วันนี้ผมอยากมาแบ่งปันประสบการณ์การลดน้ำหนักแบบบ้าน ๆ คือ ไม่ต้องไปเข้าคอร์สหรือเข้าโรงยิมที่ไหน แค่ใช้มือ ปาก และขาเท่านั้นก็สามารถผ่านภารกิจนั้นได้ แน่นอนว่าผมมาเล่าให้ฟังก็เท่ากับว่าทำได้จริงๆ นั่นเอง สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมมีอะไรบ้างและต้องเตรียมตัวทำอย่างไร เรามาดูกันทีละขึ้นตอนอย่างละเอียดกันไปเลยสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม 1. น้ำหนักลด 10 กิโลกรัมในเวลา 2 เดือน 2. มีคนมาทักว่า"ไม่สบายหรือเปล่า" เพราะน้ำหนักที่ลดลงไป 3. ทฤษฎีและภาคปฏิบัตินี้ใช้ได้ทุกครั้งที่คิดจะเริ่มต้นใหม่สิ่งที่ผู้อ่านต้องเตรียม 1. ที่ชั่งน้ำหนักดิจิตอล ลงทุนแค่ครั้งเดียว ราคาไม่เกิน 1,000 บาทก็มีและใช้ได้มาตรฐาน 2. กระดาษกับปากกาหรือปริ้นท์ข้อความที่ต้องใช้ก็ได้ (จะบอกรายละเอียดในเนื้อหาอีกที) 3. มีวินัยกับตนเอง (อันนี้สำคัญที่สุดเลยครับ) เครดิตภาพ โดยผู้เขียนผมได้บันทึกวิธีการลดน้ำหนักของผมไว้แล้วปริ้นท์มาไว้เป็นกำลังใจ ว่าเมื่อไรที่ผมน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกก็จะใช้วิธีนี้ในการลดอีกครั้ง ด้วยจุดเปลี่ยนที่ต้องการลดน้ำหนักก็เพราะตอนนั้นรู้สึกว่าเข้าสู่ระยะอ้วนแล้ว จากการไปเช็คดัชนีมวลกาย โดยประมวลจากน้ำหนักและส่วนสูง ผมสูง 161 ซม. หนักตอนนั้น 64 กก. ก็เลยรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ถ้าปล่อยตัวอีก 70 กก.ก็คงจะมาเยือนอีกไม่นาน ก็เลยต้องตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ก่อนหน้าก็เคยคิดจะลดน้ำหนักอยู่หลายครั้งแล้ว ด้วยเหตุผลเสื้อผ้าที่ใส่เริ่มฟ้องว่าคับแล้วนะ ถ้าไม่อยากซื้อใหม่ก็ให้ลดน้ำหนัก เคยออกกำลังกาย เช่น วิ่ง กระโดดเชือก กายบริหารอยู่หลายครั้ง ส่วนตัวไม่ชอบไปเล่นกีฬาร่วมกับคนอื่นเพราะเป็นคนสายตาสั้นต้องใส่แว่นตลอดเวลาด้วย ก็เลยต้องออกกำลังกายคนเดียวเป็นหลัก หรือบางทีก็อดอาหารเย็นดู น้ำหนักลดจริงแต่พอกินอีกน้ำหนักยิ่งเพิ่มเร็ว ก็เลยต้องหาทางที่เหมาะกับตัวเองดู และวิธีที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุดก็เป็นของคุณ"จอห์น วิญญู" พิธีกรและนักแสดงคนดังที่ว่า ไม่ต้องออกกำลังกาย แค่ควบคุมการกินของเราให้น้อยลงก็พอ แล้วผมก็มาประยุกต์กับวิธีการของผมอีก เพราะตอนนั้นก็ไม่รู้จักว่าแคลลอรี่ด้วยซ้ำว่าคืออะไรที่แท้จริง เลยบังคับตัวเองด้วย 5 ข้อแรกให้ได้ 5 ข้อที่ว่าก็ตามภาพเลยเครดิตภาพ โดยผู้เขียนที่สำคัญที่สุดก่อนที่จะลดน้ำหนักที่ผมเรียกมันว่า "โครงการ" ก็ต้องเตรียมเครื่องชั่งน้ำหนักติจิตอล เพราะจะได้เห็นตัวเลขการขึ้นลงของน้ำหนักได้ชัดเจนมากที่สุด และต้องทำแบบบันทึกของตัวเองขึ้นมาเพื่อจะได้รู้ว่าแต่ละวันเราได้ทำอะไรเพื่อการลดน้ำหนักที่แท้จริงหรือยัง ผมออกแบบมาแบบนี้ครับ เครดิตภาพ โดยผู้เขียน(ภาพจากกระดาษที่ผมทำไว้อาจจะเลอะไปหน่อย เพราะเก็บไว้นานแล้ว) เอาง่าย ๆ คือ เมื่อคิดที่ลดน้ำหนักแล้ว ก็ต้องให้ปาก(กิน)กับมือ(หยิบหรือตักของกินรวมทั้งจดบันทึกด้วย) และขาที่ต้องขึ้นชั่งน้ำหนักทุก ๆ เช้า ทั้งสามอย่างร่วมมือกัน ทำตามแบบบันทึกที่เขียนขึ้นมา มีการบันทึกข้อที่ทำได้ ข้อทำไม่ได้ เขียนบันทึกน้ำหนักตั้งแต่วันแรก เวลาชั่งน้ำหนัก (แนะนำชั่งตอนเช้าหลังถ่ายของเสียออกแล้ว และใส่กางเกงตัวที่เบาที่สุด สำหรับผู้ชายไม่ต้องใส่เสื้อก็ได้ยิ่งดี เพราะเสื้อผ้าก็มีผล) แล้วที่สำคัญต้องเขียนหมายเหตุรายวันว่า วันนี้ได้กินอะไรไป ทำไม่ได้ข้อไหน จะได้วิเคราะห์ว่าส่งผลกับน้ำหนักที่ขึ้นลงได้ จากวันแรกถึงวันสุดท้ายที่เรากำหนดไว้มันก็เหมือนเป็นการเล่นเกมกับตัวเอง ต้องคอยลุ้นทุกเช้าว่าจะลดลงเท่าไหร่ หรือเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แน่นอนว่าใหม่ ๆ ยังมีการขึ้นลงเล็กน้อย แต่พออยู่ตัวจะลดลงเรื่อย ๆ สำหรับผมก็ใช้เวลา 2 เดือนเต็ม ลดได้ 10 กก. เดือนแรกได้ 6 กก. เดือนที่ 2 ได้อีก 4 กก. ก็เลยคิดว่าเพียงพอแล้ว จากน้ำหนัก 64 กก. เหลือ 54 กก. เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ทั้งคนทักว่าไม่สบายหรือเปล่า เสื้อผ้าเก่า ๆ ก็มาใส่ได้ ที่สำคัญระหว่างนั้นก็หาความรู้เกี่ยวกับแคลลอรี่ของอาหารที่เรากินเข้าไปแต่ละอย่างด้วยก็ยิ่งทำให้ได้ผลยิ่งขึ้น สำคัญที่สุดก็คือวินัยในการกิน คุมได้ก็ลดได้ ส่วนใครจะลดได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อายุ เพศ และความตั้งใจ ที่สำคัญระหว่างที่ทำก็ให้สนุกกับมันด้วย ทุกอย่างถึงจะสมบูรณ์ครับ ลองทำดูแล้วจะรู้เองว่ากางเกงหลวมมันเป็นอย่างไรเครดิตภาพ : ภาพถ่ายจากเจ้าของภาพทั้งหมเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !