Bangvad Dam...เขื่อนบางวาด จังหวัดภูเก็ต เป็นเขื่อนที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ในการอุปโภค-บริโภค ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองกะทู้ จังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา แหล่งท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ และ เป็นสถานที่ออกกำลังกายของผู้คนในจังหวัดภูเก็ต ทั้งคนในพื้นที่อำเภอกะทู้ และ พื้นที่ใกล้เคียง เช่น บางคนมาจากในเมือง บางคนมาจากป่าตอง เป็นต้น ผู้เขียนเป็นคนนึงที่ไปออกกำลังกายในเขื่อนบางวาดอยู่เป็นประจำ เพราะใกล้บ้าน และบรรยากาศในเขื่อนที่แสนสดชื่น เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว ต้นไม้สายพันธุ์ต่างๆ มากมาย เขื่อนบางวาดเปรียบเสมือนปอดของจังหวัดภูเก็ตเลยก็ว่าได้ค่ะ เมื่อเข้าไปในพื้นที่เขื่อน เราจะรู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึง เพราะบรรยากาศเงียบ สงบ สดชื่น ไร้ฝุ่น ควัน และ มลพิษ เราสามารถสูดอากาศได้อย่างเต็มปอดเลยล่ะค่ะ ภายในเขื่อนสามารถออกกำลังกายได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เดิน วิ่ง และ จะมีเลนจักรยานไว้ให้สำหรับนักปั่น ระยะทางตัวเขื่อนยาว 6 กิโลเมตร และ สันเขื่อนยาวประมาณ 1 กิโลเมตร รวมแล้ว 7 กิโลเมตร บางคนออกกำลังกายอยู่แค่ที่สันเขื่อน แต่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าไปในตัวเขื่อนกัน บางคนมาคนเดียว บางคนก็มากับเพื่อน กับแฟน หรือมากันเป็นกลุ่ม เป็นครอบครัว มีทั้งชาวไทย และ ชาวต่างชาติค่ะ ส่วนตัวผู้เขียนเอง ชอบเข้าไปในตัวเขื่อนมากกว่า เพราะจะได้เดินไปวิ่งไป ชมนกชมไม้ไปด้วย บรรยากาศภายในเขื่อน วันนี้เป็นวันแรกที่ผู้เขียนกลับมาออกกำลังกายอีกครั้ง หลังจากความขี้เกียจเข้าครอบงำ ตื่นเช้าล้างหน้าแปรงฟัน รีบขับรถไปเขื่อน 5 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ ใกล้ๆบ้าน มาถึงอบอุ่นร่างกายที่สันเขื่อนสัก 10 นาที ก็เริ่มเดินเข้าไปในเขื่อนได้เลย หยุดไปนานวันนี้คงต้องเดินมากกว่าวิ่งล่ะมั้ง เดินไปก็ชมนกชมไม้ไป แวะดูน้องหอยทากตัวน้อย ดูน้องวัวไป น่ารักดีค่ะ เจอดอกไม้ก็แวะ สรุปว่าไปออกกำลังกายหรือไปเที่ยวกันเนี่ย ด้วยความอ้อยอิ่งเลยโดนวิ่งทิ้งห่างไปแล้วค่ะ ต้องรีบเดิน รีบวิ่ง แล้ว เดี๋ยวจะโดนทิ้งห่าง หนทางยังอีกยาวไกล ในขณะที่เราวิ่งอยู่ ก็จะมีนักวิ่ง นักปั่น นักออกกำลังกาย เพื่อนๆ สายสุขภาพ คนอื่นๆ อีกหลายคนที่วิ่งไปด้วยกันค่ะ ทั้งวิ่งไปทางเดียวกัน ทั้งวิ่งสวนกัน ผลัดกันแซงผลัดกันโดนแซง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งคนสูงอายุ ทั้งหญิงและชาย รับรองไม่เหงาแน่นอนค่ะ แต่ที่ผู้เขียนสังเกตุแล้วส่วนใหญ่คนที่มาบ่อยๆ และเดินวิ่งเก่งๆ นั้น คือ คนที่อยู่ในช่วงวัยประมาณ 40 กว่าขึ้นไป ผู้เขียนคิดว่าน่าจะเพราะ เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ร่างกายของคนเราเริ่มเสื่อมลง เจ็บป่วยง่ายขึ้น คนเหล่านี้จึงหันมาใส่ใจในสุขภาพ หันมาออกกำลังกายกัน มากกว่าคนในวัยหนุ่มสาว ที่ยังคงสนุกสนานกับการใช้ชีวิตอยู่ เพราะร่างกายยังแข็งแรงดี เลยไม่ค่อยใส่ใจสุขภาพเท่าไรนัก มาถึงกิโลเมตรที่ 5 แล้ว อีกนิดเดียว สู้ ๆ วิ่งไปอีก 1 กิโลเมตร ก็จะไปออกทางสันเขื่อนอีกด้านนึงแล้วค่ะ เมื่อวิ่งเสร็จแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะยืดเหยียดร่างกาย จะมีพื้นที่เป็นลานโล่งให้เราพักค่ะ ยืดเหยียดเสร็จแล้ว เดินพักผ่อนสูดอากาศ รับลม ชมวิวเขื่อน อีกสักพัก ก็ชวนกันกลับบ้านค่ะ วันนี้ได้ระยะทาง 5.62 กิโลเมตร ถึงแม้จะวิ่งบ้าง เดินบ้าง ก็ไม่เป็นไรค่ะ อย่างน้อยก็ยังดีกว่านอนอืดอยู่ที่บ้านแล้ว รู้สึกตัวเบา โล่ง สดชื่น มากๆ ค่ะ ผู้เขียนอยากชวนทุกคนหันมาออกกำลังกายกันนะคะ แบบไหนก็ได้ตามที่ตัวเราชอบและถนัด บางคนอาจจะเข้ายิม บางคนไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน บางคนอาจจะออกกำลังกายตามเทรนเนอร์ในช่องยูทูป หรือ เต้นแอโรบิค ผู้เขียนเองถ้าวันไหนไม่ค่อยมีเวลา ก็จะเปิดช่องยูทูป เลือกวิดีโอที่เราชอบ แล้วทำตามอยู่ที่บ้านได้ง่ายๆ ไม่ต้องออกข้างนอกก็ได้ค่ะ (ภาพประกอบทั้งหมดโดย : ผู้เขียน) ขอบคุณที่รับชมค่ะ ฝากติดตามบทความ กิน เที่ยว สุขภาพ ของ ขี้พร้าขาหมู ในครั้งต่อๆ ไป ด้วยนะคะ...ขอบคุณค่ะ