(เครดิตภาพหน้าปก : https://pixabay.com/images/id-3087392/) บริจาคโลหิต (เครดิตภาพ : https://pixabay.com/images/id-2603649/) การบริจาคโลหิต หรือ บริจาคเลือดนั้น เป็นความไม่จำเป็นของหลาย ๆ คน อาจจะคิดง่าย ๆ ว่าเลือดของเรา ก็เป็นของเราจะเอาไปบริจาคตอนไหนก็ได้ แล้วแต่อารมณ์ ถ้าขี้เกียจก็ไม่ต้องไป แต่มันคือความจำเป็นมาก ๆ สำหรับโรงพยาบาล เพราะการบริจาคโลหิตนั้น เป็นการนำเลือดของตัวเองไปให้กับผู้อื่นหรืออีกนัยนึงคือการเอาเลือดเตรียมสำรองไว้ให้คนที่ต้องการเลือด ไม่ว่าจะเป็น ผู้ป่วย ผู้ที่ต้องได้รับการเติมเลือดตลอด รวมทั้งผู้ประสบอุบัติเหตุ การบริจาคโลหิตหลาย ๆ ท่านอาจจะเคยไป บางท่านที่เห็นเข็มแล้วอาจจะเป็นลมล้มพับไปเลย เพราะตัวเข็มนั้นมันใหญ่กว่าเข็มแบบปกติเยอะ เพราะต้องเจาะเพื่อให้เลือดของเราไหลออกมาได้นั่นเอง จริง ๆ หลาย ๆ คนมีคุณสมบัติหรือยากบริจาคโลหิตกันอยู่แล้ว แต่พอมาเจอเข็มเจอเลือดเข้าไป ไอ่ความกล้าหาญชาญชัย ที่มีมาจากที่บ้านหายหมอดหมด เลยล้มเลิกกันไปเลยก็ได้ แต่อยากให้อดทนอีกนิดเดียวเพื่อแลกกับการที่ได้ช่วยชีวิตอีกหลาย ๆ คนที่จำเป็นต้องใช้นั้น มันคุ้มนะ และเป็นเรื่องน่ายกย่องมาก ๆ เลยทีเดียว (เครดิตภาพ : https://pixabay.com/images/id-1968458/) คุณสมบัติของผู้บริจาคโลหิต อายุ 18-60 ปี (ถ้าต่ำกว่านั้นต้องมีผู้ปกครองเซ็นรับรองนะ) น้ำหนักเกิน 45 กิโลกรัม ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ไม่รับประทานยาปฏิชีวะนะในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ไม่ท้องร่วงท้องเสียใน 3 วันที่ผ่านมา ไม่ทำฟันหรือผ่าตัดใน 3 วันที่ผ่านมา สุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่ป่วย หรือมีอาการในขณะที่จะมาบริจาค นอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงและรับประทานอาหารก่อนมาบริจาคโลหิต เพิ่มเติมสำหรับสถานการณ์ COVID-19 หากเราเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงควรแจ้งหมอก่อนทำการบริจาค ข้อควรระวัง / แนะนำ หลาย ๆ คนมีความเชื่อว่าห้ามกินข้าว แต่จริง ๆ ต้องกินมานะ แต่งดอาหารที่มีไขมันเยอะ หรือที่เลี่ยน ๆ ก็งดนะ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาดนะ (ผู้เขียนเคยดื่มก่อนมาบริจาคประมาณ 3 วันก่อนหน้า เลือดลอย ใช้ไม่ได้เลย เจ็บตัวเปล่า) ผู้หญิงท้องห้ามบริจาค ผู้หญิงที่มีรอบเดือนห้ามบริจาค ก่อนเข้ารับการบริจาค (ก่อนที่จะเดินไปขึ้นเขียงเตรียมเจาะ ให้ดื่มน้ำประมาณ 2-3 แก้ว เพื่อให้เลือดหวุนเวียนจะได้ไว ๆ ) ช่วงที่เข็มกำลังจะจิ้มเราเข้าไปนั้น ใครกลัวก็อย่ามองละกันนะ ข้อสำคัญคือ ระหว่างการเจาะเข้าไปพยายามอย่าเกร็ง เพราะเมื่อเราเกร็งกล้ามเนื้อเราหดตัว ทิ่มเข็มเข้าไป เจ็บกว่าเดิมนะ จะบอกให้ ระหว่างการบริจาคให้ค่อย ๆ บีบบอลเข้า และออก ช้า ๆ เพราะจะทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดี อย่ารีบเกินไปละ (เครดิตภาพ : https://pixabay.com/images/id-4861456/) ข้อควรทำหลังจากการบริจาคโลหิต นอนพักนิ่ง ๆ บนเตียงก่อนประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ร่างกายปรับสมดุลของเลือด รับประทานขนมที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้ให้ ภายใน 1 ชั่วโมงอย่าเพิ่งสูบบุหรี่ และ ภายในวันนั้น อย่าเพิ่งไปดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นะ ช่วง 1-2 วันหลังจากบริจาค ควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติหน่อยนะ เพราะเราเสียเลือดไป สิ่งที่ได้จากการบริจาคโลหิต (เครดิตภาพ : https://pixabay.com/images/id-732297/ ) สิ่งที่ได้จริง ๆ แล้วแค่เราบริจาคเลือดของเราเพียงแค่เล็กน้อย สละสิ่งที่เราคิดว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่ ให้คนที่จำเป็นมันก็ถือว่าเป็นสิ่งดีมาก ๆ อยู่แล้ว ในการทำสิ่งนี้ แต่เชื่อไหม การบริจาคเลือดยังทำให้ร่างกายเรา ทำงานได้ดีขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็น ร่างกายแข็งแรงเพราะการบริจาคเลือดทำให้ร่างกายได้กระตุ้นและผลิตเลือดออกมาใหม่ รวมไปถึงการมีผิวพรรณที่สดใส เพราะการที่ร่างกายผลิตโลหิตขึ้นมาใหม่ จะทำให้การไหลเวียนดีขึ้น ผิวก็เลยสวยใสมีออร่าสุด ๆ และที่สำคัญที่สุด การบริจาคเลือดนั้นยังทำให้เราสามารถรับสิทธิพิเศษจากโรงพยาบาลนั้น ๆ ได้มากมาย อาทิ การบริจาคโลหิต ครั้งที่ 24 ขึ้นไป ฟรีค่ารักษาพยาบาล และลดค่าห้องพักถึง 50% เลย (รายละเอียดสามารถดูตามข้อกำหนดของโรงพยาบาลได้เลย) และที่สำคัญทางสภากาชาดไทย ยังสมนาคุณด้วยเหรียญที่ระลึกต่าง ๆ และเข็มที่ระลึกสำหรับจำนวนครั้งในการบริจาคด้วย การบริจาคโลหิตนั้นหลาย ๆ คนที่ยังมองเห็นว่าไม่จำเป็นนั้น เมื่อท่านได้อ่านบทความนี้ ท่านคงจะเข้าใจถึงความจำเป็นในการบริจาคโลหิตของท่าน เพราะโลหิตเพียงเล็กน้อยของท่าน สามารถช่วยชีวิตคนได้อีกมากมาย แม้ว่าท่านจะไม่มีทางรู้เลยว่า โลหิตที่บริจาคไปนั้น จะไปอยู่ที่ใด แต่ถ้าวันหนึ่งท่านเกิดอุบัติเหตุ ต้องการเลือดเป็นอย่างมาก เลือดที่ท่านบริจาคไปครั้งนั้น ได้ช่วยชีวิตหลาย ๆ คน ในอุบัติเหตุครั้งนี้ ก็จะมีโลหิตของอีกหลาย ๆ คนมาช่วยท่านเช่นกัน โลหิตของท่านเพียง 1 ถุง = ชีวิตคนอีกร้อยกว่าคน ช่องทางการบริจาค : https://www.redcross.or.th/donate/blood โทร : 1664 หากไม่สะดวกสามารถไปบริจาคได้ที่โรงพยาบาลหรือศูนย์โลหิตใกล้บ้านท่าน