5 พฤติกรรมเสี่ยง ที่จะทำให้คุณเป็นโรคไตเสื่อมไวขึ้น!พฤติกรรมที่เราทำหรือปฏิบัติอยู่เป็นประจำ หลายคนไม่รู้ว่าพฤติกรรมแบบไหนคือความเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคไตเสื่อม เพราะยังไม่เคยตรวจสุขภาพหรือติดตามอาการของร่างกายเลย จึงทำให้ไม่รู้และยังปฏิบัติตัวแบบผิด ๆ ต่อไป ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่า ผมได้ตรวจสุขภาพมาแล้วเกิดภาวะไตทำงานผิดปกติ ซึ่งมีค่า Creatinine สูงกว่าปกติ 1.23 mg/dL ค่าปกติควรอยู่ระหว่าง 0.73-1.18 mg/dL และมีค่า eGFR หรือค่าที่บ่งบอกประสิทธิภาพการกรองของเสียของไตที่น้อยลงจนเกือบถึงภาวะไตเสื่อมระยะที่ 2 ค่าที่ผมได้คือ 80 ml/min/1.73ms2 ค่าปกติควรมากกว่า 90 ซึ่งบทความนี้ผมจะมารีวิวพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ผมมีอาการไตทำงานผิดปกติกันครับ1. กินอาหารรสเค็มจัด1. กินอาหารรสเค็มจัด ผมชอบกินอาหารประเภทแกง น้ำพริกต่าง ๆ ซึ่งส่วนมากเป็นอาหารอีสาน จะมีรสเค็มนำอยู่แล้ว และกินในปริมาณมากด้วย ยิ่งเป็นน้ำแกงแล้วยิ่งชอบซด และอีกอย่างการกินอาหารอีสานกับข้าวเหนียวมันเข้ากันมาก ถ้าทำแบบจืด ๆ ทางอีสานจะบอกว่ามันไม่นัวไม่แซ่บ ดังนั้นอาหารอีสานจะมีรสชาติเค็มนำ นอกจากนี้ยังมีอาหารที่เป็นแจ่ว เช่นปลาร้าบอง แจ่วปลาร้า แจ่วที่กินกับของเปรี้ยวต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งมะม่วงสับคลุกรสดี ผมชอบกินมาก ยิ่งรสชาติออกเค็มนำยิ่งชอบใหญ่เลย ที่สำคัญคือน้ำจิ้มหมูกระทะ ผมจะกินไม่ต่ำกว่า 4 ถ้วยในแต่ละครั้งที่ไปกิน ของเหล่านี้มันมีโซเดียมสูงมาก ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักของอาการไตผิดปกติ2. ดื่มน้ำน้อย2. ดื่มน้ำน้อย ผมเป็นคนประเภทที่ดื่มน้ำค่อนข้างน้อยมาก เพราะทำงานในห้องแอร์ เหงื่อไม่ค่อยออก ไม่ค่อยหิวน้ำ และจะไม่ค่อยชอบกินน้ำแบบอยู่ดี ๆ ก็กิน จะกินเฉพาะช่วงที่ทำงานที่ออกแรง เหงื่อเยอะ ๆ หรือช่วงที่รับประทานอาหาร ถ้าแบบดื่มน้ำตอนเช้าหรือช่วงกลางวันอะไรแบบนี้จะไม่ค่อยดื่ม เพราะว่าดื่มแล้วน้ำไม่ค่อยอร่อย ด้วยน้ำเป็นตัวกลางหนึ่งที่สามารถเจือจางความเข้มข้นอาหารที่เรากินเข้าไป ทำให้ไตสามารถกรองอาหารเหล่านี้ได้ดีขึ้น การดื่มน้ำน้อยจึงทำให้ผมมีอาการไตผิดปกติ 3. กินยาพร่ำเพรื่อ3. กินยาพร่ำเพรื่อ ผมจะมีอาการปวดหัวบ่อยมาก เวลานั่งนาน ๆ ผมจะปวดหัวทันที แล้ววิธีแก้ของผมคือการกินยาพารา แล้วกินครั้งละ 2 เม็ดด้วย 2-3 วันปวดหัวทีก็กินเลย กินแบบนี้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว ซึ่งมันปวดหัวบ่อยมากจริง ๆ จนผมไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร การกินยามันก็แก้ปัญหาได้ทันที เลยเลือกใช้วิธีนี้มาโดยตลอด นอกจากนี้ช่วงเวลาที่ผ่านมาผมค่อนข้างเข้าโรงพยาบาลบ่อยมาก เพราะผ่าตัดไส้ติ่ง โควิด ปลายประสาทอักเสบ หูอื้อ ไปแต่ละครั้งก็ได้ยากลับมากินตลอด เลยทำให้ผมกินยาค่อนข้างมากในช่วงเวลาดังกล่าว โดยยาเหล่านี้จะทำให้เกิดผลึกหรือตะกอนที่ไต ทำให้ไตทำงานหนักมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ไตทำงานผิดปกติ4. กลั้นปัสสาวะบ่อย4. กลั้นปัสสาวะบ่อย ด้วยข้างต้นที่ผมทำงานในห้องแอร์ มันจะไม่ค่อยมีเหงื่อ ของเสียส่วนมากจะขับออกทางปัสสาวะ แต่ส่วนมากถ้าไม่ปวดมากผมจะไม่ไปเข้าห้องน้ำเลย เพราะรู้สึกขึ้นเกียจ หรือแม้กระทั่งตอนนั่งรถจากโคราชไปกรุงเทพฯ ผมก็แทบจะไม่ออกจากรถไปฉี่เลย แล้วพฤติกรรมแบบนี้ผมก็ทำมานานมากแล้ว มันรู้สึกขี้เกียจตลอดเวลาที่ปวดฉี่ จนกลั้นไม่ไหวจริง ๆ ถึงจะไป พฤติกรรมแบบนี้อันตรายต่อไตมากครับ เพราะว่าไตของเราทำหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือด เพื่อให้เลือดสะอาดและสามารถนำไปเลี้ยงร่างกายเราได้ โดยจะขับของเสียออกมาในรูปกรดยูริกหรือปัสสาวะนั่นเอง ถ้าเรากลั้นฉี่บ่อย ๆ ไตก็ต้องขับของเสียดันออกมา พอดันออกมายากไตก็ล้าเสื่อมถอยลงไปได้5. กินอาหารที่มีโปรตีนสูงเยอะเกินไป5. กินอาหารที่มีโปรตีนสูงเยอะเกินไป ด้วยน้ำหนักตัวของผมค่อนข้างเกินเกณฑ์ค่า BMI เพราะผมรับประทานอาหารค่อนข้างมาก และอาหารที่ชอบทานสุด ๆ จะเป็นพวกโปรตีนสูง เช่น นมถั่วเหลือง เนื้อไก่ เนื้อวัว ไข่ไก่ ซึ่งอาหารเหล่านี้มีประโยชน์มากครับ สำหรับคนปกติ แต่สำหรับผู้ป่วยโรคไตอาจจะไม่จำเป็นเลยครับ เพราะในอาหารเหล่านี้มีกรดยูเรีย ซึ่งจะทำให้เลือดเป็นกรด โดยไตจะทำงานหนักขึ้นเพื่อขับกรดพวกนี้ออกในรูปของปัสสาวะ ดังนั้นการกินอาหารเหล่านี้ ถ้าเป็นคนปกติก็ไม่ควรกินมากเกินไปนะครับ ถึงแม้จะยังไม่ส่งผลเสียต่อไตมาก แต่เราไม่รู้ว่าไตเราปกติหรือเปล่า ฉะนั้นก็ควรกินแต่พอดีในแต่ละมื้อดีกว่าครับ เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับบทความพฤติกรรมเสี่ยงหรือพฤติกรรมการกินที่เสี่ยงต่อไต เสี่ยงต่อโรคไตเสื่อม ซึ่งจะทำให้เราเป็นโรคไตไวขึ้น โดยมาจากประสบการณ์ตรงล้วน ๆ และสุดท้ายก็ขอฝากทุกคนว่า การกินแต่พอดีจะดีต่อสุขภาพมากครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านเลยนะครับเครดิตภาพภาพปก : ภาพโดย Salah Ait Mokhtar จาก Pixabayภาพที่ 1: ภาพโดย -Rita-👩🍳 und 📷 mit ❤ จาก Pixabayภาพที่ 2: ภาพโดย Colin Behrens จาก Pixabayภาพที่ 3: ภาพโดย Steve Buissinne จาก Pixabayภาพที่ 4: ภาพโดย Darko Djurin จาก Pixabayภาพที่ 5: ภาพโดย Steve Buissinne จาก Pixabay บทความที่แนะนำสัญญาณเตือนไส้ติ่งอักเสบ! รู้ทัน รับมือไว ปลอดภัยจากไส้ติ่งแตก [จากประสบการณ์จริง]อาการเสียงดังในหู เหมือนเสียงจิ้งหรีด หูอื้อ เกิดจากอะไร? รักษาได้ไหม? ป้องกันอย่างไร?แชร์ประสบการณ์ติดเชื้อโควิด เดือนกันยายน 2565 อาการข้างเคียงและวิธีการรักษาตัว"โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่" หายได้ รู้เท่าทัน ป้องกันได้ไว15 ผักผลไม้ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี10 อาหารใกล้ตัวกรดยูริกสูง ทานมากเสี่ยงเป็นโรคเกาต์ ปวดข้ออักเสบบวมแดง#เทรนด์สุขภาพ#โรคเบาหวาน#วิธีลดน้ำตาลในเลือด#ลดน้ำตาลในเลือด #ไลฟ์สไตล์#สุขภาพ#อาหารสุขภาพ#เทรนด์สุขภาพ#เครื่องดื่มสุขภาพ #กินยา#กินยาอย่างไรไม่ให้ไตพัง#สุขภาพ#สุขภาพกาย#เทรนด์สุขภาพ#โรคนิ่วในไต#โรคไต#ไตวาย #สุขภาพ#อาหารบำรุงไต#อาหารสุขภาพ#โรคไต#ไตเสื่อม เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !