รีเซต

สัมผัส Alhambra Collection จาก Van Cleef & Arpels ได้ที่ Central Embassy

สัมผัส Alhambra Collection จาก Van Cleef & Arpels ได้ที่ Central Embassy
pommypom
16 พฤศจิกายน 2565 ( 17:55 )
277

Van Cleef & Arpels ได้จัดบูติกเฉพาะกาลในรูปแบบป็อป-อัพขึ้นที่เซ็นทรัล เอ็มบาซซีระหว่างวันที่ 12 พฤศจิกายน 2022 จนถึง 19 กุมภาพันธ์ 2023 เพื่อยกย่องคุณค่า และความสำคัญของหนึ่งในงานออกแบบอันทรงเอกลักษณ์แห่งอัลลองบรา คอลเลกชัน (Alhambra collection) ซึ่งครองตำแหน่งเครื่องประดับนำโชคอย่างยืนยาวมานับแต่ปี 1968

 

 

ท่ามกลางความหรูหราของพื้นที่ชั้นล่างตัวอาคารชอปปิง มอลล์ บูติกป็อป-อัพของเมซงได้รับการออกแบบตกแต่งโดยอาศัยแรงบันดาลใจจากรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉกผ่านการแบ่งส่วนในการจัดแสดงเครื่องประดับถึงสี่บรรยากาศ อันได้แก่สวนโคลเวอร์ (a clover garden), จิ้งจอกกลางหิมะ (a fox in a snowy landscape), นกน้อยในป่าฤดูหนาว (a bird in a winter forest) และหงส์ขาวกลางทะเลสาบรัตติกาล (a lakeside with swans lingering at night) ซึ่งแต่ละบริเวณล้วนเต็มไปด้วยความวิจิตรบรรจงเยี่ยงฉันทลักษณ์แห่งกวีนิพนธ์ต่างเวทีแสดงความงดงามหลากอารมณ์ให้แก่เครื่องประดับ Alhambra โมทิฟเจ้าของรูปทรงแบบฉบับอันโดดเด่นเหนือกระแสความนิยมของยุคสมัย เผยลูกเล่นแห่งเทคนิคงานฝีมือทางการสรรค์สร้างสไตล์ต่างๆ อยู่บนภูมิทัศน์จำลองความงดงาม สดใสในธรรมชาติ อันสะท้อนถึงมุมมองสดใสที่มีต่อชีวิตของเมซง

 

 

  • ความเชื่อในโชค (A Story of Luck)

“ถ้าอยากมีโชค เราต้องเชื่อในโชค” คือคำกล่าวของฌาคส์ อารเปลส์ หลานชายของเอสแต็ลล์ อารเปลส์ ซึ่งแสดงถึงหนึ่งในค่านิยมอันเป็นที่รักยิ่งของ Van Cleef & Arpels ดังจะเห็นได้ตลอดประวัติความเป็นมาว่าบ่อยครั้ง เรื่องราวของโชคลางสร้างแรงบันดาลใจ และปูแนวทางในการออกแบบผลงานอันทรงแบบฉบับอย่างที่สุดครั้งแล้วครั้งเล่าให้แก่เมซง

แผ่นโมทิฟตัวเรือนรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉกปรากฏเป็นครั้งแรกในแผนกจัดเก็บผลงานชิ้นสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมซงมาตั้งแต่ปี 1906 ท่ามกลางผลงานสร้างสรรค์อื่น อันสะท้อนถึงความเชื่อในโชคลางเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับทำจากไม้, เครื่องประดับซึ่งอาศัยสัญลักษณ์นำโชคตามความเชื่อของวัฒนธรรมสากลมาใช้ในการออกแบบ ตลอดจนเครื่องประดับนางฟ้าเพื่อตัวแทนแห่งการอวยพร อย่างไรก็ตาม จุดเริ่มต้นอย่างแท้จริงของเครื่องประดับอัลลองบรา หรือ Alhambra นั้นก็คือสร้อยคอยาวร้อยโมทิฟรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉกทำจากทองเนื้อริ้วเดินขอบล้อมรอบด้วยลูกปัดทอง 20 ชิ้นเมื่อปี 1968 ผลงานอันกลายเป็นสัญลักษณ์ทางการออกแบบประจำเมซงในกาลต่อมานี้ ประสบความสำเร็จทันทีที่วางจำหน่าย อีกทั้งยังวางรากฐานให้ตัวเองในโลกแห่งอัญมณีด้วยฐานะเครื่องประดับนำโชค อีกหนึ่งเอกลักษณ์แห่ง 
Van Cleef & Arpels

 

  • งานออกแบบอันอยู่เหนือกระแสความนิยมของยุคสมัย (Timeless Icon)

การหลอมรวมความงามสง่าของรูปทรงที่อยู่เหนือกระแสความนิยมของยุคสมัยเข้ากับรายละเอียดทางการตกแต่งร่วมสมัย ทำให้เครื่องประดับรุ่นต่างๆ ใน Alhambra collection เป็นเสมือนบทยกย่องความเป็นเลิศทางการสรรค์สร้าง และไหวพริบแยบคายของเมซง อีกทั้งยังเอื้อต่อการรังสรรค์ความสดใหม่ให้ตัวเองได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ด้วยการใช้เส้นรูปทรงที่อ่อนช้อย และต่อเนื่องรองรับงานประกอบลูกปัดทองกลมกลึง อำนวยต่อการเลือกใช้วัสดุตกแต่งได้หลากหลาย รวมถึงในแง่ของสีสัน, ขนาด ตลอดจนแง่มุมปลีกย่อยอีกมากมาย 

ไม่ว่าจะสวมประดับระหงคอ หรือเติมเต็มความงามสง่าให้กับทุกรูปแบบเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ Alhambra ยังเอื้อต่อการสวมใส่รวมกับผลงานต่างๆ ทั้งในคอลเลกชันเดียวกัน หรือต่างคอลเลกชัน เพื่อสร้างสไตล์เฉพาะตัว นอกเหนือจากจะเป็นเครื่องประดับนำโชคที่อยู่ติดกายผู้เป็นเจ้าของในแต่ละวัน

 

  • ไหวพริบในการพลิกแพลงทักษะความชำนาญ (Savoir-Faire)

เพื่อสืบทอดธรรมเนียมแห่งความเป็นเลิศของ Van Cleef & Arpels เครื่องประดับ Alhambra collection แต่ละชิ้น และทุกชิ้น ล้วนเป็นเสมือนเวทีระดมทักษะ ความชำนาญเชิงหัตถศิลป์เครื่องประดับชั้นสูงแขนงต่างๆ ของเมซง จากงานเจียระไน, ขึ้นตัวเรือนเครื่องประดับ, งานฝังรัตนชาติขึ้นตัวเรือน ไปจนถึงงานขัดผิว เป็นอาทิ

และด้วยแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ตลอดเวลา เมซงเสาะแสวงวัสดุอันงดงามอย่างที่สุดเท่าที่มีปรากฏมาใช้ตกแต่งบนโมทิฟตัวเรือน จากแผ่นแม่มุก หรือมาเธอร์-ออฟ-เพิร์ล ทั้งสีขาว และสีเทา, พลอยนกยูงมาลาไคท์, โมราสีเพลิงคาร์เนเลียน, พลอยน้ำสมุทรลาพิซ ลาซูลิ ไปจนถึงทองคำงานฝีมือแต่งผิว และเพชรน้ำงาม ทั้งหมดล้วนผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันให้ตรงตามมาตรฐานคุณภาพสูงสุดอย่างเคร่งครัด วัสดุแต่ละชิ้น ต่างอาศัยความประณีต ระมัดระวังในการตัดเจียนก่อนนำไปขัดผิวขึ้นเงาให้เผยคุณสมบัติเล่นแสงทอประกายเหลื่อมระยับวับวาว ในขณะเดียวกัน ทองคำก็ถูกหลอม และหล่อขึ้นแบบเป็นลูกปัดกลมกลึง ละเมียดละไม ก่อนนำไปตกแต่งเก็บงานภายใต้ฝีมือเหนือชั้นของช่างขึ้นตัวเรือนเครื่องประดับ

โมทิฟทองคำแต่ละชิ้นทำหน้าที่เป็นตัวเรือน มีเขี้ยวหนามเตยปลายลูกปัดทองอยู่ในตัวสำหรับใช้ยึดติดวัสดุตกแต่งชนิดต่างๆ สำหรับโมทิฟรุ่นวินเทจ (Vintage Alhambra) มีบุคลิกเฉพาะตัวอยู่ที่งานฝังเพชรจิกไข่ปลาต่างเส้นผ่านศูนย์กลางลงบนพื้นตัวเรือน เทคนิคการฝังสอดหน้าจมลักษณะนี้ อำนวยให้แสงตกกระทบลงสู่เพชรสะท้อนตัวออกไปยังลูกปัดทองรายรอบก่อประกายสุกสว่างเรืองรอง ในขณะเดียวกัน การใช้โครงสร้างรวงผึ้งเปิดโปร่งเพื่อลดน้ำหนัก มอบความเบาให้แก่ตัวเรือนแล้ว ยังเอื้อต่อการรับแสง และลำเลียงแสงจากทุกทิศทาง จึงเท่ากับช่วยเร่งความเข้มแสง เพิ่มความสว่างให้กับทุกแง่มุมรายละเอียดของชิ้นงาน และการขัดผิวลำดับสุดท้ายทวีความงดงามจากประกายสุกสว่างของเครื่องประดับทั่วตัวเรือน พร้อมกับเป็นตัวแทนแสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถัน ใส่ในในทุกรายละเอียดอย่างชัดเจน

กล่าวโดยรวม ต้องอาศัยกระบวนการผลิตไม่น้อยกว่าสิบห้าขั้นตอน ตั้งแต่คัดเลือก, ผลิตชิ้นงานแต่ละส่วน และการควบคุมคุณภาพในทุกลำดับ เพื่อสรรค์สร้าง Alhambra collectionให้กลายเป็นเครื่องประดับอันคงความงดงามอยู่เหนือการผันเปลี่ยนของกาลเวลา

 

  • สัญลักษณ์แห่งโชคคงความงดงามตราบนิรันดร์ (Lasting Luck)

กว่าห้าสิบปีหลังสร้อยคอยาว Alhambra เส้นแรกได้รับการสรรค์สร้างขึ้น โมทิฟรูปทรงแบบฉบับก็ยังคงเป็นตัวแทนสไตล์งานออกแบบอันอยู่เหนือความนิยมตามกระแสสมัย และความเป็นเลิศในการใช้ไหวพริบพลิกแพลงทักษะความชำนาญแขนงต่างๆ ของ Van Cleef & Arpels ก็อำนวยต่อการนำเส้นรูปทรงงามสง่าของงานออกแบบอันทรงเอกลักษณ์นี้มารังสรรค์เป็นผลงานสดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง

เทคนิคสลักลายลำแสงในวงรัศมีของดวงตะวันอย่างที่เรียกว่า guilloché (กวิโญเช) ซึ่งเมซงใช้ในงานตกแต่งหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ ไปจนถึงตลับแป้ง และชิ้นส่วนองค์ประกอบของกระเป๋าถือทรงกล่อง Minaudières (มิโนดิเอร) มาตั้งแต่ทศวรรษ 1910s ได้มาปรากฏบนเครื่องประดับ Alhambra collection เป็นครั้งแรกด้วยการใช้ตัวเรือนทองคำสีเหลืองเมื่อปี 2018 และในปีนี้ งานสลักลายสุดวิจิตรบรรจงโดยอาศัยความเป็นเลิศเชิงหัตถศิลป์ได้กลับมาอีกครั้งบนตัวเรือนทองคำขาว 18 กะรัตร้อยเรียงขึ้นเป็นสร้อยคอเส้นยาว, สร้อยข้อมือ, จี้เดี่ยวร้อยสายสร้อย, หัวแหวน และต่างหู โดยมีรายละเอียดลูกปัดทองกลมกลึงอำนวยต่อการสะท้อนแสงเร่งความสว่างเผยความคมชัดของลายเส้นริ้วบนชิ้นงานได้อย่างละเมียดละไม

เครื่องประดับ Alhambra รุ่นใหม่ทั้งห้าแบบ ซึ่งอาศัยตัวเรือนทองคำขาวสลักลายกวิโญเชนี้ จะมีวางจำหน่ายเป็นการเฉพาะที่เซ็นทรัล เอ็มบาซซีจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนนี้เท่านั้นเพื่อร่วมฉลองการเปิดบูติกป็อป-อัพสาขานี้

 

  • สู่ภาพฝันดุจบทกวีรจนาในอาณาจักรแห่ง Van Cleef & Arpels

อุทยานเหมันต์อันดารดาษไปด้วยเครื่องประดับนำโชคหลากสไตล์ คล้ายผลิบานขานรับการมาเยือนของอาคันตุกะผู้แวะเวียนเข้ามาสัมผัสบรรยากาศฤดูหนาว ทั้งจากคอลเลกชันสัตว์น้อยนำโชค และ Alhambra collection แขกในงานจะได้รับเชิญให้ลงทะเบียนชื่อบัญชีทางการของเมซงเพื่อเพิ่มเพื่อนใน LINE และตอบคำถามออนไลน์ทดสอบความรู้ที่มีเกี่ยวกับคอลเลกชันต่างๆ เพื่อรับที่ระลึกความทรงจำสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งสามารถเก็บสะสมได้เฉพาะจุดป็อป-อัพที่เซ็นทรัล เอ็มบาซซีจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2022 นี้เท่านั้น

และเพื่อให้สอดคล้องกับวาระแห่งความสนุกสนานระหว่างเทศกาลเฉลิมฉลองตลอดเดือนสุดท้ายของปี เพื่อนทาง LINE ของเมซง และแขกทั้งหลายในงาน ต่างมีโอกาสที่จะได้ออกแบบการ์ดอวยพรคริสต์มาสทางระบบออนไลน์ พร้อมส่งข้อความด้วยอักษรตัวเขียนฝีมือการออกแบบโดยศิลปินช่างออกแบบตัวอักษรที่บูติกป็อป-อัพตั้งแต่วันที่ 16 ถึง 18 ธันวาคม และ 23 ถึง 25 ธันวาคม 2022 

 

  • เวลาเปิดทำการ

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2022 จนถึง 19 กุมภาพันธ์ 2023 ระหว่างเวลา 11.00 น. ถึง 20.00 น. ของทุกวัน
เซ็นทรัล เอ็มบาซซี เลขที่ 1031 ถนนเพลินจิต, เเขวง ปทุมวัน, กรุงเทพ 10330, ประเทศไทย
www.vancleefarpels.com

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี