..."ช่องปาก" เป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย เป็นอวัยวะที่มีส่วนประกอบของฟัน ซึ่งในปัจจุบันหากเพื่อน ๆ ประสบพบเจอกับอาการฟันห่าง ฟันเก หรือฟันไม่สบกัน เพื่อน ๆ ก็คงจะเคยค้นหาข้อมูลของการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผู้เขียนเองก็มีประสบการณ์ในการรักษา "ฟันห่าง" ซึ่งทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการพูด การยิ้ม ส่งทำให้ไม่กล้าที่ยิ้ม และมีปัญหาด้านบุคลิกภาพ ดังนั้น จากปัญหาดังกล่าว ผู้เขียนจึงได้ไปปรึกษาคุณหมอ และเลือกที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยวิธีการที่เรียกว่า "การจัดฟัน" หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า orthodontics ... โดยเลือกวิธีการจัดฟันแบบโลหะธรรมดา ซึ่งการจัดฟันแบบโลหะธรรมดา ต้องไปพบคุณหมอเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อปรับเครื่องมือจัดฟัน ในการแก้ปัญหาฟันห่าง ในบทความนี้ผู้เขียนจะมาแชร์ ประสบการณ์ข้อควรระวังของคนจัดฟัน ที่ผู้เขียนได้เจอมากับตัวเอง เผื่อไว้เป็นข้อมูลให้ เพื่อน ๆ ที่กำลังจะจัดฟัน ได้มีข้อมูลเผื่อไว้ในอนาคต... ภาพจาก freefix ภายหลังจากที่ติดเครื่องมือโลหะเรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่คนจัดฟันต้องเจอคือ อาการระบมไปทั้งปาก เนื่องจากการบีบรัดของเครื่องมือจัดฟัน อาการระบมปาก จะหายไปเมื่อผ่านประมาณ 1 สัปดาห์ คราวนี้สิ่งที่ต้องระมัดระวังมาก ๆ นั่นคือ การเลือกอาหารการกิน อาหารโปรดทั้งหลายที่เคี้ยวยาก หรือผลไม้ที่ค่อนข้างแข็ง คนจัดฟันควรระมัดระวังให้มาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะรับประทานอะไรไม่ได้เลย อาจจะใช้วิธีแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ และค่อย ๆ เคี้ยว สัปดาห์แรกของการจัดฟัน ผู้เขียนเลือกทานผลไม้ที่ทำให้ต้องจำผลไม้ชนิดนี้ไปอีกนาน นั่นคือ ฝรั่ง กัดฝรั่งปุ๊บ เครื่องมือที่ดัดฟันก็หลุดออกจากฟันทันที จัดฟันไม้ถึง 1 สัปดาห์ ก็ต้องรีบกลับไปหาคุณหมอเพื่อติดเครื่องมืออีกครั้ง จำไว้ว่า โดนคุณหมอดุยกใหญ่เลยทีเดียว ภาพจาก freefix ข้อควรระวังต่อมา คือเรื่องของการทำความสะอาดฟัน ต้องบอกว่า ก่อนหน้าที่จะจัดฟัน ผู้เขียนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดฟัดเท่าที่ควร คือ ไม่ได้สนใจว่าการแปรงฟันที่ถูกต้องนั้น จะต้องทำอย่างไร และต้องใช้ระยะเวลานานเท่าไร แต่ภายหลังจากที่เริ่มดัดฟันฟัน คำแรกที่คุณหมอบอก คือ แปรงฟันนาน ๆ เนื่องจากการจัดฟันแบบโลหะนั้น จะทำให้เรามีโอกาสสะสมเศษอาหารได้มากกว่าปกติ และหากแปรงฟันไม่สะอาด และไม่นานเท่าที่ควร สิ่งที่จะตามมาคือ ปัญหากลิ่นปากอันเนื่องมาจากเศษอาหาร นั่นเอง อาจเลือกแปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ และใช้ไหมขัดฟันทุกครั้ง ภาพจาก freefix และข้อแนะนำสุดท้ายที่อยากจะมาแชร์นั่นคือ การให้ความสำคัญกับการพบคุณหมอ ที่ต้องบอกว่า เราต้องให้ความสำคัญของนัดพบคุณหมอ คือ ผู้เขียนเห็นเพื่อน ๆ หลายคน มักจะเลื่อนนัด หรือไปพบคุณหมอช้ากว่ากำหนด ซึ่งอาจจะทำให้การแก้ไขปัญหาฟันของเรานั้น ช้ากว่าที่กำหนดไว้ เพราะการจัดฟันนั้น คนไข้แต่ละคนมักจะมีปัญหาแตกต่างกัน ดังนั้น การที่คุณหมอนัดพบ นั่นหมายความว่า ถึงเวลาที่ต้องขยับเครื่องมือหรือปรับวิธีการรักษา เพื่อให้แก้ไขปัญหาฟันของเราได้ตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้น อีกทั้งคุณหมอจะได้ช่วยดูในเรื่องของความสะอาดของเครื่องมือ และอาจจะมีการขูดหินปูนร่วมด้วย เพราะฉะนั้น หากเลือกที่จะจัดฟันแล้ว เพื่อน ๆ ต้องพบคุณหมอให้ตรงเวลา และปฏิบัติตามคำแนะนำที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด จากข้อแนะนำและประสบการณ์การจัดฟันของผู้เขียน คงจะเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่จะทำให้ผู้ที่กำลังจะจัดฟันได้ทราบ และปัจจุบันผู้เขียนพบว่า มีการจัดฟันแฟชั่นราคาถูกจำนวนมาก อย่าลืมว่าการรักษาฟัน โดยการจัดฟัน มีความจำเป็นต้องใช้แพทย์เฉพาะทางที่ชำนาญการ การที่เพื่อน ๆ เลือกไปจัดฟันแฟชั่น ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะนำมาซึ่งโรคภัยทางช่องปากที่รุนแรงได้ในอนาคต