สุขภาพดีได้ด้วยขมิ้นชัน เมื่อพูดถึงกระเพาะอาหารอักเสบ หลายคนที่เคยเป็นคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า เป็นโรคที่สร้างความทรมาน และรำคาญกับอาการที่เป็น ๆ หาย ๆ อยู่แบบนั้น วันนี้ผู้เขียนจะขอเล่าประสบการณ์จากการเคยมีอาการกระเพาะอาหารอักเสบ ที่เป็นแล้วหายและกลับมาเป็นอีกอยู่หลายครา จนมาพบเจอวิธีที่ดีที่สุดและหายขาดจนทุกวันนี้มาให้อ่านกันค่ะ เมื่อสมัยวัยรุ่นผู้เขียนได้ขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯกินอาหารไม่ครบทุกมื้อประกอบกับกลัวอ้วนตามความคิดของคนอยากสวย เพราะอ้วนแล้วใส่เสื้อผ้าไม่สวย จึงงดกินมื้อเย็นจนทำให้หิวช่วงดึก แล้วสิ่งที่หาได้ง่ายเมื่อสมัยนั้นคือน้ำอัดลมสีแดง กินแก้หิวได้ดีเพราะมีน้ำตาล แต่หารู้ไม่ว่าการกินแบบนี้บ่อย ๆ จะทำให้เกิดการกระเพาะอาหารอักเสบได้ เมื่อผู้เขียนกินน้ำอัดลมเป็นมื้อเย็นมาสักระยะนึงก็เริ่มมีอาการปวดท้อง ท้องอืด และมีท้องเสียร่วมด้วย ยามหิวก็ปวดท้อง ต้องรีบหาอาหารมากิน พอกินอิ่มก็ปวดท้องอีกเป็นแบบนี้อยู่สองวัน จึงไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจรักษา และเป็นแบบนี้มาหลายเดือน ซึ่งครั้งนี้คุณหมอได้จ่ายยาเคลือบกระเพาะชนิดน้ำสีขาวขุ่นให้กลับมากินเพราะ กระเพาะอาหารอักเสบ เหมือนทุกครั้งที่ไปโรงยาบาลของรัฐชื่อดังเมื่อได้กินยาแล้ว ช่วยบรรเทาปวดได้ระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ได้กลับมีอาการคลื่นไส้พะอืดพะอมตลอดเวลาเพิ่มมาแทน กินอาหารไม่ได้เลย คลื่นไส้จะอาเจียน คงเป็นเพราะผู้เขียนไม่ถูกกับยาชนิดนี้ก็เป็นได้ ช่วงที่ไม่สบายก็นึกอยากกินปลาทอดขมิ้น เพราะตอนอยู่กับครอบครัวที่ภาคใต้ ได้ทำกินกันเป็นประจำอยู่แล้ว จึงบอกกับพี่ที่เช่าห้องอยู่ด้วยกัน ให้ช่วยทำให้กิน เพราะผู้เขียนยังนอนป่วยลุกไม่ไหว เมื่อพี่สาวทำปลาทอดขมิ้นซึ่ง ตำขมิ้นกับเกลือคลุกให้ทั่วตัวปลา หมักไว้สักครึ่งชั่วโมง แล้วนำมาทอดจนสุก กลิ่นปลาทอดขมิ้น หอมหวลชวนหิวข้าว เนื้อปลามีสีเหลืองกรอบประกอบกับเครื่องขมิ้นที่ทอดจนกรอบ ก็หอมจนแอบกลืนน้ำลาย ผู้เขียนจึงลงมือกินปลาทอดขมิ้นกับข้าวสวยจนอิ่มแบบค่อย ๆ เคี้ยวให้ละเอียดแล้วกลืน แทบไม่น่าเชื่อไม่มีอาการปวดท้องแต่ประการใด แต่กลับมีความรู้สึกสบายท้องแถมยังมีการเรอเอาลมออกมาด้วย จนรู้สึกโล่งขึ้นเมื่ออาการดีขึ้น ผู้เขียนจึงใช้วิธีการรักษาตามตำรับโบราณที่ปูย่าตายายที่ใช้กันมา คือนำขมิ้นสดขนาดหนึ่งนิ้วมือ ล้างให้สะอาด ปอกเปลือก นำมาตำกับเกลือเล็กน้อย แล้วปั้นเป็นก้อน กินก่อนมื้ออาหารวันละ 3 เวลา ผู้เขียนกินขมิ้นตำกับเกลือที่ปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ จนครบ 3 วัน อาการก็หายเป็นปกติ โดยในช่วงที่กินขมิ้นวันแรกก็ยังมีอาการหิวข้าวบ่อยอยู่บ้าง แต่ทุกครั้งที่หิวผู้เขียนก็จะรีบกินอาหารอ่อน ย่อยง่าย เช่นข้าวต้ม และโจ๊ก โดยกินวันละ4-5มื้อ ไม่ปล่อยให้ท้องว่าง และงดอาหารรสจัดทุกชนิด หลังจากที่รักษาตัวเองหายจากอาการปวดท้องเพราะกระเพาะอาหารอักเสบด้วยขมิ้นชันแล้ว อีกไม่นานองค์การเภสัชกรรมก็ได้ผลิตขมิ้นชันแคปซูลออกมาจำหน่าย และทำให้ผู้เขียนได้ทราบสรรพคุณของขมิ้นชัน จากนิตยสาร หมอชาวบ้าน ว่ามีสารต้านเชื้อแบคทีเรีย มีน้ำมันหอมระเหย และสารเคอร์มินอยด์ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร เคลือบกระเพาะ ช่วยขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืด นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมากช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ ผู้เขียนแอบคิดในใจว่า บรรพบุรุษของผู้เขียนซึ่งกินอาหารที่มีส่วนผสมของขมิ้นชัน เป็นประจำทุกมื้อไม่พบใครมีอาการของการปวดท้องจากอาการกระเพาะอาหารอักเสบเลย คงเป็นเพราะกินขมิ้นชันที่อยู่ส่วนประกอบของอาหารทุกมื้อนั่นเอง แต่ในความเป็นจริงก็คงขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านอื่นประกอบด้วยคือ การกินอาหารให้ตรงเวลา หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ทำจิตใจให้ผ่อนคลายไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะทำให้ห่างไกลจากการเกิดกระเพาะอาหารอักเสบได้ แต่หากใครกำลังมีอาการปวดจากกระเพาะอาหารอักเสบ และไม่อยากกินยาเคมี จะหันมากินสมุนไพรเพื่อรักษา ก็ลองดูได้ผู้เขียนและหลายคนในครอบครัวลองแล้ว ให้ผลดีรักษาได้หายขาดจริงๆ