สัมผัส Alhambra Collection จาก Van Cleef & Arpels ได้ที่ Central Embassy
Van Cleef & Arpels ได้จัดบูติกเฉพาะกาลในรูปแบบป็อป-อัพขึ้นที่เซ็นทรัล เอ็มบาซซีระหว่างวันที่ 12 พฤศจิกายน 2022 จนถึง 19 กุมภาพันธ์ 2023 เพื่อยกย่องคุณค่า และความสำคัญของหนึ่งในงานออกแบบอันทรงเอกลักษณ์แห่งอัลลองบรา คอลเลกชัน (Alhambra collection) ซึ่งครองตำแหน่งเครื่องประดับนำโชคอย่างยืนยาวมานับแต่ปี 1968
ท่ามกลางความหรูหราของพื้นที่ชั้นล่างตัวอาคารชอปปิง มอลล์ บูติกป็อป-อัพของเมซงได้รับการออกแบบตกแต่งโดยอาศัยแรงบันดาลใจจากรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉกผ่านการแบ่งส่วนในการจัดแสดงเครื่องประดับถึงสี่บรรยากาศ อันได้แก่สวนโคลเวอร์ (a clover garden), จิ้งจอกกลางหิมะ (a fox in a snowy landscape), นกน้อยในป่าฤดูหนาว (a bird in a winter forest) และหงส์ขาวกลางทะเลสาบรัตติกาล (a lakeside with swans lingering at night) ซึ่งแต่ละบริเวณล้วนเต็มไปด้วยความวิจิตรบรรจงเยี่ยงฉันทลักษณ์แห่งกวีนิพนธ์ต่างเวทีแสดงความงดงามหลากอารมณ์ให้แก่เครื่องประดับ Alhambra โมทิฟเจ้าของรูปทรงแบบฉบับอันโดดเด่นเหนือกระแสความนิยมของยุคสมัย เผยลูกเล่นแห่งเทคนิคงานฝีมือทางการสรรค์สร้างสไตล์ต่างๆ อยู่บนภูมิทัศน์จำลองความงดงาม สดใสในธรรมชาติ อันสะท้อนถึงมุมมองสดใสที่มีต่อชีวิตของเมซง
- ความเชื่อในโชค (A Story of Luck)
“ถ้าอยากมีโชค เราต้องเชื่อในโชค” คือคำกล่าวของฌาคส์ อารเปลส์ หลานชายของเอสแต็ลล์ อารเปลส์ ซึ่งแสดงถึงหนึ่งในค่านิยมอันเป็นที่รักยิ่งของ Van Cleef & Arpels ดังจะเห็นได้ตลอดประวัติความเป็นมาว่าบ่อยครั้ง เรื่องราวของโชคลางสร้างแรงบันดาลใจ และปูแนวทางในการออกแบบผลงานอันทรงแบบฉบับอย่างที่สุดครั้งแล้วครั้งเล่าให้แก่เมซง
แผ่นโมทิฟตัวเรือนรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉกปรากฏเป็นครั้งแรกในแผนกจัดเก็บผลงานชิ้นสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมซงมาตั้งแต่ปี 1906 ท่ามกลางผลงานสร้างสรรค์อื่น อันสะท้อนถึงความเชื่อในโชคลางเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับทำจากไม้, เครื่องประดับซึ่งอาศัยสัญลักษณ์นำโชคตามความเชื่อของวัฒนธรรมสากลมาใช้ในการออกแบบ ตลอดจนเครื่องประดับนางฟ้าเพื่อตัวแทนแห่งการอวยพร อย่างไรก็ตาม จุดเริ่มต้นอย่างแท้จริงของเครื่องประดับอัลลองบรา หรือ Alhambra นั้นก็คือสร้อยคอยาวร้อยโมทิฟรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉกทำจากทองเนื้อริ้วเดินขอบล้อมรอบด้วยลูกปัดทอง 20 ชิ้นเมื่อปี 1968 ผลงานอันกลายเป็นสัญลักษณ์ทางการออกแบบประจำเมซงในกาลต่อมานี้ ประสบความสำเร็จทันทีที่วางจำหน่าย อีกทั้งยังวางรากฐานให้ตัวเองในโลกแห่งอัญมณีด้วยฐานะเครื่องประดับนำโชค อีกหนึ่งเอกลักษณ์แห่ง
Van Cleef & Arpels
- งานออกแบบอันอยู่เหนือกระแสความนิยมของยุคสมัย (Timeless Icon)
การหลอมรวมความงามสง่าของรูปทรงที่อยู่เหนือกระแสความนิยมของยุคสมัยเข้ากับรายละเอียดทางการตกแต่งร่วมสมัย ทำให้เครื่องประดับรุ่นต่างๆ ใน Alhambra collection เป็นเสมือนบทยกย่องความเป็นเลิศทางการสรรค์สร้าง และไหวพริบแยบคายของเมซง อีกทั้งยังเอื้อต่อการรังสรรค์ความสดใหม่ให้ตัวเองได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ด้วยการใช้เส้นรูปทรงที่อ่อนช้อย และต่อเนื่องรองรับงานประกอบลูกปัดทองกลมกลึง อำนวยต่อการเลือกใช้วัสดุตกแต่งได้หลากหลาย รวมถึงในแง่ของสีสัน, ขนาด ตลอดจนแง่มุมปลีกย่อยอีกมากมาย
ไม่ว่าจะสวมประดับระหงคอ หรือเติมเต็มความงามสง่าให้กับทุกรูปแบบเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ Alhambra ยังเอื้อต่อการสวมใส่รวมกับผลงานต่างๆ ทั้งในคอลเลกชันเดียวกัน หรือต่างคอลเลกชัน เพื่อสร้างสไตล์เฉพาะตัว นอกเหนือจากจะเป็นเครื่องประดับนำโชคที่อยู่ติดกายผู้เป็นเจ้าของในแต่ละวัน
- ไหวพริบในการพลิกแพลงทักษะความชำนาญ (Savoir-Faire)
เพื่อสืบทอดธรรมเนียมแห่งความเป็นเลิศของ Van Cleef & Arpels เครื่องประดับ Alhambra collection แต่ละชิ้น และทุกชิ้น ล้วนเป็นเสมือนเวทีระดมทักษะ ความชำนาญเชิงหัตถศิลป์เครื่องประดับชั้นสูงแขนงต่างๆ ของเมซง จากงานเจียระไน, ขึ้นตัวเรือนเครื่องประดับ, งานฝังรัตนชาติขึ้นตัวเรือน ไปจนถึงงานขัดผิว เป็นอาทิ
และด้วยแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ตลอดเวลา เมซงเสาะแสวงวัสดุอันงดงามอย่างที่สุดเท่าที่มีปรากฏมาใช้ตกแต่งบนโมทิฟตัวเรือน จากแผ่นแม่มุก หรือมาเธอร์-ออฟ-เพิร์ล ทั้งสีขาว และสีเทา, พลอยนกยูงมาลาไคท์, โมราสีเพลิงคาร์เนเลียน, พลอยน้ำสมุทรลาพิซ ลาซูลิ ไปจนถึงทองคำงานฝีมือแต่งผิว และเพชรน้ำงาม ทั้งหมดล้วนผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันให้ตรงตามมาตรฐานคุณภาพสูงสุดอย่างเคร่งครัด วัสดุแต่ละชิ้น ต่างอาศัยความประณีต ระมัดระวังในการตัดเจียนก่อนนำไปขัดผิวขึ้นเงาให้เผยคุณสมบัติเล่นแสงทอประกายเหลื่อมระยับวับวาว ในขณะเดียวกัน ทองคำก็ถูกหลอม และหล่อขึ้นแบบเป็นลูกปัดกลมกลึง ละเมียดละไม ก่อนนำไปตกแต่งเก็บงานภายใต้ฝีมือเหนือชั้นของช่างขึ้นตัวเรือนเครื่องประดับ
โมทิฟทองคำแต่ละชิ้นทำหน้าที่เป็นตัวเรือน มีเขี้ยวหนามเตยปลายลูกปัดทองอยู่ในตัวสำหรับใช้ยึดติดวัสดุตกแต่งชนิดต่างๆ สำหรับโมทิฟรุ่นวินเทจ (Vintage Alhambra) มีบุคลิกเฉพาะตัวอยู่ที่งานฝังเพชรจิกไข่ปลาต่างเส้นผ่านศูนย์กลางลงบนพื้นตัวเรือน เทคนิคการฝังสอดหน้าจมลักษณะนี้ อำนวยให้แสงตกกระทบลงสู่เพชรสะท้อนตัวออกไปยังลูกปัดทองรายรอบก่อประกายสุกสว่างเรืองรอง ในขณะเดียวกัน การใช้โครงสร้างรวงผึ้งเปิดโปร่งเพื่อลดน้ำหนัก มอบความเบาให้แก่ตัวเรือนแล้ว ยังเอื้อต่อการรับแสง และลำเลียงแสงจากทุกทิศทาง จึงเท่ากับช่วยเร่งความเข้มแสง เพิ่มความสว่างให้กับทุกแง่มุมรายละเอียดของชิ้นงาน และการขัดผิวลำดับสุดท้ายทวีความงดงามจากประกายสุกสว่างของเครื่องประดับทั่วตัวเรือน พร้อมกับเป็นตัวแทนแสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถัน ใส่ในในทุกรายละเอียดอย่างชัดเจน
กล่าวโดยรวม ต้องอาศัยกระบวนการผลิตไม่น้อยกว่าสิบห้าขั้นตอน ตั้งแต่คัดเลือก, ผลิตชิ้นงานแต่ละส่วน และการควบคุมคุณภาพในทุกลำดับ เพื่อสรรค์สร้าง Alhambra collectionให้กลายเป็นเครื่องประดับอันคงความงดงามอยู่เหนือการผันเปลี่ยนของกาลเวลา
- สัญลักษณ์แห่งโชคคงความงดงามตราบนิรันดร์ (Lasting Luck)
กว่าห้าสิบปีหลังสร้อยคอยาว Alhambra เส้นแรกได้รับการสรรค์สร้างขึ้น โมทิฟรูปทรงแบบฉบับก็ยังคงเป็นตัวแทนสไตล์งานออกแบบอันอยู่เหนือความนิยมตามกระแสสมัย และความเป็นเลิศในการใช้ไหวพริบพลิกแพลงทักษะความชำนาญแขนงต่างๆ ของ Van Cleef & Arpels ก็อำนวยต่อการนำเส้นรูปทรงงามสง่าของงานออกแบบอันทรงเอกลักษณ์นี้มารังสรรค์เป็นผลงานสดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
เทคนิคสลักลายลำแสงในวงรัศมีของดวงตะวันอย่างที่เรียกว่า guilloché (กวิโญเช) ซึ่งเมซงใช้ในงานตกแต่งหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ ไปจนถึงตลับแป้ง และชิ้นส่วนองค์ประกอบของกระเป๋าถือทรงกล่อง Minaudières (มิโนดิเอร) มาตั้งแต่ทศวรรษ 1910s ได้มาปรากฏบนเครื่องประดับ Alhambra collection เป็นครั้งแรกด้วยการใช้ตัวเรือนทองคำสีเหลืองเมื่อปี 2018 และในปีนี้ งานสลักลายสุดวิจิตรบรรจงโดยอาศัยความเป็นเลิศเชิงหัตถศิลป์ได้กลับมาอีกครั้งบนตัวเรือนทองคำขาว 18 กะรัตร้อยเรียงขึ้นเป็นสร้อยคอเส้นยาว, สร้อยข้อมือ, จี้เดี่ยวร้อยสายสร้อย, หัวแหวน และต่างหู โดยมีรายละเอียดลูกปัดทองกลมกลึงอำนวยต่อการสะท้อนแสงเร่งความสว่างเผยความคมชัดของลายเส้นริ้วบนชิ้นงานได้อย่างละเมียดละไม
เครื่องประดับ Alhambra รุ่นใหม่ทั้งห้าแบบ ซึ่งอาศัยตัวเรือนทองคำขาวสลักลายกวิโญเชนี้ จะมีวางจำหน่ายเป็นการเฉพาะที่เซ็นทรัล เอ็มบาซซีจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนนี้เท่านั้นเพื่อร่วมฉลองการเปิดบูติกป็อป-อัพสาขานี้
- สู่ภาพฝันดุจบทกวีรจนาในอาณาจักรแห่ง Van Cleef & Arpels
อุทยานเหมันต์อันดารดาษไปด้วยเครื่องประดับนำโชคหลากสไตล์ คล้ายผลิบานขานรับการมาเยือนของอาคันตุกะผู้แวะเวียนเข้ามาสัมผัสบรรยากาศฤดูหนาว ทั้งจากคอลเลกชันสัตว์น้อยนำโชค และ Alhambra collection แขกในงานจะได้รับเชิญให้ลงทะเบียนชื่อบัญชีทางการของเมซงเพื่อเพิ่มเพื่อนใน LINE และตอบคำถามออนไลน์ทดสอบความรู้ที่มีเกี่ยวกับคอลเลกชันต่างๆ เพื่อรับที่ระลึกความทรงจำสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งสามารถเก็บสะสมได้เฉพาะจุดป็อป-อัพที่เซ็นทรัล เอ็มบาซซีจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2022 นี้เท่านั้น
และเพื่อให้สอดคล้องกับวาระแห่งความสนุกสนานระหว่างเทศกาลเฉลิมฉลองตลอดเดือนสุดท้ายของปี เพื่อนทาง LINE ของเมซง และแขกทั้งหลายในงาน ต่างมีโอกาสที่จะได้ออกแบบการ์ดอวยพรคริสต์มาสทางระบบออนไลน์ พร้อมส่งข้อความด้วยอักษรตัวเขียนฝีมือการออกแบบโดยศิลปินช่างออกแบบตัวอักษรที่บูติกป็อป-อัพตั้งแต่วันที่ 16 ถึง 18 ธันวาคม และ 23 ถึง 25 ธันวาคม 2022
- เวลาเปิดทำการ
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2022 จนถึง 19 กุมภาพันธ์ 2023 ระหว่างเวลา 11.00 น. ถึง 20.00 น. ของทุกวัน
เซ็นทรัล เอ็มบาซซี เลขที่ 1031 ถนนเพลินจิต, เเขวง ปทุมวัน, กรุงเทพ 10330, ประเทศไทย
www.vancleefarpels.com