ผู้เชี่ยวชาญพบว่า พฤติกรรมของวัยรุ่นและสภาวะทางอารมณ์ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2012 อัตราความก้าวร้าวและพฤติกรรมที่ไม่ดี ที่วัยรุ่นลอกเลียนแบบมาจากสื่อออนไลน์เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในสังคม คุณสมบัติหลายประการของด้านความคิดสร้างสรรค์ในวัยรุ่นเริ่มหายไป ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดระหว่างวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ คือ พฤติกรรมการมองโลก เพราะวัยรุ่นยังมีประสบการณ์น้อย จึงทำให้การแยกแยะเรื่องราวต่าง ๆ และยังรับมือกับปัญหาได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทุกวันนี้วัยรุ่นมีความแตกต่างจากพันปีที่แล้วมาก ในแง่ของเวลาและโลกทัศน์ บางทีนี่อาจเป็นเพราะชีวิตของวัยรุ่นในทุกวันนี้ได้รับอิทธิพลจากโซเชียล และสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วสำหรับใครที่เกิดระหว่างปี 2538 จนถึง 2555 พวกเขาเติบโตขึ้นโดยใช้สมาร์ทโฟนมาตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่าอินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีอิทธิพลต่อวัยรุ่นกลุ่มนี้ ฉันเกิดในปี 2538 และฉันคิดว่าฉันอยู่ในยุคของการเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลง เพราะฉันยังเปิดบัญชี Instagram ก่อนเข้าโรงเรียนมัธยมด้วยซ้ำ และฉันจำวันที่ฉันไม่มีอินเทอร์เน็ตไม่ได้แล้ว ฉันนึกมันไม่ออกด้วยซ้ำ ว่าชีวิตก่อนที่จะมีอินเทอร์เน็ตฉันใช้ชีวิตอย่างไรปัจจุบันอินเทอร์เน็ตเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่เหมือนเด็กและวัยรุ่นทุกวันนี้ พวกเขาเติบโตมาพร้อมอินเทอร์เน็ต โดยปัญหาแรกที่เกิดขึ้นกับการถือกำเนิดของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตคือ “เด็กติดมือถือและเล่นมือถือตลอดเวลา” ผลกระทบและปัญหาที่เห็นได้ชัด คือ ปัญหาของการสูญเสียสมาธิและความสนใจ ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญอย่างมากที่เด็กสมัยนี้กำลังเผชิญอยู่ แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าก็คือ สมาร์ทโฟนมันสามารถทำให้เกิดอาการป่วยทางจิตได้ ด้วยการถือกำเนิดของสมาร์ทโฟน ทำให้ชีวิตของวัยรุ่นเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านความคิดสร้างสรรค์ สังคม และการใช้ชีวิต เนื่องด้วย สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอินเทอร์เน็ต สร้างผลกระทบในการใช้ชีวิตของวัยรุ่น ตั้งแต่กระบวนการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมไปจนถึงสุขภาพจิต แต่ปัญหาที่ร้ายแรงที่เราต้องจัดการคือ เรื่องสภาพจิตใจ วัยรุ่นปัจจุบันมีความอ่อนไหวทางอารมณ์มากกว่าวัยรุ่นสมัยก่อนมาก และมีอัตราเสี่ยงต่อสภาวะซึมเศร้าและอัตราการฆ่าตัวตาย พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2554 นี่คือเรื่องจริงที่ทุกคนต้องรับรู้เกี่ยวกับ สุขภาพจิตของคนรุ่นใหม่ถือว่าเข้าขั้นเลวร้ายที่สุด ของคนรุ่นใดในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา หากคุณดูที่สาเหตุของปัญหาสุขภาพจิต คุณจะเห็นว่าส่วนเล็ก ๆ มาจากการใช้สมาร์ทโฟน และนี่คือหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างที่ว่าชีวิตและค่านิยมของคนรุ่นใหม่มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ผลการสำรวจในสหรัฐอเมริกา พบว่า มีการถามคำถามมากกว่า 1,000 คำถามทุกปี ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน โดยมีการส่งคำถามถึงนักเรียนมัธยมทั่วสหรัฐอเมริกา และจากปี 2554 มีการถามและรวบรวมคำถามจาก นักเรียนมัธยมและนักศึกษา พบว่านักเรียนและนักศึกษาส่วนมากใช้เวลากับหน้าจอมือถือเพื่อสื่อสารกับผู้อื่น มากกว่าการสื่อสารโดยการพูดคุยกัน โดยผลการวิจัยทางด้านพฤติกรรมทางอารมณ์ ได้พบว่าวัยรุ่นที่ติดโทรศัพท์มาก ๆ มีเกณฑ์ที่จะมีพฤติกรรมก้าวร้าว ในทางตรงกันข้ามวัยรุ่นที่ใช้เวลาในการเล่นโทรศัพท์มือถือน้อยกว่าจะมีสภาพชีวิตที่ดีกว่า โดยเฉลี่ยวัยรุ่นอเมริกาใช้ช่วงเวลาในการเล่นโซเชียลมีเดียนานกว่า 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นักเรียนและนักศึกษาที่ใช้เวลาเล่นโซเชียลมาก มีแนวโน้มมากกว่า 56% ที่จะมีชีวิตที่ไม่มีความสุข ความน่าจะเป็นของวัยรุ่นที่เล่นสื่อโซเชียล 6 ถึง 9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ พบว่าพวกเขาไม่มีความสุขมากกว่า 47% โดยทั้งหมดมีผลต่อความสัมพันธ์ต่อบุคคลรอบข้างเป็นปัจจัยรอง วัยรุ่นที่ใช้เวลาเฉลี่ยเพื่อเล่นกับเพื่อนและทำกิจกรรมของโรงเรียนและมหาลัย มีโอกาสเฉลี่ยน้อยกว่าค่าเฉลี่ย 20% ที่จะมีชีวิตที่ไม่มีความสุขจากพฤติกรรมการเล่นโซเชียลและสมาร์ทโฟนในปัจจุบันนี้ ทุกอย่างไวมากขึ้นกว่าเดิม สื่อออนไลน์มีมายมายในอินเทอร์เน็ต โดยไม่มีการแยกความเหมาะสมที่ชัดเจน และอาจจะทำให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมเลียนแบบได้ในอนาคต อาจจะกล่าวได้ว่า สังคมออนไลน์มีอิทธิพลอย่างมากต่อเด็กในปัจจุบันนี้ ดังนั้นผู้ปกครองควรที่จะดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด และให้คำแนะนำในเรื่องต่าง ๆ เพราะเราอาจจะปิดกั้นเด็กสมัยนี้ไม่ให้เล่นโซเชียลไม่ได้แล้ว ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือ ต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของพวกเขาภาพหน้าปก โดย unsplash / ภาพที่1 โดย unsplash / ภาพที่2 โดย unsplash / ภาพที่3 โดย unsplash / ภาพที่4 โดย unsplash