สวัสดีค่ะทุกคน กับคำว่าฮีโร่ที่มีความหมายตามพจนานุกรมมีว่า บุรุษผู้ที่มีความกล้าหาญ เก่งกล้าเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต และนั่นแหละนะก็เป็นเพียงคำจำกัดความในแบบพจนานุกรมเท่านั้น แต่สำหรับตัวเรานั้นคำว่าฮีโร่ คือบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจเป็นตัวอย่างที่ดีเพื่อให้เราสามารถปรับเปลี่ยนบางอย่างในตัวเองและนำแนวทางชีวิตของเขามาปรับใช้แล้วดีขึ้นในทุกด้านและฮีโร่ในใจของเราบอกได้เลยที่สุดของโจ๋นั่นอยู่ไม่ไกลก็คือคนที่อยู่ข้าง ๆ เราตลอดมานั่นก็คือแม่ของเราเอง “My Mom” และนี่คือรูปแม่ของเราในปัจจุบัน แม่เรานะอายุตอนนี้ก็ประมาณ 61 ปีน้ำหนักตอนนี้คือ 53 กิโลกรัม จากเมื่อก่อนที่น้ำหนัก 65 กิโลกรัม แล้วเรียกได้เลยว่าเป็นผู้สูงอายุ เพราะอายุ 60 ขึ้นไปเขาจำกัดความว่าเป็นผู้สูงอายุ แต่เเม่เราจะบอกเราเสมอว่าอย่าเรียกผู้สูงอายุมันดูแก่ไปให้เรียกวัยผู้ใหญ่ก็พอโอเคได้แม่ตามนั้นแล้วอยากรู้ไหมล่ะทุกคนทำไมเราถึงให้แม่เราเป็นฮีโร่สำหรับเรา มีหลายเรื่องที่แม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้เราเดินตามมาตลอด และมีเรื่องหนึ่งที่เราแบบรู้สึกว่าแม่เราสุดเจ๋ง สุดปัง ปังดัง ๆ กาละมังมากแม๊เรื่องนั้นก็มีอยู่ว่า เมื่อสามปีก่อนแม่เรามีอาการเหนื่อยง่าย หายใจไม่ทัน ปกติเเม่ไม่เคยร้องขอให้พาไปโรงพยาบาลเลยแม้แต่น้อย แม่เป็นหญิงแกร่งตลอดเวลาทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่เคยบ่น ไม่เคยป่วย แต่เพราะแม่เป็นโรคความดันโลหิตสูงตอนนั้นน้ำหนักอยู่ที่ 65 กิโลกรัมแม่ไม่เคยออกกำลังกาย, ไม่คุมอาหาร ทำให้วันหนึ่งจู่ ๆ แม่บอกหายใจไม่ได้หายใจไม่ออก เหนื่อยมากทั้งที่นั่งอยู่เฉยๆ อยากไปหาหมอ เราผู้เป็นลูกเลยต้องพาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล การไปหาหมอครั้งนั้นหมอวินิจฉัยว่า อาการที่แม่เป็นเกิดจากสาเหตุความดันโลหิตสูงเกินไปหมอวัดได้ที่ 155 - 160 ส่งผลให้แม่ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และขั้นตอนการรักษาตัวกว่าจะได้เข้าพบหมอทั้ง ๆ ที่เหนื่อยมากและเราคิดว่าอาการหนักอยู่นะ แม่ยังคงต้องทำตามขั้นตอนการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาล ทั้งต้องเดินไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง สอบถามอาการ นั่งรอหมอ หันซ้ายก็จะเห็นผู้ป่วยคนอื่นร้องโอดโอย เพราะแม่เราเข้ารักษาตัวห้องฉุกเฉินซึ่งมีผู้ป่วยเต็มห้องแต่ละคนคือเจ็บป่วยแบบหนัก ๆ กัน กินเวลาไปเกือบ 45 นาทีถึงได้พบหมอ แล้วก็ใช้เวลารักษาอยู่สองวันความดันโลหิตสูงเข้าสู่ภาวะปกติถึงได้กลับบ้านและคุณหมอแนะนำว่าควรออกกำลังกายและควบคุมอาหารรวมถึงทานยาโรคความดันโลหิตสูงอย่าได้ขาดและจากวันนั้นมาทุกคน แม่เราตั้งปณิธานเลยว่าจะไม่กลับไปหาหมอเพราะโรคความดันโลหิตสูงอีกแล้ว ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้แม่พูดคำไหนคำนั้นตั้งสัจจะกับตัวแม่เอง พูดแล้วต้องทำได้ ถ้าไม่ทำแม่ไม่พูดคือสิ่งที่แม่บอกกับเรา เเล้วเเม่เราเริ่มออกกำลังกาย เริ่มต้นด้วยการแกว่งแขนจาก 5 นาทีเป็น 10 นาทีจาก 10 นาทีเป็น 20 นาที และจาก 20 นาทีเป็น 30 นาที เมื่อร่างกายเริ่มแข็งแรงมากขึ้นก็เพิ่มการออกกำลังกายขึ้นตามพลังตามความสามารถของร่างกาย แล้วหันหน้ามาวิ่งออกกำลังกายทุกวัน ไม่มีบ่น ทำเป็นกิจวัตรประจำวันตั้งเวลาวิ่งตี 5 จะต้องวิ่งทุกวันสัปดาห์ละ 6 วัน วันละ 1 ชั่วโมงจะหยุดวิ่งเพียง 1 วันต่อสัปดาห์ โดยจะวิ่งที่หน้าบ้านบ้างไปสวนสาธารณะบ้างหรือไม่ก็สนามกีฬาแถวบ้านบ้าง เพื่อพักขาและเท้า จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ความดันโลหิตสูงที่เคยเล่นงานแม่ ก็ไม่มาเยือนอีกเลย กลับทำให้ร่างกายของแม่แข็งแรงขึ้นมาก ไม่เคยมีอาการแบบที่เป็นอย่างเมื่อ 3 ปีก่อนอีกเลย แม่ออกกำลังกายให้เราเห็นเป็นประจำ แม่ชอบจะพูดบอกเราเสมอว่ากีฬา กีฬาเป็นยาวิเศษ การออกกำลังกายคือยารักษาโรคที่แม่เชื่อว่าดีที่สุดในโลก และนั่นแหละคือสิ่งที่เรายกย่องแม่เราเลยให้แม่เป็นฮีโร่สำหรับเรา แม่ไม่พูดมากแต่แม่ทำให้ดูและเราก็เห็นว่าแม่ทำจริง ไม่พูดส่งเดช ซึ่งเรายังออกกำลังกายไม่ได้ครึ่งของแม่เราเลย เราก็เลยขอยกให้แม่เป็นฮีโร่ในดวงใจของเราเรื่องการออกกำลังกายมาอันดับหนึ่ง ถือเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องการออกกำลังกายหรือจะเรียกได้ว่าแม่เป็น Hero in you หรือเป็นฮีโร่ในดวงใจเราเลย และถึงแม้อาจจะดูธรรมดาสำหรับสายตาคนอื่น แต่สำหรับเราแม่คือฮีโร่ที่เป็นต้นแบบของเราและเราก็จะพยายามทำตามแบบอย่างของแม่ สิ่งที่จะได้ก็คือความมีสุขภาพร่างกายที่ดีมีแต่สิ่งที่ดีหากเราทำตาม นี่คือเราบอกตัวเราเองเราต้องออกกำลังกายให้ได้ครึ่งของแม่ให้ได้ ซึ่งเราคิดว่าฮีโร่ไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษแค่ทำให้ใครคนหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีมันก็ถือเป็นจุดเล็ก ๆ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดีได้เช่นกัน แล้วคุณ ๆ ล่ะฮีโร่อินยู (Hero in You) ของคุณคือใครกันนะ?ใช่คนในครอบครัวเหมือนเราหรือเปล่า#HeroinYouภาพทั้งหมดโดยนักเขียนนามปากกา 345Pink เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !