ออกกำลังกาย...ได้อะไรมากกว่าความผอม“การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” จากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง เป็นเด็กที่เติบโตมาแบบมีของแถมมาด้วยตั้งแต่จำความได้ นั่นก็คือ “โรคภูมิแพ้” ไม่ว่าจะเป็นแพ้ฝุ่น แพ้อากาศ แพ้อาหาร รวมๆเอาเลยว่าแพ้ทุกอย่าง อาการก็คือ จาม คันจมูก คันตามตัว มากน้อยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิ่งที่เราแพ้และสภาพร่างกายของเราในขณะนั้น ถ้าแข็งแรงดีภูมิต้านทานก็ทำงานดี อาการที่เกิดขึ้นก็เบาบางกว่าเวลาที่ร่างกายเราอ่อนแอตอนเด็กๆ ก็ไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เกิดกับตัวเรามากเท่าไร เพราะความเป็นเด็ก คันก็เกา เกาจนกว่าจะหายคัน ซึ่งผลที่ได้ก็คือแผลเป็นจากการเกาเต็มไปทั่วร่างกาย เมื่อตอนเด็กเป็นไม่กี่วันก็หาย พอเริ่มอายุมากขึ้น รอยดำ รอยแผลจากการเกาก็หายช้าหรืออาจไม่หายเลยด้วยภาวะของร่างกายตามอายุ ทำให้เริ่มใช้ยาแก้แพ้ช่วยบรรเทาอาการแพ้ต่างๆ แต่ยาก็ช่วยได้ชั่วคราวเมื่อหมดฤทธิ์ยา อาการต่างๆ ก็กลับมาเหมือนเดิมผู้เขียนจึงเริ่มหาข้อมูล และศึกษาเกี่ยวกับอาการแพ้ และวิธีแก้ไข ซึ่งหนึ่งในวิธีการต่าง ๆ ก็คือ การออกกำลังกาย...เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของเราผู้เขียนเริ่มออกกำลังกายจากการออกไปเดิน ที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน วันแรกเดินช้าๆ เหมือนไปเดินเล่นประมาณ 3 กิโลเมตรกว่าๆ เพราะต้องเดินให้ครบรอบสวน ซึ่งจริงๆ ใจก็อยากจะเดินกลับตั้งแต่กิโลเมตรแรกแล้ว แต่ก็ฮึดสู้เดินไปจนครบรอบ รู้สึกถึงความเหนื่อยหอบที่บอกตัวเองว่า ไม่เอาแล้วนะ...แต่ด้วยความที่เป็นคนทำอะไรแล้วถ้ายังไม่ถึงที่สุดจะไม่หยุด คนอื่นทำได้ เราต้องทำได้ คำนี้มันผุดขึ้นมาในสมองเสมอเมื่อลงมือทำสิ่งใดก็ตาม...จากเดินช้าๆ เป็นเดินเร็วสลับกันไป และเริ่มออกวิ่งเบาๆ สลับกับเดินบ้างวิ่งบ้าง จนในที่สุดใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ ก็สามารถวิ่งครบรอบสวนระยะทาง 3 กิโลเมตรได้ และจากนั้นมาประมาณ 2 เดือน สามารถวิ่งได้สองรอบสวนโดยไม่หยุดเดิน ด้วยประสบการณ์ของผู้เขียนทราบดีกว่า การเริ่มต้นออกกำลังกายนั้นยากเสมอ แต่ไม่ยากเกินไปสำหรับคนที่รักตัวเอง ...มันน่าอัศจรรย์ใจจริงๆ แค่ออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายเปลี่ยนได้จริงเหรอ ไม่ลองไม่รู้นะคะ...ลองทำดูก่อนแล้วจะรู้ว่า “กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ” แบบที่ใครๆ เขาว่ากันจริงๆ ซึ่งผู้เขียนได้ประสบมากับตัวเองจึงกล้าที่จะมาเล่าให้ฟัง..เพราะการออกกำลังกาย ได้อะไรมากกว่าความผอม ผลจากการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องใช้เวลาเป็นปีซึ่งก็ถือว่าคุ้มมากเมื่อแลกกับสุขภาพดีขึ้น ส่งผลทางด้านร่างกาย ทำให้ผู้เขียนมีอาการภูมิแพ้น้อยลง คันตามเนื้อตัวน้อยลงนอกจากเจอสิ่งเร้าที่หนักหนาจริงๆ อาการถึงจะกำเริบ ผิวพรรณดีขึ้นมากไม่มีจุดด่างดำ กล้าใส่กางเกงขาสั้นแบบมั่นใจ ไอ จาม คันจมูก อาการเหล่านี้แทบจะไม่มีเลย ส่วนทางด้านจิตใจทำให้เรารักตัวเอง เคารพตัวเองและภูมิใจในตัวเองมากขึ้น และมหัศจรรย์ยิ่งกว่าคือ รักการวิ่ง จนต้องออกไปวิ่งทุกเช้า และลงสนามแข่งจาก mini marathon สู่ half-marathon เมื่อปีที่แล้ว แต่ช่วงนี้ต้องเปลี่ยนมาออกกำลังกายที่บ้านกันก่อนนะคะ..เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง ผู้เขียน แนะนำว่าไม่จำเป็นต้องเป็นการวิ่งก็ได้ ชอบการออกกำลังกายแบบไหนก็เล่นแบบที่เราชอบนะคะ หาคลิปใน youtube ที่เราชอบแล้วทำตามอยู่ที่บ้านก็ได้นะคะไม่ต้องเสียเงินไป fitness และการที่เราชอบ มันจะทำให้เราทำได้ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ร่างกายคนเรามหัศจรรย์นะคะเมื่อเราทำสิ่งใดเป็นวินัย ทำให้เกิดเป็นนิสัย จากนั้นร่างกายจะจดจำสิ่งนั้นว่า เป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้ เช่นเดียวกับอาหาร ก็คือการออกกำลังกายค่ะ ...แล้วเราจะกลายเป็นคนที่รักการออกกำลังกาย วันไหนไม่ได้ออกจะหงุดหงิด จนต้องหาเวลาออกกำลังกายจนได้..ซึ่งเป็นผลดีกับเรานะคะ...เป็นกำลังใจให้สำหรับคนที่ไม่เคยออกกำลังกาย...แค่ใส่รองเท้าแล้วก้าวเดิน เดินช้าๆ ค่อยๆ เดิน จากเดินช้าๆ เป็นวิ่งช้าๆ วิ่งไปเรื่อยๆ แล้วคุณจะพบว่าตัวคุณเองทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด....(you can do it) ด้วยความปรารถนาดีจาก My happiness…ภาพหน้าปกเครดิตภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียนบทความ