ปก : เครดิต pixabay เพื่อน ๆ เคยดูละครเรื่องเพชรกลางไฟไหมคะ ? จะบอกว่า ชุดเครื่องแต่งกายของตัวละครผู้หญิงดูหรูหราและสวยงามมาก ค้นจากเว็บดูถึงรู้ว่า เป็นแฟชั่นสมัยรัชกาลที่ 6 ค่ะ น่าจะอยู่ในช่วงที่ 3 เห็นจะได้ ทำให้ไรเตอร์นึกอยากเป็นท่านหญิงขึ้นมาซะแล้วสิ เข้าเรื่องค่ะ ในแต่ละประเทศจะมีชุดประจำชาติอันบ่งบอกถึงลักษณะวัฒนธรรมของตัวเอง อาทิเช่น ชุดประจำชาติของประเทศญี่ปุ่นคือชุดกิโมโน ในขณะเดียวกัน ประเทศเกาหลีใต้กลับเป็นชุดฮันบก ให้ลองนึกถึงละครซี่รี่ย์เกาหลีเรื่องแดจังกึมค่ะ เพื่อน ๆ คงนึกออก ส่วนของทางเวียดนามจะเป็นขุดอ๋าวได๋ แล้วเมืองไทยเราล่ะ? เครดิต : ภาพประกอบจากเว็บ manager online.com ชุดไทยแต่ละยุคมีการปรับให้เข้ากับสภาวะทางสังคมที่เปลี่ยนไปในขณะนั้น ยิ่งมาในสมัยรัชกาลที่ 6 แฟชั่นกลับดูแปลกตาอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่ 15 ปีเท่านั้น การแต่งกายมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดทว่ายังคงสวยงามและดูหรูหราซึ่งล้วนได้รับอิทธิพลจากการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการทำให้ผู้หญิงสูงศักดิ์ในวังสมัยนั้น หลายคนที่มีโอกาสได้ไปต่างประเทศหรือมีกิจกรรมร่วมอันเกี่ยวเนื่องกันต่างพากันหันมาให้ความสนใจเรื่องการแต่งตัวเสียใหม่ให้เข้ากับกระแสแต่ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งความเป็นไทยค่ะ ภาพประกอบจากเว็บ manageronline.com เสื้อที่นิยมในสมัย ร. 6 ส่วนใหญ่เป็นเสื้อที่ทำมาจากผ้าลูกไม้ ลักษณะของทรงแขนจะยาว ส่วนกระโปรงนั้นมีทั้งแบบสั้นและยาวและเพิ่มความหรูหราด้วยการประดับมุกและขนสัตว์ตามร่างกายไม่ว่าจะเป็นช่วงลำคอ ข้อมือหรือบนเรือนผมเป็นต้น รวมไปถึงทรงผม ผู้หญิงยุค ร.6 เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองกันมากขึ้นหันมาไว้ผมยาวและบ๊อบแทนการไว้ทรงผมสั้น รวมไปถึงการเพิ่มการแต่งแต้มสีสันลงบนใบหน้าและริมฝีปากให้กับเข้าลักษณะสีชุดด้วยค่ะที่คนสมัยนั้นเรียกกันติดปากว่าเครื่องสำอางค์นิยมค่ะ ลักษณะการแต่งกายสมัยนั้น นิยมสวมเสื้อลูกไม้สีขาวหรือสีอื่นๆ มีทั้งลักษณะเสื้อคอตั้ง บางคนสวมเสื้อคอคว้านกว้างหรือลึกตามความชอบ ส่วนความยาวของแขนเสื้อนั้นยาวมาถึงข้อมือนิยมนุ่งผ้าซิ่นกันซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานผ้าไหมและผ้าซิ่นเชิงทอด้วยเส้นเงินและเส้นทองอันบอกถึงระดับฐานะทางสังคมว่าผู้สวมใส่เป็นใครมาจากไหน ? เครดิต : ภาพประกอบโดยเว็บ manageronline.com เรื่องของทรงผม ผู้หญิงจะไว้ผมบ๊อบ บางคนดัดเป็นลอนมีเครื่องประดับลักษณะเป็นไข่มุกหรือติดขนนกดูเก๋ไก๋นำมาครอบตกแต่งเรือนผมไว้ ส่วนช่วงลำคอตกแต่งด้วยสร้อยไข่มุกหรืออื่นๆ สวมถุงน่องสีขาวความยาวถึงต้นขา รองเท้าเป็นคัชชูสีดำค่ะ ที่ตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ เป็นเพราะตอนนี้ ประเทศเรากำลังรณรงค์ให้ผู้หญิงไทยหันมาแต่งกายด้วยชุดไทยกันมากขึ้นค่า ดังนั้น ช่วงที่ผ่านมา เราจะเห็นผู้หญิงใส่เสื้อลูกไม้นุ่งซิ่นกันไม่เว้นแม้กระทั่งตลาดเชิงวัฒนธรรมที่บังคับให้แม่ค้าหันมาใส่ชุดไทย เพราะฉะนั้น เมื่อรู้ที่มาที่ไปของวัฒนธรรมการแต่งกายแล้ว เราจะเข้าใจและรักในความเป็นไทยกันมากขึ้น แฟชั่นเรามีการปรับให้เข้ายุคสมัยอยู่ตลอดเวลาและผ้าไหมไทยคือสุดยอดผ้าดีที่ดังกระฉ่อนไปไกล ดั่งประโยคพูดที่ว่า แฟชั่นไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกค่ะ