ภาพปกจากเว็บไซต์ freepik โรคบูลิเมีย (Bulimia) หรือที่เรียกกันว่า โรคล้วงคอ เป็นโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ คนที่เป็นโรคบูลิเมียอาจมีอาการติดสุรา ร่วมกับการรับประทานอาหารในปริมาณมากโดยไม่สามารถควบคุมได้ จากนั้นพยายามที่จะกำจัดแคลอรี่ส่วนเกินด้วยการทำให้อาเจียนหรือใช้ยาระบายในทางที่ผิดหรือบางคนอาจมีการใช้ยาลดน้ำหนัก รวมทั้งการอดอาหารหรือการออกกำลังกายที่มากเกินไปทำให้ร่างกายเกิดภาวะช็อกและมีโรคแทรกซ้อน อาการของโรคบูลิเมีย ได้แก่ - รู้สึกกังวล หมกมุ่นอยู่กับรูปร่างและน้ำหนัก - รับประทานอาหารปริมาณมากผิดปกติหลายครั้ง - ดื่มสุราในปริมาณมากผิดปกติโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ - ล้วงคอ บังคับให้อาเจียนเพื่อไม่ให้น้ำหนักเพิ่ม - ใช้ยาขับปัสสาวะหรือยาระบายหลังจากรับประทานอาหาร - อดอาหารหรือหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด - ใช้ยาลดน้ำหนักหรือยาสมุนไพรในปริมาณมาก - ออกกำลังกายมากเกินไป ภาพจากเว็บไซต์ freepik สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง สาเหตุที่แท้จริงของโรคบูลิเมียนั้นไม่เป็นที่แน่ชัด แต่อาจมีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการด้านการรับประทานอาหาร รวมถึงสภาพแวดล้อมและความคาดหวังทางสังคมที่มีค่านิยมในการลดความอ้วนแบบผิด ๆ หรือสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับโรคกลัวอ้วน ซึ่งปัจจัยเสี่ยงมักจะเป็นเด็กหญิงและผู้หญิงมีแนวโน้มจะเป็นโรคบูลิเมียมากกว่าผู้ชาย โดยเริ่มในช่วงวัยรุ่นตอนปลายหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคบูลิเมีย - มีปัญหาในเชิงลบเกี่ยวกับความสัมพันธ์และการทำงานในสังคม - การสูญเสียน้ำในร่างกายที่ก่อให้เกิดภาวะไตวาย - ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดปกติหรือภาวะหัวใจล้มเหลว - อาการบวมที่ใบหน้า มือและเท้า - ฟันผุอย่างรุนแรงหรือโรคเหงือก - ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ - ความวิตกกังวลและโรคซึมเศร้า - ทำร้ายตัวเองหรือมีความคิดที่อยากฆ่าตัวตาย ภาพจากเว็บไซต์ freepik การไปพบแพทย์และการรักษา ระดับความรุนแรงของโรคบูลิเมียจะขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งต่อสัปดาห์หรือมีอาการผิดปกติสัปดาห์ละครั้งเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน โดยหากเริ่มมีอาการมากขึ้นเรื่อย ๆ ให้ไปพบแพทย์โดยทันที หากปล่อยทิ้งไว้สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณอย่างรุนแรง ในการรักษาให้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญที่ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเกี่ยวกับอาการและความผิดปกติของโรคบูลิเมีย หากคุณรู้สึกลังเลที่จะเข้ารับการรักษาให้พาครอบครัวหรือคนที่คุณไว้ใจไปด้วยเพื่อช่วยสนับสนุนและดูแลซึ่งกันและกัน โดยโรคบูลิเมียสามารถรักษาได้ดังนี้ ภาพจากเว็บไซต์ freepik - การใช้จิตบำบัด เป็นการปรึกษากับจิตแพทย์เพื่อทำการรักษาร่วมกัน โดยมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ป่วยให้รู้ถึงผลเสียของการลดน้ำหนักที่มากเกินไป รวมทั้งการบำบัดร่วมกับครอบครัวให้มีความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วย รวมทั้งการเป็นที่ปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพและการควบคุมการรับประทานอาหารของผู้ป่วย - การให้ความรู้ด้านโภชนาการ ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาหารที่ควรรับประทานและการควบคุมปริมาณของอาหารในแต่ละวันเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย - การใช้ยารักษา สำหรับในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอาจจะต้องให้ยารักษาประเภทเดียวกับกลุ่มยาที่ใช้รักษาโรคซึมเศร้า เนื่องจากเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับอาการทางจิตร่วมด้วย ซึ่งช่วยลดระดับความรุนแรงของโรคบูลิเมียได้