ช่วงนี้เทรนสุขภาพกำลังมาแรงเนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เด็กรุ่นใหม่ๆ เกิดออกมาน้อยมากเนื่องจากวัยผู้ใหญ่ในช่วงวัยทำงานช่วง 25 ปี ขึ้นไปไม่ค่อยอยากมีลูกเพราะด้วยภาระหน้าที่ต่างๆ เช่น การทำงาน ค่างวดรถยนต์ ค่าที่พัก ทำให้มีรายจ่ายต่อเดือนค่อนข้างสูง จริงๆ ผมเป็นคนที่ออกกำลังกายตลอดเวลา โดยช่วงนี้ผมจะออกกำลังกายโดยการวิ่งจากที่เมื่อก่อนปั่นจักรยานวันล่ะ 10 กิโลเมตร ระยะแรกที่ผมกลับมาวิ่งเมื่อเร็วๆ นี้คือระยะ 1 กิโลเมตร จากนั้นผมตั้งเป้าเพิ่มระยะะวิ่งเรื่อยๆ ที่ 0.5 กิโลเมตร จนตอนนี้ผมวิ่งออกกำลังกายที่ระยะ 4 กิโลเมตร/วัน 4-5 ครั้ง/อาทิตย์ สาเหตุที่ผมไม่เคยลงสมัครงานวิ่งต่าง ๆ เลย มีดังนี้ 1. ค่าใช้จ่ายในการวิ่งที่งานวิ่ง เพราะว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการสมัครวิ่งแต่ล่ะครั้ง เท่าที่ผมเห็นผ่าน ๆ ตา ค่าสมัครวิ่งอย่างน้อยคือ 500 บาท/การวิ่งหนึ่งครั้ง ซึ่งถือว่าแพงพอสมควรแถมเรายังต้องไปวิ่งเบียด กับคนอื่น ๆ หลายร้อย หลายพันคน รวมทั้งการจัดงานวิ่งมักจะจัดตอนเช้ามืด แต่ผมชอบวิ่งช่วงเย็นหลังเลิกงานครับ 2. ความสะดวกสบาย เนื่องจากคนที่งานวิ่งเยอะ และเบียดกันมาก ทำให้เวลาวิ่งเราวิ่งได้ไม่เต็มที่เพราะต้องรอให้คนข้างหน้าวิ่งไปก่อน 3. วันและเวลาในการจัดงานวิ่ง เนื่องจากการจัดงานวิ่งจะมีการระบุเวลาที่ชัดเจน ในกรณีที่เรามีเหตุจำเป็นจนไม่สามารถเข้าไปวิ่งในงานวิ่งที่เราสมัครไว้ จะทำให้เราเสียเงินค่าสมัครฟรี ๆ ได้นะครับทุกคน สำหรับตัวผมเองชอบวิ่งที่สวนสาธารณะหรือว่าสระน้ำหลังบ้านมากกว่าที่จะไปลงสมัครงานวิ่งต่างๆ เพราะนอกจากเราจะไม่เสียเงินในการสมัครแล้ว เรายังไม่ต้องไปวิ่งเบียดกับคนที่ลงสมัครงานวิ่งด้วยกัน ซึ่งเราสามารถวิ่งได้ในทุกๆ วันที่เราว่างเลยครับ หลังจากที่ผมเริ่มกลับมาวิ่งสักพัก พบว่าน้ำหนักจากที่เมื่อก่อนเคยหนัก 69 กิโลกรัม ตอนนี้น้ำหนักลดลงมา 2 กิโลกรัม เหลือ 67 กิโลกรัม ส่วนสูงของผมนั้นประมาณ 180 เซนติเมตร เพราะว่าตอนเด็กๆ ผมชอบกินนมก่อนเข้านอนทุกวัน เหมือนว่าถ้าผมไม่ได้กินนมผมจะนอนไม่หลับ เรื่องสุขภาพนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ สำคัญกว่ากว่าที่เรามีเงินเยอะด้วยซ้ำ เพราะว่าบางคนต่อให้มีเงินเยอะหรือรวยแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องเสียเงินไปรักษาตัวเองในโรงพยาบาลอยู่ดี ถ้าไม่รู้จักออกกำลังกายและควบคุมการกินอานหารควบคู่กันไป ขนาดโรคธรรมดาอย่างการเป็นไข้หรือเป็นหวัดเวลาที่ไปหาหมอแต่ล่ะครั้งอย่างน้อยก็น่าจะเสียเงินประมาณ 500 บาท/ครั้ง ถ้าใครที่ไปรักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนและต้องต้องนอนโรงพยาบาลค่าห้องต่อวันอย่างถูกๆ ก็วันล่ะ 1,000 บาทแล้วครับ ดังนั้นเรามาออกกำลังกายกันดีกว่าครับทุกคน เครดิตภาพ : https://pixabay.com/th/photos/ทำงาน-รองชนะเลิศอันดับ-ระยะทางยาว-573762 https://pixabay.com/th/photos/นักวิ่ง-เงา-นักกีฬา-การออกกำลังกาย-635906 ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านครับ Draft Indy