สวัสดีทุกคน เราอยากมาเล่าประสบการณ์การจัดฟันใสของเราให้ฟัง ต้องบอกก่อนว่าเราไม่เคยจัดฟันมาก่อนแล้วฟันของเราเกค่อนข้างจะเยอะ ซึ่งตอนนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก ใครที่ฟันเกเหมือนเราแต่อยากฟันสวยโดยเราจำเป็นต้องถอนฟันแล้ว เราเลือกจัดฟันใสกับ Dr. Clear Aligner ในราคาทั้งหมด 49,275 บาท (เคสเรา) ซึ่งราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 32,500 บาท Dr. Clear Aligner จะมีสาขาหลักอยู่ที่กรุงเทพและสาขาพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศ ตัวเราเองอยู่เชียงใหม่ก็สามารถเข้าไปหาหมอที่สาขาพาร์ทเนอร์ได้เลย ขั้นตอนในการจัดฟันแบบใส 1. ขั้นตอนแรกเราเริ่มจากการทักเข้าไปในเพจแล้วส่งภาพฟันจองเราไปให้ทางคุณหมอเพื่อประเมินว่าเคสของเราสามารถจัดฟันแบบใสได้หรือไม่ (ทางคลินิกจะส่งรูปแบบตัวอย่างว่าเราจะต้องถ่ายรูปฟันแบบไหนบ้าง) ช่วงเย็นก็จะมีเจ้าหน้าที่ทักมาให้ข้อมูลกับเราอีกที ว่าสามารถจัดฟันได้ไหม ซึ่งเคสของเราสามารถจัดฟันแบบใสได้โดยไม่ต้องทำการถอนฟันใดๆ เราประทับในขั้นตอนนี้มากเพราะว่าเจ้าหน้าที่ตอบแชทค่อนข้างเร็ว และมีการโทรมาให้ข้อมูลอย่างละเอียดครบถ้วนและทำการจองคิวเพื่อเข้ารับประเมินฟันอย่างละเอียดกับทางคลินิคในขั้นตอนต่อไป ลิ้งค์การประเมินฟัน : https://www.drclearaligners.co.th/th/free-smile-assessment/ 2. ขั้นตอนต่อไปเป็นการนัดเข้ามาตรวจสุขภาพช่องปากรวมถึง 3D scan และ X-Ray ราคาทั้งหมด 3,500 บาท ต้องทำการมัดจำเพื่อทำการจอง 1,000 บาท จ่ายส่วนที่เหลืออีก 2,500 บาท โดยสามารถจ่ายที่คลินิคตอนเข้าไปพบหมอได้เลย (เนื่องจากเราใช้บริการของคลินิกพาร์ทเนอร์ทำให้ต้องใช้บริการ 3D scan และ X-Ray จากศูนย์บริการด้านนอก) 3. รอผลสแกนฟันจากทางแลปที่เยอรมัน ในขั้นตอนนี้ค่อนข้างเร็วประมาณ 1 สัปดาห์ก็ทราบแผนการรักษาแล้ว เราสแกนวันที่ 6/6/65 ได้รับผลวันที่ 13/6/65 (ปกติรอประมาณ 3-5 สัปดาห์) โดยเจ้าหน้าที่จะส่งแบบแผนการรักษาของเราออกมาเป็นรูปแบบ 3D และไฟล์ ppt ว่าเราต้องกรอฟันและติดปุ่ม attachment ตรงไหนบ้าง เราชอบมากที่เราสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของฟันเราตั้งเริ่มต้นไปจนถึงเราจัดฟันเสร็จ โดยจะแบ่งเป็นเซตของชุดจัดฟันใส ในการจัดฟันใสในเคสของเรานั้นจะต้องทำการกรอฟัน (IPR) เพื่อให้เกิดช่องว่าง 0.02-0.05 มิลลิเมตร และติดอุปกรณ์เคลื่อนฟัน (attachment) ตำแหน่งละ 500 บาท ถ้าติดเกิน 10 ตำแหน่ง เหมาจ่าย 5,000 บาท และการถอดอุปกรณ์ attachment 1,000 บาท 4. เมื่อเราพึงพอใจในแบบแผนการรักษาแล้ว ก็ทำการชำระเงินตามแผนการรักษาได้เลย โดยเราสามารถเลือกช่องทางการชำระได้ตามที่คลินิกแจ้งได้เลย เราเลือกชำระแบบ 2 ครั้ง ซึ่งไม่มีการบวกเพิ่มหรือคิดดอกเบี้ย จากนั้นก็รอทางคลินิกผลิตอุปกรณ์และจัดส่งมายังคลินิกที่เราได้เข้าปรึกษาในตอนแรกได้เลยค่ะ 5. ขั้นตอนการอุปกรณ์และจัดส่งมายังประเทศไทย ขั้นตอนนี้จะรอนานเป็นพิเศษหน่อยนะคะ ของเรารออุปกรณ์ประมาณเกือบ 3 เดือน - ซึ่งขั้นตอนการผลิต, QC และ ขนส่งจะใช้เวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์ ของเราคอนเฟิร์มแบบแผนการรักษา 13/06/65 อุปกรณ์ส่งถึงไทย 30/07/65 - เมื่อมาถึงที่ไทยแล้วอุปกรณ์จะถูกส่งไปยังคลินิกหลักเพื่อทำการ QC ความเรียบร้อยของอุปกรณ์อีกครั้งก่อนที่จะส่งมายังคลินิกพาร์ทเนอร์ 6. ทำนัดกับทางคลินิกเพื่อเข้าไปติดอุปกรณ์และรับอุปกรณ์ ของเราได้เข้าไปรับอุปกรณ์วันที่ 1/9/65 ในขั้นตอนที่ 5 และ 6 นั้นทางเจ้าหน้าที่จะคอยแจ้งและอัพเดตสถานะของอุปกรณ์เราว่าอยู่ขั้นตอนไหนแล้วให้กับเราทางไลน์ค่ะ เจ้าหน้าที่จะคอยอัพเดททุกอาทิตย์เลย เราก็ลุ้นมากๆว่าตอนนี้ถึงขั้นตอนไหนแล้วและเราก็สามารถสอบถามได้ตลอดเลย 7. ขั้นตอนการรับอุปกรณ์ มาถึงแล้ววันนี้ที่รอคอย เมื่อเรามาถึงคลินิกคุณหมอจะทำการกรอฟันและติดปุ่มเครื่องมือตามแผนการรักษา และรับเครื่องมือจัดฟันจำนวน 10 เซตแรกก่อน จากนั้นหมอก็จะทำการใส่อุปกรณ์เซตที่ 1 ให้กับเรา และให้เราได้ลองฝึกถอดฝึกใส่อุปกรณ์ ความรู้สึกของเราในขั้นตอนการกรอฟันเป็นอะไรที่ค่อนข้างเสียวฟัน แต่จะสวยก็ต้องทน (เราควรจะเคลียร์ช่องปากก่อนจะเข้าไปติดอุปกรณ์ อย่างเช่น การขูดหินปูน) สรุปในเคสของเรา - จำนวนเซ็ตจัดฟันสำหรับฟันบน 18 และฟันล่าง 29 set (ฟันล่างซับซ้อนกว่า) - Attachment/ติดอุปกรณ์ยึดตำแหน่งเคลื่อนฟัน 13 ตำแหน่ง - IPR/ตะไบฟันเพื่อสร้างช่องว่างในการเคลื่อนฟัน 12 ตำแหน่ง ระยะเวลาในการจัดฟันทั้งหมด สำหรับฟันบน 6 และฟันล่างประมาณ 9.5 เดือน สรุปค่าใช้จ่าย - การจัดฟันใสในแพ็คเกจ สำหรับ 6 เดือน 29,500 บาท - เพิ่มอุปกรณ์จัดฟันใส = 6,600 บาท : สำหรับฟันล่าง 29-18 = 11* 600 รวม 6,600 บาท - ติดอุปกรณ์ยึดตำแหน่งเคลื่อนฟัน 13 ตำแหน่ง เหมา 5,000 บาท - ถอดอุปกรณ์ยึดตำแหน่งเคลื่อนฟัน 1,000 บาท - IPR/ตะไบฟันเพื่อสร้างช่องว่างในการเคลื่อนฟัน 12 ตำแหน่ง เหมา 5,000 บาท -รีเทนเนอร์ 1 คู่ 4,500 บาท ได้โปรโมชั่นส่วนลด เหลือ 2,175 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 49,275 บาทค่ะ รายละเอียดสำคัญ - 1 เซต ใส่ทั้งหมด 10 วัน วันละ 20-22 ชม. - ถอดอุปกรณ์ตอนทานขาว ดื่มเครื่องดื่มที่มีสีและของร้อน - เมื่อครบ 10 วัน ต้องถ่ายภาพฟันส่งให้คุณหมอประเมินก่อนเปลี่ยนเซตใหม่ อุปกรณ์ที่ได้รับ 1.เซตจัดฟันใสแยกใส่ถุงซิป 2.Chewis 4 ชิ้น สำหรับเคี้ยว 3.อุปกรณ์ช่วยเปิดช่องปาก 4.กล่องใส่อุปกรณ์จัดฟัน 5.ปูนพิมพ์ฟันของเรา 6.ตัวช่วยถอดอุปกรณ์จัดฟันใส ข้อดี - ไม่ต้องไปพบคุณหมอบ่อยๆ - ไม่ต้องถอนฟัน - อุปกรณ์ไม่บาดปาก - ทานอาหาได้ปกติ ข้อเสีย - ใส่ตลอดเวลา ต้องมีวินัย - เวลาจะกินอะไรก็ต้องคอยมาถอดอุปกรณ์ - หมั่นแปรงฟัน(หลังอาหาร) ล้างอุปกรณ์ รีวิวโดยรวม ความรู้สึกหลังจากใส่เซตแรกได้ 3 วัน ค่อนข้างจะปวดฟัน เพราะว่าเราต้องกรอฟันหลายจุดฟันเลยเกิดการเคลื่อนที่ทำให้ปวดกว่าปกติ ที่สำคัญอย่าลืมกัด chewis ด้วยน้า เราปวดมากเวลาตอนกัดแต่ว่ามันจะช่วยให้ฟันของเราเคลื่อนที่ได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง ส่วนนอกนั้นก็ดีเลยใช้ชีวิตได้ปกติมากค่ะ และอีกสิ่งที่ชอบมากๆเลยคือ ไม่ต้องเข้าไปหาหมอทุกเดือนและเจ้าหน้าที่ติดตามผลตลอด แต่สิ่งที่เราไม่ค่อยชอบคือขั้นตอนการรออุปกรณ์ รอค่อนข้างนานเลย ไว้ถ้าเห็นการเปลี่ยนแปลงยังไงจะมารีวิวต่อ EP.2 นะคะ Facebook : https://www.facebook.com/journeyyyme YouTube : Journeyyy-me บทความ True ID : https://creators.trueid.net/@Journeyyyme เครดิตภาพ ภาพที่ 1 แต่งภาพและนำภาพมาจาก จากคลินิค Dr.Clear Aligners Thailand ภาพหน้าปก ภาพที่ 2, 3, 4 และ 5 ถ่ายภาพโดยผู้เขียน journeyyy-me เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !