สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ในช่วง ยุค 90 เป็นช่วงที่เรียกว่ายุค Analog ก่อนจะมาเป็นยุค Digital อย่างทุกวันนี้ ต้องบอกก่อนว่าผมเองเกิดในปี 1988 หรือยุค 80 และเริ่มเติบโตในช่วงยุค 90 และเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นเต็มตัวในช่วงยุค 2000 จึงอย่างจะมาเล่าถึงความคลาสสิคในยุคนั้นว่าชีวิตในช่วงเวลานั้นมันต่างจากปัจจุบันนี้อย่างไร เพื่อสำหรับเล่าสู่กันฟังให้เด็กรุ่นหลังที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ายุคนั้นมันเป็นอย่างไรบ้างเพจเจอร์ ในช่วงของเพจเจอร์นี้ผมยังเด็กมากแต่ยังพอจำความได้ ก่อนที่จะมีโทรศัพท์มือถือใช้นั้นถ้าจำไม่ผิดยุคนั้นพวกผู้ใหญ่เขาจะมีเพจเจอร์แทนโทรศัพท์มือถือ การใช้งานก็อย่างเช่น เราอยากบอกให้พ่อซื้อขนมมาให้เรากิน เราก็จะใช้โทรศัพท์บ้านโทรไปที่เบอร์เพจเจอร์ของพ่อเราแล้วฝากข้อความไว้ จากนั้นข้อความที่เราฝากไว้ก็จะไปปรากฏเป็นข้อความอยู่บนเพจเจอร์ของพ่อเรา คล้ายๆการส่งข้อความ ประมาณนี้ โทรศัพท์ บอกเลยในยุคนั้นเด็กๆไม่มีมือถือใช้อย่างทุกวันนี้ ตอนนั้นมีแต่โทรศัพท์บ้าน และตู้โทรศัพท์สาธารณะ คนที่มีมือถือในยุคนั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่ ส่วนผมนั้นมีมือถือครั้งแรกก็อายุ 17 ปีแล้ว แต่ก็จะมีเพื่อนบ้างคนที่บ้านค่อนข้างมีฐานะก็จะมีมือถือเร็วกว่าคนอื่นหน่อย บางคนช่วงอายุประมาณ 14-15 ปีก็มีมือถือใช้แล้ว แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีมือถือใช้กัน ความคลาสสิคมันอยู่ตรงที่ว่า แล้วเวลานัดเที่ยวนัดเจอกันทำอย่างไร เพราะไม่มีมือถือให้โทรตามอย่างทุกวันนี้ การจะนัดเจอกันแต่ละครั้งก็คือต้องนัดสถานที่และเวลาที่ชัดเจน แล้วต้องมาเจอกันตามนัด ส่วนเพื่อนที่มาช้าก็ต้องรอเพื่อนจนกว่าจะมากันครบ ส่วนเวลาสังสรรค์กันก็ได้นั่งคุยกันแบบจริงๆจังๆเพราะไม่มีมือถือให้เล่น ถึงจะมีมือถือก็เป็นแบบปุ่มกดเล่นเน็ตไม่ได้ ไม่เหมือนทุกวันนี้ที่ส่วนใหญ่มักจะก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ และเสน่ห์อีกอย่างนึงของยุคนั้นคือตามตู้สาธารณะก็มักจะมีหนุ่มๆไปยืนอยู่ที่ตู้เพื่อโทรหาสาวๆ ต้องเตรียมเหรียญไปเยอะหน่อย ส่วนใครที่มีโทรศัพท์บ้านก็จะใช้เบอร์บ้านโทรหากัน ถ้าจำไม่ผิดถ้าจะโทรไปเบอร์บ้านใครต้องกด 1234 แล้วตามด้วยเบอร์บ้านอีกฝ่าย ก็จะคุยกันได้แบบยาวๆเพราะมันจะถูกมากๆ จดหมาย นี่ก็เป็นความคลาสสิคอีกอย่าง สมัยก่อนนั้นคนเป็นแฟนกันก็จะมีบ้างคู่ที่เขียนจดหมายหากัน ซึ่งการส่งจดหมายนั้นต้องใช้เวลากว่าจะถึงมือผู้รับ ซึ่งมันมีคุ้นค่าทางใจอย่างยิ่ง หยิบมาอ่านที่ไรก็ทำให้ยิ้มได้ทุกครั้ง ไม่เหมือนกับปัจจุบันที่กดส่งข้อความเพียงวินาทีก็ถึงมือผู้รับแล้ว และในยุคของการส่งจดหมายนี้เริ่มจบลงด้วยการมาของอีเมล ทุกวันนี้คงไม่มีใครที่จะเขียนจดหมายหากันอีก VDO วีดีโอเป็นเครื่องเล่นหนังสำหรับดูในครัวเรือน ในสมัยก่อนหากเราอยากจะดูหนังสักเรื่องเราจะต้องไปร้านเช่า VDO เพื่อเช่ามาดูกับเครื่องเล่น VDO ที่บ้าน ก่อนจะพัฒนาจากม้วน VDO กลายมาเป็นแผ่น VCD ซึ่งร้านเช่า VCD ในยุคนั้นรุ่งเรืองอย่างมาก ไม่ว่าใครๆก็ต้องเป็นสามชิกทั้งนั้น จนต่อมาอินเน็ตเริ่มมีบทบาทมากขึ้นทำให้ร้านเช่า VCD ทั้งหลายต้องปิดตัวไป ถ้าเปรียบเทียบร้านเช่า VCD ในสมัยก่อนกับในสมัยนี้ก็คงจะเป็น Netflix ซึ่งในยุคนี้แค่เสียเงินสมัคร Netflix ก็นอนดูอยู่บ้านได้อย่างสบายๆแถมมีหนังหลายเรื่องให้เลือกดูอีกต่างหากรายการทีวี ในสมัยก่อนนั้นรายการทีวีหรือละครนั้นเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะในสมัยก่อนรายการทีวีต่างๆหรือละครในยุคนั้นจะต้องดูผ่านทีวีในวันที่ออกอากาศเท่านั้น เพราะถ้าพลาดไปก็จะไม่มีให้ดูย้อนหลังอย่างในทุกวันนี้ โดยเฉพาะละครเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้หลายๆครอบครัวต้องมานั่งดูละครไปพร้อมๆกัน เป็นกิจกรรมครอบครัวอีกอย่างนึงที่ทุกวันนี้อาจจะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว และรายการสำหรับวัยรุ่นในสมัยก่อนก็จะเป็นพวกรายการเพลง ที่จะมีเพลงใหม่ๆและมีMVมาให้ดู เพราะนอกจากจะติดตามเพลงได้จากทางวิทยุแล้วก็มีรายการเพลงในทีวีนี่แหละที่ทำให้รู้ว่าศิลปินคนไหนออกเพลงมาใหม่บ้าง เพลงของใครติดชาร์จบ้าง ต่างจากปัจจุบันที่แทบจะไม่มีรายการเพลงในทีวีแล้วเพราะส่วนใหญ่ก็จะติดตามกันจาก youtube เพลง อย่างที่กล่าวไปในข้อที่แล้วว่าสมัยก่อนเราจะติดตามผลงานเพลงได้จากทางทีวีและวิทยุ ส่วนใครที่ต้องการจะฟังบ่อยๆก็ต้องซื้อเทปคาสเซ็ทของศิลปินท่านนั้นๆ จนต่อมาจากเทปคาสเซ็ทก็พัฒนาเป็น CD และ DVD เรียกได้ว่าศิลปินท่านไหนออกผลงานมาแล้วเราชอบเราก็ต้องซื้อเทปหรือ CD มาไว้ แม้จะชอบแค่เพลงเดียวแต่เราจะได้ฟังทั้งอัลบั้ม ทำให้ได้เห็นถึงผลงานเพลงของศิลปินนั้นทั้งอัลบั้ม และที่สำคัญเรายังสามารถเก็บผลงานนั้นไว้เป็นที่ระลึกได้ แต่ปัจจุบันนั้นคนจะดูผ่านทาง youtube ซึ่งอยากฟังเพลงอะไรก็แค่พิมพ์เข้าไปใน youtube ก็ได้ฟังแล้ว นี่ก็เป็นเรื่องราวคร่าวๆของช่วงยุค 90 หรือเป็นช่วงที่เรียกว่าเป็นยุค Analog ก่อนจะผ่านมาสู่ยุค Digital อย่างในปัจจุบัน ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่คนที่เกิดในยุคนี้อาจยังไม่เคยรู้ถึงวิถีชีวิตของคนยุคก่อนนั้น ผมจึงได้นำเรื่องราวบางส่วนมาเล่าสู่กันฟังเผื่อสำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่อยากรู้ว่าชีวิตคนในยุคก่อนนั้นเป็นอย่างไรภาพปกโดย AlexAntroprov86 จาก Alexander Antropov จาก Pixabay">pixabay ภาพที่ 1 โดย Peggy_Marco จาก Peggy und Marco Lachmann-Anke จาก Pixabay">pixabay ภาพที่ 2 โดย Pete Linforth จาก Pete Linforth จาก Pixabay">pixabay ภาพที่ 3 โดย Clker-Free-Vector-Images จาก Clker-Free-Vector-Images จาก Pixabay">pixabay ภาพที่ 4 โดย Rafael Javier จาก Rafael Javier จาก Pixabay">pixabayเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !