วันนี้ก็มีบทความมีประโยชน์มาแชร์ให้ผู้อ่านเรื่องการนอนกัน โดยปกติแล้วมนุษย์เรานั้นมีการนอนอยู่สองรูปแบบ คือ Rapid eye movement หรือ REM เป็นช่วงที่ร่ายกายหลับลึกและจะตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกช้า ทำให้ง่วงซึม มึนงง ช่วงนี้ร่างกายคุณจะได้รับการพักผ่อนและซ่อมแซมตัวเองดีที่สุด กับแบบที่สองคือ แบบ NON-REM หรือแบบหลับตื้น ซึ่งคนเราเวลาหลับจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเริ่มง่วงหรือ Falling asleep stage และจะเข้าสู่ช่วงหลับตื่นแล้วจึงเข้าสู่ช่วงหลับลึก และวนลูปไปตลอดทั้งคืนเมลาโทนินเกี่ยวกับการนอนยังไง สารชนิดนี้คือฮอร์โมนที่สมองหลั่งออกมาช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น ร่างกายจะผลิตออกมาเพียงแค่ 0.5 ถึง 1 มิลลิกรัมในช่วงเวลาเริ่มตั้งแต่ 3 ทุ่ม เพิ่มสูงสุดตอนประมาณตีสองและจะลดต่ำลงที่สุดตอน 9 โมงเช้า เมลาโทนินที่เราไปซื้อตามร้านขายยาอาจจะมีปริมาณถึง 20 มิลลิกรัม ทำให้อาจจะเกิดอันตรายต่อร่างกายตามมา ดังนั้นถ้าคุณมีความจำเป็นต้องใช้ยาจริงๆ ก็ต้องแน่ใจว่า ปริมาณเมลาโทนินนั้นไม่ได้มีมากจนเกินไป ทางที่ดีควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์จะดีกว่าการนอนที่ดีคุณควรที่จะนอนในเวลาปกติ ช่วงตั้งแต่ 3 ทุ่มเป็นต้นไป เพื่อตั้งค่านาฬิกาชีวภาพส่วนตัว(Circadian clock)ให้ทำงานปกติ สมองของคุณจึงจะหลั่งเมลาโทนินออกมาได้ดี แต่สำหรับบางคนนั้นก็ยากเหลือเกินที่จะได้นอนเวลาปกติเหมือนกับคนอื่นเขา จึงได้ใช้วิธีการงีบหลับแทนซึ่งการงีบนั้นไม่ได้ผลดีเท่ากับการนอนเต็มเวลา แต่ก็สามารถช่วยลดความอ่อนล้าของสมองได้ดีระดับหนึ่ง ถ้าคุณไม่ได้นอน ก็ควรงีบหลับเป็นช่วง ช่วงละ 15-20 นาทีจะให้สมองได้รีเฟรชกลับมาทำงานได้ผลดีที่สุด แต่ถ้าคุณงีบนานเกิน 30 นาที จะทำให้เกิดอาการง่วงซึม มึนงงและรู้สึกไร้ชีวิตชีวาได้รู้อย่างนี้แล้วถึงเวลาหรือยังที่เราจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนให้มีประสิทธภาพมากขึ้น เพราะการนอนหลับให้เพียงจะช่วยให้คุณมีชีวิตสดใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเองเครดิตภาพปกจาก Matthew Henry เว็บไซต์ unsplash.com รูปที่ 1 จาก Oladimeji เว็บไซต์ pexels.comรูปที่ 2 จาก Michał Parzuchowski เว็บไซต์ unsplash.comรูปที่ 3 จาก xiangying_xu เว็บไซต์ pixabay.com เปิดประสบการณ์ใหม่ที่หลากหลายสุดปัง ได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี!