8 วิธีเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง ให้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ / บทความโดย Pchalisaถึงแม้ว่าเราจะรู้มาว่าการออกกำลังกายเป็นประจำ มีประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพกายและจิตใจก็ตาม แต่หลายคนก็มักเจออุปสรรคว่าไม่สามารถสร้างนิสัยนี้ได้อย่างต่อเนื่อง จริงไหมคะ? จริงๆ ปัญหานี้ผู้เขียนเองก็เคยประสบมาก่อนเหมือนกันค่ะ แต่ในตอนหลังมาซึ่งก็นานพอสมควรจนลืมแล้ว ที่ตัวผู้เขียนเองได้ทำตัวเองให้มีนิสัยออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอได้ตลอด ลองมาเยอะเหมือนกันค่ะ จนมาจับทิศทางได้ว่าจริงๆ แล้วนั้นการที่เราจะทำตัวเองให้มีนิสัยนี้ได้ มันไม่ได้ยากจนเกินไปนัก แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แบบชั่วข้ามคืนซึ่งประเด็นที่ว่าเรื่องนี้มันยากยังไง! คุณผู้อ่านคงจะพอมองภาพออกมาบ้างแล้ว แต่เรื่องที่ว่ามันจะง่ายและมันเป็นไปได้นั้น การจะเป็นแบบนั้นได้ก็ต่อเมื่อคุณผู้อ่านได้ลองนำวิธีการในบทความนี้ไปใช้ค่ะ เพราะผู้เขียนเองที่มีนิสัยออกกำลังกายต่อเนื่องได้ ก็เพราะรู้เคล็ดลับในบทความนี้มาก่อน และนำมาใช้เองจนเห็นผลซึ่งตอนนี้ก็ยังเป็นคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเหมือนเดิมค่ะ โดยในตอนแรกก็ยากแต่พอค่อยๆ นำไปปรับใช้จนเจอจุดที่พอดีๆ กับตัวเอง มารู้ตัวอีกทีความยากหายไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ และทำไปทำมาทำต่อเนื่องจนตอนนี้กลายเป็นความธรรมดาปกติในชีวิตไปแล้ว พูดมาเยอะแล้ว... อยากรู้ไหมคะว่าเราจะต้องทำยังไงดี? งั้นเรามารู้ไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าว่าวิธีเปลี่ยนตัวเองให้มารักการออกกำลังกายได้มากขึ้น ทำไงดี!1. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนการออกกำลังกายก็เหมือนอีกหลายๆ เรื่องในชีวิตเราค่ะ ที่ต้องเริ่มต้นด้วยการมีเป้าหมายก่อน พอมีเป้าหมายแล้วแรงจูงใจก็จะตามมา ที่อาจเป็นการลงมือทำจากจุดเล็กๆ ที่ทำได้จริงไปก่อน เช่น เดิน 30 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และเมื่อบรรลุเป้าหมายนั้นแล้ว ก็ค่อยๆ ปรับให้ยากและท้าทายมากขึ้น โดยสำหรับผู้เขียนก็มีเป้าหมายว่าออกกำลังกายวันละ 5-10 นาที ในทุกวันค่ะ ซึ่งถ้าวันไหนได้ทำมากกว่านี้ก็ถือว่าเป็นกำไรไปค่ะ ซึ่งในช่วงนี้จะออกกำลังกายด้วยการทำโยคะเป็นหลัก2. เลือกกิจกรรมที่ชอบเนื่องจากว่าอะไรที่เราชอบเราก็จะทำสิ่งนั้นได้นาน ไม่รู้สึกว่าบังคับตัวเองให้ออกกำลังกาย เราจะสนุกและอยากทำมากขึ้น พอเป็นแบบนี้ก็เลยสามารถเสพติดการออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็ต้องดูค่ะว่าเราชอบอะไร ที่ไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่แค่ในฟิตเนสก็ได้ อาจเป็นการเลือกกิจกรรมที่เราสนุกมาเป็นกิจกรรมสำหรับออกกำลังกายเลย เช่น เต้นรำ ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน เป็นต้น โดยส่วนตัวผู้เขียนแล้วชอบไปปั่นจักรยาน และทำสวนก็ชอบค่ะ ซึ่งงานอดิเรกแบบนี้ก็สามารถนำมาเป็นกิจกรรมในการออกกำลังกายแบบสะสมแคลอรีได้นะคะ3. หาเพื่อนร่วมออกกำลังกายการมีเพื่อนร่วมออกกำลังกายไปด้วยกัน ก็ถือว่าเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่กระตุ้นให้เรากระตือรือร้นมากขึ้นค่ะ เพราะเขาจะช่วยให้เรามีแรงจูงใจและสนุกกับมันมากขึ้นด้วย และบางทีผลลัพธ์ที่เขาได้รับจากการออกกำลังกายก็ยังสามารถมาเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากเป็นแบบนั้นด้วย ที่ก็ต้องบอกว่าจริงค่ะ การมีแฟนที่รักการออกกำลังกายก็ช่วยได้นะคะ เพราะเขาจะมากระตุ้นเราอย่างมาก สำหรับผู้เขียนนั้นต้องบอกว่าเป็นคนที่ผ่านจุดนั้นมานานมากแล้วค่ะ คือตอนนี้ไปออกกำลังกายได้คนเดียวแบบไม่คิดนาน แต่โดยส่วนตัวลองใช้แนวทางนี้กับเพื่อน ก็พบว่าเพื่อนก็เริ่มหันมาเอาจริงเอาจังกับการออกกำลังกายค่ะ4. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมหลายครั้งผู้เขียน พบว่า การที่เราเบื่อการออกกำลังกายมันเกิดจากการที่มีความไม่พร้อมเกิดขึ้น และความไม่พร้อมด้านอุปกรณ์ก็เป็นจุดที่ทำให้คนเราหาทางถอยได้ง่ายๆ ค่ะ ดังนั้นการมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมและพร้อม ก็เป็นจุดสำคัญที่ทำให้ลงมือทำมากขึ้นด้วย เช่น รองเท้า เสื้อผ้าและอุปกรณ์ออกกำลังกายอื่นๆ ที่เป็นไปได้ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณผู้อ่านรู้สึกว่าอยากขยับร่างไปออกกำลังกายมากขึ้นได้จริงค่ะ ซึ่งผู้เขียนก็เริ่มจากการเตรียมความพร้อมด้านรองเท้าเท่านั้นในช่วงแรกๆ ตอนหลังมาก็เริ่มเพิ่มอุปกรณ์แปลกใหม่ตามที่จะหาได้ ซึ่งบางอย่างก็ลงมือทำขึ้นด้วยตัวเองค่ะ5. กำหนดเวลาว่ากันว่าที่เราไม่ออกกำลังกายประจำนั้น มันไม่ใช่เรื่องของการไม่รู้วิธีออกกำลังกายค่ะ แต่ปัญหานี้มีต้นตอมาจากการที่เรายังไม่ได้ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเท่าที่ควร หรือเราไปให้ความสำคัญไว้ท้ายๆ พอเป็นแบบนี้ความที่จะเอามาใส่ใจมาลงมือทำก็ห่างเหินค่ะ แต่ถ้าเราหันมาวางแผนล่วงหน้าว่าจะออกกำลังกายเมื่อไหร่ แทรกกิจกรรมเข้าไปในตารางชีวิตประจำวันของเราเหมือนนัดหมายกับใครสักคน แบบนี้จะทำให้เราได้ออกกำลังกายมากขึ้นได้จริงค่ะ โดยในส่วนของผู้เขียนนั้นมักออกกำลังกายหลังตื่นนอนในตอนเช้าเป็นหลักสำหรับช่วงนี้นะคะ ซึ่งก็จะปรับเปลี่ยนไปบ้างเพื่อให้สอดคล้องกับเวลาของตัวเอง แต่ไม่เคยขาดหายแบบทำสามวันหายไปสามเดือนเลย เพราะจะกำหนดไว้สำหรับตัวเองตลอดว่าต้องออกกำลังกาย 6. เริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปการออกกำลังกายแบบต่อเนื่องไม่ต้องทำอย่างหักโหมจนร่างกายไปไม่รอดค่ะ แต่ให้เริ่มต้นจากกิจกรรมที่ง่ายๆ ก่อน จากนั้นค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาและความยากของกิจกรรมนั้นที่เรานำมาออกกำลังกาย ทำแบบนี้ได้เราจะไม่รู้สึกว่าเป็นภาระค่ะ คืออะไรก็ตามแต่พอเป็นภาระเราเลิกแน่นอนมันชัดเจนอยู่แล้ว อย่างในกรณีของผู้เขียนนั้นก็เริ่มจากออกกำลังกายครั้งละ 1-2 วันก่อนค่ะ จากนั้นเพิ่มจำนวนวัน เพิ่มกิจกรรมใหม่ๆ แทรกกิจกรรมหนักเข้าไปบางช่วง เช่น ปั่นจักรยาน วิ่งต่อเนื่อง 10 นาที เป็นต้น จนตอนนี้ออกกำลังกายได้ตลอด แล้วก็ยังใช้หลักการนี้อยู่นะคะ โดยตอนนี้ก็คือหมุนเวียนสับเปลี่ยนการออกกำลังกายด้วยอุปกรณ์ที่มี อยู่ เช่น ตอนแรกยกน้ำหนัก 20 ครั้ง จนตอนนี้ทำได้ 40 ครั้งค่ะ7. ออกกำลังกายกลางแจ้งเพื่อสัมผัสธรรมชาติเรื่องนี้ช่วยได้ค่ะ เพราะตัวผู้เขียนก็ลองทำมาแล้ว คือตอนที่เราไปรับลมเย็นๆ เห็นวิวสวยๆ เราจะรู้สึกดี ผ่อนคลายและชอบบรรยากาศแบบนั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอได้ไปออกกำลังกายเลยทำให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่อและดูมีชีวิตชีวิตมากขึ้นด้วย ยิ่งไปเจอกลุ่มคนที่รักสุขภาพมาออกกำลังกายแถวนั้นอีก ยิ่งโดนกระตุ้นหนักและอยากออกกำลังกายมากขึ้นค่ะ ซึ่งสถานที่ๆ ผู้เขียนชอบไปบ่อยๆ ก็คือ ทุ่งนาใกล้บ้านและสวนสุขภาพ8. จดบันทึกความก้าวหน้าความก้าวหน้าคือกุญแจดอกสำคัญของการทำอะไรได้นานขึ้นค่ะ การหันมาจดบันทึกว่าเราออกกำลังกายอะไร เมื่อไหร่และทำได้นานแค่ไหน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถติดตามความก้าวหน้าได้ และเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ จึงอยากทำสิ่งนั้นมากขึ้น และมันจริงมากค่ะ คล้ายเราเล่นเกมที่อยากไปให้ถึงเส้นชัย เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ผู้เขียนก็กดเข้าร่วมกิจกรรมการเดินค่ะ ก็พบว่ามันกระตุ้นให้เราอยากเดินมากขึ้นได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายแอปที่สามารถทำได้ โดยผู้เขียนเลือกใช้แอป Samsung Health เพราะครอบคลุมทั้งการจดบันทึกความก้าวหน้าของการออกกำลังกาย โปรแกรมการออกกำลังกายและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพค่ะและทั้ง 8 วิธีนั้นเป็นวิธีการที่ผู้เขียนได้นำมาใช้กับตัวเองค่ะ เป็นยังไงบ้างคะ? พอจะมองเห็นภาพกันหรือเปล่า คือยังไงก็ต้องลองนำไปปรับใช้ก่อนค่ะ การลงมือทำเท่านั้นที่จะบอกได้ โดยแนวทางในเนื้อหาของบทความนี้จะช่วยทำให้เราทำให้การออกกำลังกายเกิดได้ง่ายขึ้น พอทำซ้ำๆ ทำแล้วอีกทำอีก สุดท้ายสิ่งนี้ก็จะกลายเป็นนิสัยของเรา และว่าด้วยเรื่องนิสัยถ้าเราเลิกทำก็จะหายไปเลยนะคะ เพราะนิสัยไม่เหมือนแขนขาที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด ดังนั้นต่อให้เราออกกำลังกายประจำแล้ว เราก็ยังต้องหาทางออกกำลังกายไปตลอดค่ะ เพียงแต่ต้องปรับเปลี่ยนกิจกรรมและเป้าหมายให้สอดคล้องกับพื้นฐานสุขภาพของเราในตอนนั้นเท่านั้นเองและอีกอย่างคือจำไว้ว่าการออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องน่าเบื่อ ยังไงก็อย่าลืมหาสิ่งที่ชอบและสนุกสำหรับตัวเอง หมั่นให้รางวัลกับตัวเองเมื่อทำได้สำเร็จ และสามารถฟังเพลงขณะออกกำลังกายได้ถ้าชอบค่ะ เพียงเท่านี้คุณผู้อ่านก็สามารถสร้างนิสัยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอได้แล้ว ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่าน และถ้าชอบบทความแบบนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ😊เครดิตภาพประกอบบทความภาพหน้าปก โดย Jonathan Borba จาก Pexelsภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1 โดย Guduru Ajay bhargav จาก Pexels, ภาพที่ 2 โดยผู้เขียน และภาพที่ 3-4 จากแอป Samsung Health ออกแบบภาพหน้าปกใน Canvaเกี่ยวกับผู้เขียนภัคฒ์ชาลิสา จำปามูลศึกษาเกี่ยวกับ: พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://intrend.trueid.net/post/312145 https://intrend.trueid.net/post/372862 https://intrend.trueid.net/post/325690 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !