่ายๆ ก็คือตอนนั้นเราต้องหันมารวมเอาเทคนิคผ่อนคลายความเครียดต่างๆ มาใช้ค่ะ เช่น การหายใจลึกๆ การทำสมาธิ การเบี่ยงเบนความสนใจตัวเองไปเลย เช่น เดินไปรดน้ำต้นไม้ การทำสวน การฟังเพลงหรือแม้แต่การดื่มเครื่องดื่มที่ชอบ และทำอะไรที่ชอบในตอนนั้นก็สามารถลดความเครียดได้หมดค่ะ ที่ผู้เขียนเลือกใช้ประจำคือจะเอาความสนใจไปอยู่ที่การทำสวน การทำงานบ้านอะไรบางอย่างเบาๆ ในตอนนั้นเลยที่ปวดหัวจากความเครียดค่ะ ก็พบว่าช่วยได้เลยจริงๆ✅️3. ใช้ท่าทางในกิจกรรมต่างๆ ให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงาน การนั่งรถ การนอนหลับ การยกของ ทุกอย่างในชีวิตประจำวันของเราค่ะ เช่น ไม่นั่งนานจนเกินไป เพื่อป้องกันอาการปวดศีรษะจากความตึงเครียดและการไหลเวียนเลือดที่ไม่ดีค่ะ โดยส่วนตัวของผู้เขียนพยายามเปลี่ยนท่าทางในการทำงานประจำค่ะ ทั้งท่านั่งกับพื้นหรือนั่งกับเก้าอี้ และพายามปรับความสูงของเก้าอี้ให้เหมาะสมกับโต๊ะ ก็พบว่ารู้สึกสบายขึ้นและอาการปวดหัวลดลงและหายค่ะ 🆗️4. จำกัดเวลาอยู่หน้าจอ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการพักสายตาจากหน้าจอ การปรับความสว่างและกระพริบตามให้บ่อยมากขึ้น สิ่งเหล่านี้สามารถลดอาการปวดตาได้ค่ะ และคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่าความปวดสามารถส่งต่อไปที่อื่นได้ (Refer pain) และทำให้มีอาการปวดหัวตามมาค่ะ และจริงมากค่ะเพราะครั้งหนึ่งแค่ผู้เขียนหยุดใช้โทรศัพท์ในที่มืด อาการปวดหัวก็ค่อยๆ ดีขึ้นเลยทันตาค่ะ📱เกี่ยวกับโทรศัพท์ ดูเพิ่มเติม: แชร์ประสบการณ์ ร่วมกิจกรรมซัมซุงคอมมูนิตี้ SAMSUNG Makers event ผ่าน Zoom...กดอ่านเลย / บทความโดย Pchalisa5. ใช้การประคบเย็นหรือร้อน เมื่อเดือนที่แล้วหลานสาวปวดตาค่ะ ส่วนหนึ่งมาจากนอนดึกและใช้โทรศัพท์ จากนั้นเลยแนะนำให้เขาเอาน้ำแข็งมาประกอบใต้ตา ปรากฏว่าอาการดีขึ้นแถมตาดำหมีแพนด้าก็ลดลงได้ด้วย 6. หันมาออกกำลังกาย การลองยืนขึ้นเพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อในช่วงเวลาสั้นๆ สามารถลดความตึงเครียดและกระตุ้นให้การไหลเวียนเกิดได้ดีขึ้น มีผลทำให้เกิดอาการปวดศีรษะดีขึ้นได้จริงค่ะ และจะดีมากหากหันมาออกกำลังกายแบบเป็นจริงเป็นจังไปเลย เพื่อส่งเสริมการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้นและกล้ามเนื้อต่างๆ ก็ได้ผ่อนคลายด้วยค่🧗7. ทานอาหาร เคยเป็นค่ะที่วันไหนไม่ได้ทานข้าวตอนเช้าหรือทานอาหารบางมื้อช้ากว่าปกติ รู้สึกไม่สุขสบายในหัวมากค่ะและมักตามมาด้วยมีอาการปวดหัว และพอหันมาข้าวเท่านั้นสถานการณ์ก็ดีขึ้นเลยค่ะ และที่เราปวดหัวจากกรณีนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ จึงไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวในที่สุดค่ะ🍜เกี่ยวกับอาหาร ดูเพิ่มเติม: 11 อาหารมีธาตุสังกะสี ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ระบบภูมิคุ้มกันดี ...กดอ่านเลย / บทความสุขภาพโดย Pchalisa8. สร้างสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย บางทีที่เราปวดหัวมันเป็นเพราะอากาศถ่ายเทไม่สะดวกหรือรับสัมผัสกับสารบางอย่างมากเกินไปนะคะ เพราะผู้เขียนเคยยืนนานสองนานในที่จอดรถในห้าง ปรากฏว่าเริ่มปวดหัวก็เลยเปลี่ยนที่เข้าไปห้างคืนเลยค่ะ ดังนั้นสภาพแวดล้อมในตอนนั้นมีอะไรมากระตุ้นก็แค่ลดการสัมผัสลงค่ะ แบบนี้ก็ช่วยลดอาการปวดศีรษะได้จริง🆗️9. นอนหลับให้สม่ำเสมอ การอดนอนมีผลทำให้ปวดหัวได้จริงๆ ค่ะ และถ้าคุณผู้อ่านมีสาเหตุแบบนี้ ง่ายๆ ก็แค่ไปนอนพักผ่อนเลยค่ะ โดยการนอนที่ว่านี้อาจจะไม่ได้หลับในทันทีทันใดใสตอนแรก แต่ถึงจุดๆ หนึ่งยังไงก็หลับค่ะ และจะดีไปอีกถ้าในชีวิตประจำวันเราหันมากำหนดตารางการนอนหลับที่เป็นแบบแผนมากขึ้นเพื่อลดโอกาสที่จะปวดหัวได้อีกค่ะ ซึ่งข้อนี้จริงมากค่ะเพราะเคยนอนดึกมาก่อน แค่เพียงไปนอนเพิ่มอาการปวดก็ดีขึ้นเลยค่ะ😴10. ลองใช้หลักการกลิ่นหอมต่างๆ มาบำบัด การลองใช้กลิ่นหอมที่สามารถช่วยให้เกิดความผ่อนคลายได้นั้น สามารถทำให้หายจากปวดหัวได้จริงค่ะ เพราะผู้เขียนเคยใช้พวกลูกมะนาว ลูกมะกรูด จากยาดมสมุนไพรก็ใช้ได้ หรือจากดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมสดชื่นก็ได้ เช่น ดอกจำปา ดอกแก้ว ดอกมะลิ หรือเป็นพวกใบพืชที่มีกลิ่นหอมก็ได้นะคะ เช่น ใบเตย พอดมไปสักระยะเราจะผ่อนคลายและค่อยๆ หายจากอาการปวดศีรษะไปเองค่ะ🌱เกี่ยวกับสมุนไพร ดูเพิ่มเติม: 7 สมุนไพรไทย ช่วยลดอาการไอ ทำให้หายเร็วขึ้น ส่งเสริมสุขภาพดี...กดอ่านเลย / บทความสุขภาพโดย Pchalisaและทั้งหมดนั้นคือแนวทางดูแลตัวเองตอนปวดหัวค่ะ ซึ่งขอเสริมเพิ่มเติมอีกว่าในเรื่องของการสร้างสิ่งแวดล้อมเพื่อลดอาการปวดหัวนั้น สิ่งนี้ยังหมายถึงการใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่แน่นอัดอึด การหันมาอาบน้ำสระผม เหล่านี้ล้วนมีส่วนช่วยเหมือนกันค่ะเพราะหลายๆ ครั้งผู้เขียนได้ลองสังเกตดูแล้ว หายปวดหัวได้และรู้สึกสุขสบายมากขึ้นทันที อย่างไรก็ดีผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านและทำให้มองเห็นภาพมากขึ้นนะคะ และถ้าชอบบทความแบบนี้อีกอย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้ค่ะเพราะจะได้ไม่พลาดบทความอื่นๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ😊✅️🆗️เครดิตภาพประกอบบทความภาพหน้าปก โดย Sander Sammy จาก Unsplashภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1, 3-4 โดย ผู้เขียน และภาพที่ 2 โดย ROBIN WORRALL จาก Unsplashออกแบบภาพหน้าปกใน Canva https://intrend.trueid.net/article/6-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2-trueidintrend_403204 https://intrend.trueid.net/article/9-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B3-%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B3-trueidintrend_324443 https://intrend.trueid.net/article/5-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2-trueidintrend_356990 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
