สวัสดีครับนักอ่านทุกท่าน บทความนี้เป็นบทความแรกของผม หมายถึงแบบที่ลองเขียนจริงจังอ่ะนะ 55 เข้าเรื่องเถอะเนาะ คือวันนี้ผมมีประสบการณ์จากการรักษาคนไข้ที่อยากจะมาแชร์ให้ทุกคนฟัง เพราะว่าเจอบ่อยมากและคิดว่าหลายคนควรที่จะเข้าใจกับมันมากขึ้น จะได้รักษาตัวเองกันได้ในเบื้องต้น เพื่อลดการไปโรงพยาบาลที่ไม่จำเป็น ก็อย่างที่รู้กันเนาะว่าโรงพยาบาลเต็มไปด้วยโรคมากมายและยิ่งช่วงนี้เป็นมี COVID-19 ระบาดอีก สิ่งที่ผมจะมาแชร์ก็คือความรู้เบื้องต้นของ “อาการปวดหัว” มาเริ่มกันดีกว่า Let’s go !!! ที่มา: https://pixabay.com/photos/upset-overwhelmed-stress-tired-2681502/ เวลาปวดหัวทุกคนทำอะไรกันบ้างครับ ? ก็คงไม่พ้นคำตอบพวกนี้แหละ ไม่ว่าจะจะซื้อยาพารามาทาน นอนหลับพักผ่อน บางคนก็เลือกใช้ทั้งสองวิธี หรือบางคนทนไม่ไหวจึงตัดสินใจเดินทางมาพบหมอ แล้วสรุปเราควรทำยังไงกับอาการปวดหัวกันหล่ะ ? มันก็น่าคิดเนาะว่ามะ ขอเล่าให้ฟังก่อนว่า อาการปวดหัว จริง ๆ มีอยู่สองแบบหลัก ๆ แบบแรกเราเรียกว่า อาการปวดหัวปฐมภูมิ หรือ อาการปวดหัวที่ไม่ทราบสาเหตุชัดเจน เชื่อกันว่าเกิดจากการพักผ่อนน้อย ความเครียด หรืออากาศที่ร้อนอบอ้าว มักเป็นอาการปวดหัวที่พบได้บ่อยมากถึง 90% และมักไม่อันตราย เพียงแค่สร้างความรำคาญใจให้กับคุณไม่มากก็น้อย และกลุ่มนี้ก็มักเป็นคนไข้ที่ผมเจอที่โรงพยาบาลบ่อยครั้งมากเช่นกัน ส่วนกลุ่มที่สองเรียกว่า อาการปวดหัวทุติยภูมิ หรือ อาการปวดหัวที่ทราบสาเหตุ แบบหลังนี้พบได้ไม่บ่อยแค่ 10% แต่พอเป็นแล้วบางทีต้องรีบทำการรักษา เพราะถ้าปล่อยไว้อาจอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นสองกลุ่มนี้จึงต่างกันค่อนข้างมาก แล้วคนไข้จะรู้ได้ไงว่าเขาเป็นแบบไหน ? ผมจึงสรุป อาการที่ควรมาหาหมอ ไว้ให้ ไปดูกันเลยครับว่ามีอะไรบ้าง เตรียมสำรวจตัวเองกันได้เลยครับ 1. ปวดหัวแบบฉับพลันทันที และปวดมากขึ้นเรื่อยๆ หรือ รู้สึกว่าปวดมากที่สุดในชีวิตแล้ว 2. ปวดหัวมากขึ้นเวลาไอ จาม หรือเบ่งอุจจาระ 3. ปวดจนต้องตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะทนปวดไม่ไหว 4. อาการปวดหัวเกิดหลังจากได้รับอุบัติเหตุอย่างรุนแรงที่ศีรษะหรือใบหน้ามาก่อน 5. มีอาการอื่นร่วมด้วยนอกจากปวดหัว เช่น มีไข้ แขนขาอ่อนแรง ซึม ตาพร่ามัว อาเจียนพุ่ง เป็นต้น 5 ข้อนี้ถ้ามีข้อใดข้อหนึ่งก็มาหาหมอเถอะ แต่ก่อนมาก็ใส่หน้ากากอนามัยกันด้วยนะครับ แต่ถ้าไม่ใช่ตามนี้ ผมว่าเราสามารถรักษาตัวเองได้ และมันทำง่ายมาก แล้วทำไงอ่ะหมอ ? ก็ทานยาแก้ปวดยังไงหล่ะครับ และยาที่ว่าก็หาง่ายมาก เชื่อว่าแทบทุกบ้านต้องมี นั่นคือ ยาพารา นี่แหละ เอ.. ว่าแต่มันไม่อันตรายหรอ เห็นข่าวว่ากินแล้วตับพัง ? จริง ๆ แล้วเราสามารถทานยาพาราได้ แต่ต้องทานให้ถูกวิธี คือ ทานครั้งละ 1 เม็ดทุก ๆ 4-6 ชั่วโมงที่มีอาการปวดหัว โดยสามารถทานติดต่อกันได้ถึง 10 วัน หรือเกือบสองอาทิตย์เลยแหละ นอกจากทานยาแล้ว การกำจัดปัจจัยกระตุ้นของอาการปวดหัวก็สำคัญ ดังนั้น เราจึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ จัดการกับความเครียดให้เหมาะสม อาจต้องใช้เวลาพอสมควรแต่มันจะทำให้อาการปวดหัวหายไป และลดการกลับมาเป็นซ้ำใหม่ได้เป็นอย่างดีเลยแหละครับ ถ้าทำขนาดนี้แล้วไม่หายก็มาหาหมอเถอะเนาะ 555 ที่มา: https://pixabay.com/photos/baby-girl-sleep-child-toddler-1151351/ รู้แล้วว่าต้องมาหาหมอไหม ลองเอาไปใช้กันดูนะครับ จะได้ไม่หนีปวดหัวไปปะโควิดแทน Stay at home กันก่อนเนาะช่วงนี้ ไว้จะนำความรู้ดี ๆ มาเล่าให้ฟังกันอีกนะครับ บายจ้าาา ที่มา: https://pixabay.com/photos/corona-stay-home-covid-19-4951862/