อาการ Imposter Syndrome (โรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง) เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่โดดเด่นด้วยความรู้สึกสงสัยในตนเอง ความไม่เพียงพอ และความกลัวว่าตัวเองเป็นคนไม่ดีพอ วันนี้ผู้เขียนจะมาเขียนเรื่อง MBTI 16 บุคลิกภาพ กับอาการ Imposter Syndrome (โรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง)1. ISFP -- พวกเขากลัวตัวเองไม่เก่งเรื่องผลงานศิลปะ เพราะว่า ISFP เป็นบุคลิกของนักผจญภัย ISFP อาจต่อสู้กับความมั่นใจในการสร้างผลงานของตัวเองได้ พวกเขากลัวว่างานศิลปะหรืองานสร้างสรรค์ของพวกเขาไม่มีเอกลักษณ์หรือมีแรงผลักดันที่ดีพอเมื่อเปรียบเทียบกับงานของคนอื่น วิธีแก้คือเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองเข้าไว้2. ISTP -- พวกเขากลัวตัวเองไม่เก่งเมื่อเจออุปสรรคที่แก้ไม่ได้ เพราะว่า ISTP เป็นบุคลิกของผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ ISTP อาจรู้สึกเหมือนเป็นผู้หลงทางได้ หากพวกเขาสงสัยในความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนของตัวเองหรือมีความสามารถไม่มากพอ วิธีแก้คือลองหาความรู้ในเรื่องๆนั้นเพิ่มเติมหรือขอคำปรึกษาจากคนรอบข้าง3. INTP -- พวกเขากลัวว่าสิ่งที่พวกเขาเชื่อและคำนวณจะไม่ถูกต้อง เพราะว่า INTP เป็นบุคลิกของนักตรรกะ INTP อาจรู้สึกไม่ดีพอหากสิ่งที่พวกเขาเชื่อนั้นผิดพลาดทำให้พวกเขาสงสัยในความสามารถทางสติปัญญาของตัวเอง วิธีแก้คือลองเปลี่ยนความเชื่อหรือมายเซทต่อเรื่องที่มีในมุมมองใหม่ๆ4. INFP -- พวกเขากลัวว่าตัวเองไม่ดีพอถ้าต้องทำงานที่ไม่มีความหมาย เพราะ INFP คือบุคลิกของนักไกล่เกลี่ย INFP พวกเขาอาจตั้งคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับความหมายและตัวตนของสิ่งต่างๆและรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้ดำเนินชีวิตตามอุดมคติของตนเองและอาจรู้สึกว่างเปล่าได้ 5. ENFP -- พวกเขาอาจรู้สึกไม่ดีพอตอนที่ช่วยเหลือปัญหาของคนอื่นไม่ได้ เพราะ ENFP คือบุคลิกของนักรณรงค์ ENFP อาจรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ไม่ดีพอ หากพวกเขาตั้งคำถามถึงความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจและจูงใจผู้อื่น พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาช่วยเหลือปัญหาของเพื่อนๆทุกๆคนรอบๆตัวได้ ทางแก้คือปล่อยวาง6. INTJ -- พวกเขาอาจรู้สึกไม่ดีพอเมื่อพวกเขาไม่เข้าใจถึงเรื่องที่พวกเขาสนใจหรือเรื่องที่พวกเขาเรียนรู้อยู่เพราะ INTJ คือบุคลิกของนักออกแบบ พวกเขาอาจรู้สึกไม่เก่งได้ถ้าพวกเขามีปัญหากับสิ่งทีพ่วกเขาเข้าใจหรือทำงานและเรียนรู้อยู่ ทางแก้คือหาความรู้เพิ่มเติมหรืออ่านหนังสือเพิ่มเติม7. ENTP -- พวกเขาอาจรู้สึกไม่พอได้ถ้าพวกเขาหาทางออกของไอเดียใหม่ๆไม่ได้ เพราะ ENTP คือบุคลิกของนักโต้วาที ENTP อาจต่อสู้กับความเชื่อและไอเดียในหัวของตัวเอง พวกเขาอาจรู้สึกไม่ดีพอตอนติดในปัญหาเดิมๆที่พวกเขาหาทางแก้ไม่ได้ ทางออกคือลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือคนที่มีประสบการณ์ในเรื่องๆนั้น8. INFJ -- พวกเขาอาจรู้สึกไม่ดีพอถ้างานที่พวกเขาทำออกมาไม่สมบูรณ์แบบเหมือนที่พวกเขาคิดไว้ เพราะ INFJ คือบุคลิกของผู้แนะนำ พวกเขาอาจต่อสู้กับความมั่นใจของตัวเองในการทำงานว่าคนอื่นทำงานดีกว่าเขา หรือผลงานของเขาไม่ดีพอ เพราะพวกเขาตั้งมาตรฐานไว้สูงเกินไป ทางแก้คือหาทางฮีลจิตใจของตัวเองและเชื่อในตัวเอง 9. ISTJ -- พวกเขาอาจรู้สึกไม่ดีพอที่ไม่ได้ทำตามกฎที่กำหนดไว้ เพราะ ISTJ คือบุคลิกของนักคำนวณ พวกเขารักความสมบูรณ์แบบ ค่อนข้างเนี้ยบ หัวโบราณ และมีความอนุรักษ์นิยม ทางแก้คือปล่อยวาง ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ในโลกใบนี้ มีแต่สิ่งที่ทำออกมาแล้วรู้สึกดีพอ แค่นั้น 10. ESFJ -- พวกเขารู้สึกไม่ดีพอตอนที่เปรียบเทียบความสามารถหรือชีวิตที่มีกับคนอื่น เพราะ ESFJ คือบุคลิกของผู้มอบคำปรึกษา ESFJ อาจรู้สึกไม่เก่ง เมื่อคนอื่นมีชีวิตที่ดีกว่า เมื่อคนอื่นทำตามความคาดหวังได้ดีกว่าที่พวกเขาคาดหวังกับตัวเอง ทางแก้คือปล่อยวาง เลิกเปรียบเทียบ เลิกตามส่องชีวิตคนอื่น และมุ่งมั่นพยายามกับตัวเอง11. ENFJ -- พวกเขาอาจรู้สึกไม่ดีพอตอนที่ไม่ได้สร้างแรงบันดาลใจดีๆให้กับชีวิตของคนอื่น เพราะ ENFJ คือบุคลิกของตัวเอก ENFJ มีความทะเยอทะยาน ความกระตือรือร้น และแรงผลักดันที่จะสร้างสิ่งดีๆให้กับโลกใบนี้ พวกเขามีมาตรฐานที่สูงค่อนข้างมากสำหรับชีวิตของตัวเองและคนอื่น ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการช่วยเหลือทุกคน ทางแก้คือปล่อยวาง และปล่อยมันไปบ้างก็จะมีความสุขในชีวิตมากขึ้น12. ENTJ -- พวกเขาอาจรู้สึกไม่เก่งพอตอนที่ผลลัพธ์ที่พวกเขาวางไว้ออกมาล้มเหลว เพราะ ENTJ คือบุคลิกของผู้บัญชาการ จึงมีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จและทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก พวกเขากลัวความพ่ายแพ้ ทางแก้คือหาทางพัฒนาความสามารถของตัวเองอย่างต่อเนื่อง คุณมาถูกทางแล้ว อย่ากลัวที่จะสงสัยใคร่รู้ในสิ่งที่ต้องการจะลงมือทำ 13.ISFJ -- ตอนที่คนรอบตัวไม่มีความสุขเพราะการกระทำของตัวเองโดยเฉพาะคนที่ตัวเองแคร์ เพราะ ISFJ คือบุคลิกของผู้ตั้งรับ พวกเขาอาจรู้สึกไม่ดีพอได้ถ้าไม่ได้ดูแลคนอื่นให้ดีพอเหมือนกับที่ตัวเองต้องการ ทางแก้คือแบ่งเวลาการทำงาน Work Life Balance เพื่อตัวเองไม่ต้องรู้สึกเสียใจภายหลัง14. ESFP -- ตอนที่ไม่ได้ไปเที่ยว ไม่ไปใช้เวลาพักผ่อนส่วนตัว เพราะ ESFP คือบุคลิกของผู้มอบความบันเทิง จึงมักรักในงานปาร์ตี้ รักในการสังสรรค์ รักในการเป็นจุดเด่นและจุดสนใจ ชอบที่จะสร้างความสุขและนำความบันเทิงมาสู่ชีวิตของคนอื่นๆ มีความเห็นอกเห็นใจสูง ทางแก้คือใช้เวลากับเพื่อนๆนะคะ15. ESTP -- ตอนที่หมดความมั่นใจในการทำงาน หมดไฟในการทำสิ่งต่างๆ เพราะ ESTP คือบุคลิกของผู้ประกอบการ พวกเขาอาจต่อสู้กับความมั่นใจในชีวิตที่ต้องเปรียบเทียบสิ่งที่มีในมือกับคนอื่นๆรอบตัวที่พวกเขามองว่าประสบความสำเร็จมากกว่าไปได้ไกลกว่า ทางแก้คือโฟกัสที่การกระทำในปัจจุบันของตัวเอง16. ESTJ --ตอนที่ไม่ได้รับความไว้วางใจในฐานะผู้นำของกลุ่ม เพราะ ESTJ คือบุคลิกของผู้บริหาร เพื่อนๆ ESTJ อาจรู้สึกไม่ดีพอตอนที่หัวหน้างานของตัวเองตัดสินใจมอบหมายหน้าที่บทบาทผู้นำให้กับคนอื่นในทีม ทางแก้คือพวกเขาควรให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพของผลงานและการทำงานในปัจจุบันของตัวเอง ผู้เขียนเป็น INFP นะ ผู้เขียนมองว่าถ้าผู้เขียนต้องทำงานที่ไม่มีความหมาย งานที่ซ้ำซากจำเจน่าเบื่อ เป็นรูทีนชีวิต ที่ผู้เขียนพิจารณาว่าน่าเบื่อมากและทรมานจิตใจ หรือกดขี่ความเป็นมนุษย์มากในชีวิตประจำวัน ผู้เขียนมีโอกาสที่จะลาออกมาได้ และ อาจจะรู้สึกไม่ทนหรือไม่อดทน เพราะถึงยังไงผู้เขียนก็เป็นฟรีแลนซ์ทำงานอยู่ที่บ้านจากหน้าจออยู่แล้ว และเรื่องเงินก็ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญในชีวิตของผู้เขียนขนาดนั้น ผู้เขียนต้องการงานที่ทำทุกวันและรู้สึกมีความหมายให้ชีวิตของตัวเอง เช่นการเขียน MBTI 16 บุคลิกภาพ จากทฤษฎีของคาร์ล จุง เพื่อความเข้าใจในตัวตนของตัวเองมากขึ้น เป็นต้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความหมายอย่างหนึ่ง เพราะผู้เขียนเชื่อในทฤษฎีของคาร์ล จุงมากกว่า ทฤษฎีของซิกมันด์ และทฤษฎีของคาร์ล จุงก็ฟังมีเหตุมีผลกว่าด้วยในด้านพฤติกรรมและสภาพจิตใจของมนุษย์ แหล่งอ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมที่ 16personalities.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจ : MBTI 16 บุคลิกภาพ กับการแสดงออกความรักMBTI 16 บุคลิกภาพ กับการบอกความลับMBTI 16 บุคลิกภาพ รับมือกับปัญหายังไงMBTI 16 บุคลิกภาพ กับ รูปแบบการทำงานMBTI 16 บุคลิกภาพ กับ การระเบิดอารมณ์ ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canvaรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 โดย StockSnap/ pixabayเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !