⚾เปตอง...ยอดฮิตของคนไทยนำมาเล่นเพื่อสุขภาพของคนในครอบครัว🐤🐤 เปตอง เป็นกีฬาที่นิยมเป็นอย่างมากเพราะเป็นกีฬาที่ทางหน่วยงานรัฐจัดให้นักเรียนและผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน เล่นเป็นกิจกรรมยามว่าง ให้เกิดความสามัคคีและลดความเครียดจากการเรียนและจากการทำงาน ทุกวันนี้เลยเป็นกีฬาที่มีไว้สำหรับการแข่งขันกันในหมู่เพื่อนด้วยกันและในสังคมการทำงานซึ่งเป็นที่สนุกมาก โดยอุปกรณ์ที่สำคัญ คือ มีลูกเปตองหรือที่เขาเรียกกันว่าลูกบลู จำนวน 12 ลูก เราจะพาทุกคนมารู้จักที่มาของเปตอง วิธีการเล่นเปตองกันว่าเป็นแบบไหน พร้อมกับประโยชน์ของการเล่นเปตองว่าดีกับสุขภาพอย่างไรบ้าง ภาพโดย pixabay เปตอง เป็นกีฬาที่มีมานานแล้วตั้งแต่สมัยอดีต จุดกำเนิดจริง ๆ ของกีฬาชนิดนี้ คือ กรีซ เมื่อประมาณ 2,000 ปีมาแล้วและถูกโรมันยึดครองอำนาจต่อมาโรมันเลยนำกีฬาชนิดนี้ออกมาเล่นพร้อมเผยแพร่ให้คนอื่นได้เล่นกันและเกิดความนิยมเล่นเปตองเป็นวงกว้างในยุโรป ยกย่องให้กีฬาชนิดนี้ถูกพัฒนาและใช้เป็นกีฬาสำหรับการแข่งขัน แบ่งออกเป็น 3 ประเทศ คือ - ประเภทเดี่ยว - ประเภทคู่ - ประเภททีม ภาพโดย pixabay คนส่วนใหญ่นิยมเล่นเปตองเป็นทีมเพราะมีความสนุกมากกว่าเล่นเดี่ยวและคู่ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการเล่นเปตอง ที่ต้องมี 4 อย่าง คือ 1. สนาม = ควรมีขนาด 4 X 15 เมตร และพื้นที่สำหรับเปตองควรเป็นพื้นดินหรือพื้นที่สามารถโดนแรงกระแทกของลูกเปตองได้แล้วไม่แตก ส่วนพื้นปูน และพื้นหญ้าไม่เหมาะสมที่จะเป็นสนามสำหรับเล่นเปตอง 2. ลูกบลูหรือเป็นที่รู้จักว่าลูกเปตอง = มีลักษณะเป็นรูปทรงกลมทำด้วยโลหะภายในกลวง มีขนาดน้ำหนัก 650 - 800 กรัม และในการเล่นจะมีจำนวนลูกบลูทั้งหมด 12 ลูก 3. ลูกเป้า = เป็นลูกทรงกลมขนาดเล็กควรทาสีที่มองเห็นได้ชัด เช่น สีส้มและมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 25 - 35 มิลลิเมตร 4. ตลับเมตร = เอาไว้ใช้วัดระยะทางระหว่างลูกเป้าและลูกบลู ภาพโดย pixabay วิธีในการเล่นเปตอง 1. แบ่งฝ่ายผู้เล่นออกเป็น 2 ทีม ทีมละเท่ากัน 2. ตีเส้นในการโยนลูกบลูเพื่อไม่ให้มีใครเอาเปรียบกัน 3. ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนโยนลูกเป้าลงบนพื้นสนามให้ไกลในระยะ 1 ใน 3 ส่วนของสนาม 4. แล้วให้ฝ่ายที่โยนลูกเป้าโยนลูกบลูให้ใกล้ลูกเป้ามากที่สุด เพื่อจะได้คะแนนและเปลี่ยนให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นคนโยนต่อ 5. เมื่อฝ่ายตรงข้ามโยนลูกบลูไปแล้ว ถ้า ใกล้ลูกเป้ามากกว่า ต้องเปลี่ยนให้อีกฝ่ายเป็นคนโยนลูกบลูต่อ แต่ถ้าโยนแล้วไกลจากลูกเป้าก็ต้องโยนลูกบลูต่อจนกว่า จะใกล้ลูกเป้ามากกว่าฝ่ายตรงข้าม 6. ถ้าโยนจนหมดลูกแล้ว โดยที่ลูกบลูยังไม่ใกล้ลูกเป้าจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้ 1 คะแนน จะคิดคะแนนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนจบเกม ข้อดีและประโยชน์ของการเล่นเปตอง มีผลดีอย่างไรบ้างกับสุขภาพ - การโยนลูกบลูเป็นการออกกำลังกายในส่วนช่วงไหล่และข้อแขน จะทำให้มีความแข็งแรงขึ้น - เหมือนเป็นการเล่นเวทไปในตัว เพราะลูกบลูมีน้ำหนักเหมาะที่จะนำมาใช้ในการเล่นเวท แต่ควรระวังเท้าด้วย - การเล่นเปตองเป็นการช่วยลดความเครียดจากการทำงานและเป็นการฝึกสมาธิในขณะที่เรากำลังจดจ่ออยู่กับการที่จะทำยังไงให้ลูกบลูเราไปเข้าใกล้ลูกเป้าให้มากที่สุด ยังทำให้เรามีความสนุกในการเล่นจนลืมเรื่องที่เครียดไปได้ - ทำให้เป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีและรู้จักการแพ้-ชนะ ทำให้เป็นคนรับมือกับอารมณ์ในเรื่องต่าง ๆ และยอมรับความจริงได้อย่างดี - ทำให้เป็นคนไม่คิดมากและจิตใจเข้มแข็ง - ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เราได้เดิน วิ่ง ย่อตัวเป็นการบริหารร่างกาย - ทำให้ข้อต่อต่าง ๆ มีความแข็งแรงมากขึ้น - ช่วยทำให้มือ เท้ามีความสัมพันธ์กันมากขึ้น แขนและขามีความสมดุลกันมากขึ้นและ ทำให้ทรงตัวได้ดีขึ้น เปตอง เป็นกีฬาที่กระชับความสัมพันธ์ในหมู่เพื่อนฝูงได้ดี เป็นกีฬาที่ใช้ความแม่นยำและความสามัคคีในทีมที่จะทำให้เกิดความชนะขึ้น กีฬาชนิดนี้จึงเป็นการสอนให้คนรู้จักที่จะรับฟังความคิดเห็นของคนในทีม เช่น จะโยนลูกบลูยังไงให้ใกล้ลูกเป้าได้มากที่สุด ก็ต้องให้เพื่อนไปดูระยะว่าเราควรโยนในลักษณะอย่างไร นี่เป็นการเล่นแบบทีม ช่วยกันประสานและรับฟังกัน เราก็จะทำมันออกมาได้ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเกิดความขัดแย้งขึ้นก็ยากที่จะชนะฝ่ายตรงข้ามได้ กีฬาเปตองนอกจากจะทำให้เกิดความสามัคคีแล้วยังจะทำให้เราได้บริหารร่างกายทุกส่วนไปด้วย ภาพปกโดย pixabay.