ในบางพื้นที่นั้น สังคมแบบการอิงกลุ่มก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก อย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลีใต้ ที่คนเรามักจะให้ความสำคัญกับเพื่อน ความเห็นของคนอื่น ถึงขนาดที่ว่าใครที่เดินแตกเส้นในประเทศญี่ปุ่นจะถูกมองว่าเป็นพวกนอกคอกเลยเพราะว่าที่นั้นเขาให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบในชีวิตของตัวเองในพื้นทีส่วนรวมกัน ส่วนเกาหลีใต้ก็ให้ความสำคัญแบบสังคมอิงกลุ่มและระบบชนชั้นเช่นเดียวกัน เวลาเราไปข้างนอก เราแทบจะไม่เห็นคนเกาหลีใต้กินข้าวคนเดียวเลย และถ้านั่งสตรีทฟู้ดคนเดียว อาจุมม่าหรือคุณป้าก็อาจจะตะโกนให้รีบๆกิน รีบๆออกไปได้ค่ะ เพราะว่าเปลืองพื้นที่โต๊ะเก้าอี้เขานั่ง ส่วนมากจะไปเป็นคู่ หรือไม่ก็ไปกับเพื่อนในกลุ่มใหญ่ๆของตัวเองมากกว่า วันนี้เรามาดู MBTI 16 ไทป์กับสังคมแบบการอิงกลุ่มกัน สนุกสนานกับสังคมอิงกลุ่ม -- ENFJ, ENFP, ESFP, ESTP เพราะ ENFJ ซึ่งเป็นบุคลิกของตัวเอก ENFP ซึ่งเป็นบุคลิกของนักรณรงค์ และ ESFP ซึ่งเป็นบุคลิกของผู้มอบความบันเทิงและ ESTP ซึ่งเป็นบุคลิกของผู้ประกอบการ เพื่อนๆทั้งสี่ไทป์นั้นมีความเป็นกันเอง ร่าเริงสดใส พลังงานในตัวสูง ได้รับพลังงานจากโลกภายนอกมากที่สุดแล้วและชอบเข้าสังคม รวมถึงรักในความสนุกสนานและชอบสร้างความสุขและเสียงหัวเราะให้กับผู้คนรอบข้างด้วย แถมยังมีความเปิดเผยมากๆอีกด้วย จะรู้สึกสนุกสนานไปกับสังคมอิงกลุ่มได้ง่ายๆ รับผิดชอบชีวิตของตัวเองในสังคมอิงกลุ่มได้ดี แต่จะรู้สึกเครียดเวลาทะเลาะกับเพื่อนสนิท -- ESFJ, ISTJ, ESTJ, ENTJ เพราะ ESFJ เป็นบุคลิกของผู้ให้คำปรึกษา นั้นแม้จะได้รับพลังงานจากโลกภายนอก แต่ก็สามารถรับผิดชอบรูทีนชีวิตของตัวเองได้ดีและทำงานจุกจิกของตัวเองไปด้วย รวมถึงชอบดูแลคนอื่น และ ISTJ ซึ่งเป็นบุคลิกของนักคำนวณ แม้ว่าจะมีนิสัยเข้มงวดจริงจังและให้ความสำคัญกับกฎเกณฑ์ในการทำงานแต่จริงๆแล้วเป็นคนที่ซื่อสัตย์และตรงไปตรงมามากๆคนหนึ่งในความสัมพันธ์ และ ESTJ ซึ่งเป็นบุคลิกของผู้บริหาร ENTJ ซึ่งเป็นบุคลิกของผู้บัญชาการ แม้ว่าจะไหลไปตามสถานการณ์ได้ดี แต่ก็มีบางครั้ง ที่แสดงความตรงไปตรงมาจนมีปัญหาขัดใจกับเพื่อนๆได้ และจู่ๆก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวชีวิตที่ต้องแยกตัวอย่างโดดเดี่ยวและต้องอยู่คนเดียวแม้ว่าไม่ต้องการจะยอมรับก็ตาม สุดท้ายก็ทำทุกอย่างเพื่อกลับไปคืนดีกับเพื่อนอยู่ดี เช่นการเลี้ยงไอติมก่อน เป็นต้น เข้ากับสังคมอิงกลุ่มได้ดี และรักษาบรรยากาศอยู่เสมอ -- ISFP, ISFJ, INFJ, INTJ เพราะ ISFP เป็นบุคลิกของนักผจญภัย นั้นเป็นคนที่เฟรนด์ลี่ ให้ความสำคัญกับสายตาของคนรอบข้างว่าจะมองเราเป็นคนยังไง แม้ว่าตัวเองจะไม่ค่อยยอมรับด้านนี้ของตัวเองก็ตาม มีมุมที่เฟรนด์ลี่และติดดินมากจนเป็นที่รักที่ชื่นชอบของเพื่อนๆ extrovert ส่วน ISFJ เป็นบุคลิกของผู้ตั้งรับนั้น แม้ว่าตัวเองจะเป็น introvert แต่ก็สามารถเข้าสังคมได้ดีไม่ต่างจากเพื่อนๆ extrovert ส่วน INFJ ซึ่งเป็นบุคลิกของผู้แนะนำนั้น มักจะซึมซับอารมณ์และความรู้สึกของคนอื่นมาเป็นของตัวเองบ่อยๆจนบางครั้งตัวเองก็แยกไม่ออกว่าความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองคืออะไรกันแน่ จึงมีแนวโน้มที่จะรักษาบรรยากาศของกลุ่มอยู่เสมอ ส่วน INTJ ที่เป็นบุคลิกของนักออกแบบนั้น แม้ว่าในชีวิตจริงจะมีนิสัยเงียบมากและโลกส่วนตัวสูงมาก แต่ก็สามารถไหลลื่นไปกับสถานการณ์ตามสังคมบ่อยๆ เหมือนกับการใส่หน้ากาก รู้สึกเครียดกับสังคมอิงกลุ่ม -- ENTP, INFP, ISTP, INTP ENTP ซึ่งเป็นบุคลิกของนักโต้วาที แม้ว่าจะเป็น extrovert ที่ชอบเข้าสังคม ได้รับพลังงานจากโลกภายนอก และเป็นคนที่มีเสน่ห์ เป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนๆและผู้คนโดยธรรมชาติ แต่ก็มีด้านที่ตรงไปตรงมาและเปิดเผยความคิดเห็นและข้อสงสัยของตัวเองอย่างแหลมคม มีเหตุมีผล ซึ่งนิสัยแบบนี้อาจจะสร้างความไม่ชอบใจให้กับสังคมหมู่มากได้ และเริ่มตีตัวออกห่าง ENTP ซึ่งทำให้เพื่อนไทป์นี้เครียดมากที่ไม่สามารถแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาได้โดยที่ต้องทำเหมือนทุกเรื่องเป็นแค่เรื่องล้อเล่นเพราะผู้คนอ่อนไหวง่ายเกินไป ส่วน INFP ซึ่งเป็นบุคลิกของนักไกล่เกลี่ยนั้น แม้ว่าจะรักสงบ ความปรองดองและความสามัคคีกันในกลุ่ม แต่ก็รู้ดีว่าชีวิตของตัวเองต้องการอะไร คงเครียดมากถ้าต้องอิงกลุ่มมากเกินไปจนไม่รู้ว่าตัวตนของตัวเองเป็นใครอีก ส่วน ISTP ซึ่งเป็นบุคลิกของผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ และ INTP ซึ่งเป็นบุคลิกของนักตรรกะ ที่ไม่สนใจสังคมอิงกลุ่มนั้น อาจจะแยกตัวออกมาอยู่คนเดียวในพื้นที่ส่วนตัวได้เพราะถูกมองว่าแตกต่างจากคนอื่น หมาป่าโดดเดี่ยวผู้เดี่ยวดายอะไรแบบนั้น ซึ่งจะทำให้เพื่อนๆสองไทป์นั้นรู้สึกเหงาเป็นอย่างมาก ดังนั้น สังคมอิงกลุ่มจึงทำให้เพื่อนๆทั้งสี่ไทป์นี้เครียดเป็นอย่างมากผู้เขียนเป็น INFP นะคะ ผู้เขียนแอบคิดว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่โชคดีที่ถึงแม้ว่าจะให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของคนรอบข้างแบบความเห็นของคนหมู่มากและการทำอะไรตามกลุ่มแบบการอิงกลุ่มแต่คนไทยก็ยังสามารถแตกแถวและเลยเส้นเลยขอบได้ตราบใดที่ไม่ได้เลยไปไกลจนสร้างความเดือดร้อนให้กับชีวิตของตัวเองจนไปสร้างความโกลาหลให้กับชีวิตคนอื่นด้วย ผู้เขียนมองว่าบ้านเราแอบๆคล้ายญี่ปุ่น ตรงที่คนเราทุกคนยังมีความเป็นปัจเจกในเรื่องที่ชอบทำได้อยู่บ้าง แม้ว่าคนไทยจะใจดี เป็นห่วงเป็นใย ใส่ใจและอยากรู้อยากเห็น และเฟรนด์ลี่มากจนเราไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวหรือชีวิตส่วนตัวของตัวเองก็ตาม ผู้เขียนพบว่าเรื่องนี้คนญี่ปุ่นหรือคนเกาหลีใต้ก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก คือเราเปิดกระจกใสในชีวิตของตัวเองเป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อให้ทุกคนรู้สึกเข้าถึงได้เพื่อความสะดวกสบายทางฐานะของเรา เพื่อที่เราจะได้ทำตัวอิงกลุ่มได้มากขึ้น โดยที่เราไม่รู้สึกแตกต่าง แปลกแยก หรือโดดเดี่ยวจากสังคมมากเกินไป แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ขุดหลุมความเป็นตัวเอง และความคิดและความรู้สึกของเราลึกๆ โหยหาการยอมรับจากใครสักคนที่มองทะลุหน้ากากที่เราใช้สวมใส่ในการเข้าสังคม ในการทำงาน ในการใช้ชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน เราก็รู้สึกไม่ชอบใจเวลาที่มีคนมองเห็นตัวตนที่แท้จริงที่เราพยายามขุดหลุมกลบและปิดบังไว้จริงๆ สังคมอิงกลุ่มที่ไม่มีพื้นที่ของความเป็นปัจเจกและทุกคนแสดงความรู้สึกหรือความคิดที่แท้จริงอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้เลยนั้น จึงแอบเป็นเรื่องที่น่ากลัวนิดหนึ่งสำหรับผู้เขียน แถมยังทำให้ชีวิตเราโดน manipulate ได้ง่ายๆด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าเราต้องการอะไรกันแน่ แถมเรายังต้องให้ความสำคัญกับสายตาหรือความคิดของคนอื่นมาก่อนความต้องการและความรู้สึกที่แท้จริงของเราอีก และถ้าถามว่าผู้เขียนเคยเจอสังคมอิงกลุ่มมั้ย แน่นอนว่าต้องเคยบ้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะสังคมวัยเรียนที่ทุกคนอยู่แต่กับกลุ่มของตัวเอง ไม่ยุ่งหรือข้ามไปคุยกับกลุ่มอื่น หรืออย่างน้อยก็ไม่ให้ความสนิทสนมมากเท่ากลุ่มของตัวเอง เพราะโรงเรียนและสถานศึกษาเป็นสังคมที่แคบมากและทุกคนรู้จักกัน ทุกอย่างเป็นเรื่องที่อ่อนไหวไปหมด ถึงขนาดที่ว่า สมมติว่าเราไปกินข้าว ไปนั่งเรียนกับเพื่อนกลุ่มนี้ พออาทิตย์ต่อมา เราไปกับเพื่อนกลุ่มเพื่อน เพื่อนในกลุ่มที่เราไปนั่งด้วยในสัปดาห์ที่สองทักขึ้นมาว่า จู่ๆก็เปลี่ยนกลุ่ม กลุ่มแรกจะไม่โกรธหรือติดใจเหรอ ทั้งๆที่ผู้เขียนกับเพื่อนกลุ่มแรก ที่ไปนั่งเล่นนั่งเรียน พวกเราไม่สนิทกันด้วยซ้ำ และทำตัวไม่ถูกด้วย เพราะเราเพิ่งเจอกันครั้งแรก แต่พอถึงวัยทำงาน เงินกับคอนแนคชันและการเคารพระบบอาวุโสรวมถึงตำแหน่งในที่ทำงานกลับสำคัญกว่าสังคมอิงกลุ่มในวัยเรียนค่ะ ซึ่งถ้าต้องอิงกลุ่มกันขนาดนั้นจนไม่มีด้านที่เป็นปัจเจก ชีวิตส่วนตัว ผู้เขียนก็คงอึดอัดใจเหมือนกันแหล่งอ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมที่ 16personalities.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจ : MBTI 16 ไทป์ เอาตัวรอดยังไงเมื่อถูกขังคุกเมื่อ MBTI 16 ไทป์ ถูกพ่อแม่บังคับให้เรียนหนังสือหนักมากเกินไปทำไม MBTI 16 ไทป์ ถึงเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนๆMBTI 16 ไทป์ ไม่ชอบคุณเพราะอะไรเรื่องต่าง ๆ ที่ MBTI 16 ไทป์มักจะยอมแพ้ ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canvaรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 โดย allybally4b/ pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !