สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสมาชิกทุกท่านค่ะ... เมื่อรักเข้ามา ไม่ถูกที่ ไม่ถูกเวลา เรียกว่า รักผิดจังหวะ แล้วเราต้องจัดการอย่างไร คือ หัวข้อที่เราจะมาไขข้อข้องใจกันในวันนี้ ไปอ่านกันค่ะ... 7 วิธีจัดการ รักผิดจังหวะความรักเป็นเรื่องความรู้สึกของคน 2 คน ที่ได้ชอบได้รู้สึก ได้ศึกษาดูใจกัน แต่ต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย อย่าทำให้ใครต้องเสียใจ เพียงเพราะเราเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้ง ให้แคร์ความรู้สึกคนรักของตนเองด้วย และมีศักดิ์ศรีในตัวเองค่ะ เช่น บางคนมีคนรักอยู่แล้ว แต่มีคนเข้ามาชอบ แล้วคนที่เข้ามาก็มีคุณสมบัติที่ดี ที่น่าถูกตาต้องใจ ก็อาจทำให้ไขว้เขวได้ หรือว่าการไปแอบรักคนที่มีเจ้าของแล้ว เพราะรู้สึกว่าเค้าน่ารัก นิสัยดี แม้จะมีคนทำให้หัวใจเต้นแรง มีคนทำให้รู้สึกดี แต่เมื่อความชอบ ความประทับใจ ความรัก เข้ามาผิดจังหวะ แล้วควรทำอย่างไร...เรามี 7 วิธี มาแนะนำ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการ ได้แก่1.มีสติ การมีสติสำคัญมากในชีวิตของเราเป็นอันดับแรกเลยค่ะ การดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูก ที่ควร ไม่ว่าจะทำอะไรก็ควรมีสติ คิดในสิ่งที่ดี เรื่องดีๆ ก็จะเกิดขึ้น ...ทุกคนมีอิสระทางด้านความคิด และการกระทำ แต่การจะทำอะไรนั้น ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องด้วย ถูกต้องในแง่ของศีลธรรม ความดีงามค่ะ เมื่อเราทุกคนยึดถือศีล 5 ยึดหลักคำสอนของศาสนาพุทธ ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งทางใจแล้ว เวลาคิดจะทำอะไร เราก็จะตระหนักในบาป บุญ มีความละอายต่อบาป บุญ คุณ โทษ ไม่กล้าทำในสิ่งที่ไม่ดีและอย่าเอาแต่ใจตนเอง ควรนึกถึงจิตใจผู้อื่นด้วย แบบใจเค้าใจเราค่ะ2.หลีกเลี่ยง เมื่อเรารู้แล้วว่า ถ้าเริ่มแล้วจะจบอย่างไร ก็อย่าเริ่มดีกว่า หลีกเลี่ยงค่ะ ไม่ต้องเสียเวลาทำความรู้จักกัน ทำใจ ตัดใจให้ได้ ถ้าไม่เอาตัวเข้าไปใกล้ หรือไปเกี่ยวข้อง วันข้างหน้าก็จะไม่เจ็บปวด ไม่เกิดความคับข้องใจค่ะ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกอึดอัดใจ ควรหลีกหนีจากสถานการณ์นั้นค่ะ อย่าเอาตัวเข้าไปใกล้กับความทุกข์ อย่าทำให้ตนเองต้องเป็นทุกข์3.ปล่อยวาง ความคิดและการกระทำที่สามารถปรับใช้ได้กับทุกเรื่องจริงๆ ค่ะ การปล่อยวางเนี่ยแม้บางครั้งทำได้ยาก แต่ก็ควรทำให้ได้ค่ะ ก็เพื่อตัวเอง ...ควรปล่อยวางให้ได้ อย่ายึดติดกับอะไรที่ไม่ใช่ เพราะว่าคนที่ใช่ สิ่งที่ใช่ จะมาในเวลาที่ใช่ค่ะ แต่เมื่อเข้ามาในเวลาที่ไม่ใช่ คือจังหวะชีวิตไม่ตรงกัน ก็ให้ทำใจ ยอมรับความจริงให้ได้ แล้วก็อยู่กับปัจจุบัน ...การเดินทางของเรายังอีกยาวไกลค่ะ ในชีวิตเรายังต้องพบเจอคนอีกมากและมีเรื่องราวหลากหลายที่อยู่ข้างหน้าค่ะ4.อดทน คือ ต้องอดทน อดกลั้น ทำใจให้ได้ ตัดใจค่ะ อดทนกับความรู้สึกที่กำลังเป็นอยู่ ในหลายๆ ความรู้สึกและอดทนกับสถานการณ์ที่แม้จะยากลำบาก แต่ก็ต้องควบคุมใจ ควบคุมความคิด และการกระทำให้ได้ ให้อยู่บนพื้นฐานความถูกต้องค่ะ อดทนตั้งแต่วันนี้ ดีกว่าต้องเจอความทุกข์ ความเจ็บปวดที่อยู่ข้างหน้านะคะ เพราะเรารู้แล้วว่าหนทางเป็นอย่างไร ก็ควรรีบจัดการตนเองให้ได้ค่ะ5.คิดในเชิงบวก อย่าบั่นทอนจิตใจตนเอง หรือจมกับความโศกเศร้า เสียใจ ...แต่ให้ลุกขึ้นมา พยายาม ปรับความคิดตนเอง มองสิ่งดีๆ บนโลกใบนี้ยังมีอีกเยอะที่ให้ทำ หากิจกรรมทำ เรียนรู้อะไรที่น่าสนใจเพิ่มเติม พัฒนาตนเองและอยู่กับเพื่อนบ้าง คุยกับเพื่อน มีสังคม ก็จะปรับตัวไปได้เองค่ะ คิดซะว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นธรรมดา ที่ทุกคนอาจจะได้พบเจอ แล้วก็ปล่อยผ่านไปค่ะ อย่าเก็บมาคิดมาก เป็นกังวล ทำใจให้สบาย6.มูฟออน ไปต่อให้ได้มูฟออนให้ไวค่ะ อย่ามูฟออนเป็นวงกลมนะคะ มูฟให้ได้จริงๆ อย่าเผลอตัว ถอยหลังไปนะคะ ให้เดินต่อไปข้างหน้าให้ได้ เชื่อมั่นค่ะว่าสิ่งดีๆ รอเราอยู่อีกเยอะในหนทางข้างหน้า ยิ้มให้ได้ค่ะ ยิ้มให้กับตนเอง ให้ความความแข็งแกร่งของเรา เราทำได้ ...เรื่องที่เจอวันนี้ พอวันพรุ่งนี้ก็เป็นเรื่องเก่าเป็นเรื่องในอดีตไปแล้วค่ะ เวลาเคลื่อนไปเร็วหรือช้าอยู่ที่วิธีคิดของเรา7.ให้โฟกัสอย่างอื่น เบี่ยงเบนความสนใจของตนเองค่ะ จะได้ไม่จดจ่อหรือคิดมากเรื่องที่ทำให้ต้องทุกข์ใจ ...ให้เปลี่ยนไปหาอย่างอื่นโฟกัสแทน ทำในกิจกรรมที่ตนเองชื่นชอบ และควรทำค่ะ เช่น โฟกัสในเรื่องงาน ก็ให้ตั้งใจทำงาน เอาใจใส่กับงานที่ทำ จะได้ไม่มีเวลาไปคิดฟุ้งซ่านค่ะ ทำตัวให้มีอะไรทำเข้าไว้ค่ะ หรือว่าไปโฟกัสการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย ก็ช่วยให้เพลิดเพลิน เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สุขภาพร่างกายแข็งแรง ช่วยทำให้ผ่อนคลาย คลายเครียด สนุก และมีความสุขด้วยค่ะ จากประสบการณ์ผู้เขียนสิ่งที่ทำ: ทำกิจกรรมที่ชอบ ทำงานอดิเริกในเวลาว่าง ได้แก่ อ่านหนังสือ ฟังเพลง เล่นกีฬาออกกำลังกาย เดิน ปั่นจักรยาน ดูธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ ท้องฟ้า และทำสมาธิทำจิตใจให้สงบ เวลาแว้ปคิดอะไรไม่ดีก็ตั้งสติ ดึงสติกลับมา ผลที่ได้: ความคิดฟุ้งซ่านน้อยลง เพราะว่ามีสติ มีจิตใจที่สงบ การออกกำลังกายช่วยให้สุุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้น ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข ทำให้มีความสุข สดชื่น เบิกบานและยิ้มได้ในทุกวันจาก 7 ข้อ ที่ได้กล่าวไปแล้ว ก็เป็นแนวทางที่อยากแนะนำนะคะ ให้ทุกคนผ่านเรื่องนี้ไปได้ อย่างราบรื่น อย่าเอาปัญหามาเป็นอุปสรรคของชีวิตค่ะ ให้คิดซะว่าเป็นประสบการณ์ให้เราได้เติบโตขึ้น ...ส่วนตัวเราก็ผ่านเรื่องราวในชีวิต มีประสบการณ์มาพอสมควรค่ะ เรื่องที่ดีก็มี เรื่องที่ไม่ดีก็มีเข้ามาค่ะ ทุกข์ สุข สลับกันไปเป็นปกติ เราจึงอยากแบ่งปันเรื่องราวในหัวข้อนี้ ก็เพื่อให้ผู้ที่กำลังเผชิญอยู่ หรือผู้ที่ยังไม่เคยเผชิญได้เรียนรู้และนำแนวทางไปปรับใช้ ให้เหมาะสมกับตนเองนะคะ เพื่อใช้ชีวิตอย่างมีความเป็นปกติสุขค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ด้วยความปรารถนาดีและความห่วงใยจากใจค่ะ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะหัวข้อนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ สิ่งที่เราตั้งใจทำคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่าน ถ้าชื่นชอบกดติดตามได้นะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในหัวข้อถัดไปค่ะเครดิตเครดิตเว็บแต่งภาพ: canva.comเครดิตภาพ:ภาพปก: aalmeidah/Pixabay.comภาพที่ 1: Allinoch/Pixabay.comภาพที่ 2: leninscape/Pixabay.comภาพที่ 3: sweetlouise/Pixabay.comภาพที่ 4-5: ภาพของผู้เขียนบทความที่น่าสนใจของผู้เขียน อยากแนะนำให้อ่านนะคะ...https://news.trueid.net/detail/NXYWPBbBw1lxhttps://news.trueid.net/detail/oK05LYvExJYqhttps://news.trueid.net/detail/b6nR9WloWlr6https://news.trueid.net/detail/vMVB15emoQ9Mhttps://news.trueid.net/detail/Lbx4yAJE15yb เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !