สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ MiddleKlin มีแคปชั่นแทนใจคนเศร้า เหงา อกหัก ที่จะช่วยให้เพื่อนๆได้แชร์ความรู้สึกผ่านสตอรี่ IG หรือ Facebook กันนะคะ สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในความรักหรือรู้สึกเศร้า ๆ เหงา ๆ แคปชั่นเหล่านี้เป็นเสมือนการบันทึกความรู้สึกที่เราไม่อยากลืม หรืออาจจะเป็นการบอกกับตัวเองและคนอื่นว่าเราผ่านอะไรมาบ้างค่ะ เพื่อให้เพื่อนๆได้ใช้สื่อสารโพสต์ความรู้สึกออกไปแบบชัดเจนและตรงใจค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการบอกให้คนอื่นรู้ว่าเรากำลังรู้สึกยังไงหรือเพียงแค่ต้องการแชร์ความรู้สึกให้ใครสักคนได้รับรู้ พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ!1. "I’m just going through the motions, like someone without any hope." (ฉันแค่ทำสิ่งเดิมๆ เหมือนคนไร้ความหวัง)ประโยคนี้แสดงถึงความรู้สึกที่คล้ายกับว่าเรามองการใช้ชีวิตโดยไม่มีจุดหมายหรือความหวัง เป็นการบอกถึงความเหนื่อยล้าและเบื่อหน่ายในชีวิต ซึ่งอาจเกิดจากการที่เจอปัญหามากมายจนไม่รู้ว่าจะไปต่ออย่างไร มันเหมือนกับการอยู่ไปวันๆ โดยไม่คาดหวังอะไรจากอนาคต หวังเพียงแค่ให้วันหนึ่งผ่านไปอีกวันเท่านั้น2."In the end, it’s just me left standing." (สุดท้ายแล้วก็เหลือแค่ตัวเราเอง)ประโยคนี้สื่อถึงเมื่อทุกอย่างมันผ่านไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือใครจะอยู่หรือไป สุดท้ายแล้วเราก็เหลือเพียงแค่ตัวเราเองค่ะ มันเป็นการย้ำเตือนว่าเราต้องเข้มแข็งและพึ่งพาตัวเองเป็นหลักนะคะ ถึงแม้จะเหนื่อยแค่ไหนแต่เราก็ต้องยืนหยัดเพื่อดูแลตัวเองค่ะ3."A simple reason for leaving." (เหตุผลสั้นๆของคนจะไป)ประโยคนี้สื่อถึงเหตุผลที่คนๆหนึ่งตัดสินใจจะจากเราไป มักจะเป็นเหตุผลที่ฟังดูสั้นๆ ง่ายๆ แต่เจ็บปวดกว่าที่เราคิดค่ะ บางครั้งการจากลาของคนที่ต้องการจะไปพูดยังไงก็ไปอยู่ดีค่ะ4."Just siblings? That's funny." (แค่พี่น้องเหรอ ตลกดีนะ)ประโยคนี้สื่อถึงสถานการณ์ที่เพื่อนๆอาจจะมีความรู้สึกเหมือนกับว่าเรานั้นมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือระหว่างคนคนหนึ่ง แต่ถูกนิยามไว้เพียงแค่ "พี่น้อง" ซึ่งเป็นอะไรที่ฟังดูตลกหรือไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ค่ะ เหมือนกับว่ามันมีบางอย่างที่มากกว่านั้นแต่ถูกบอกว่าเป็นแค่พี่น้องเฉยๆค่ะ5. "Remembering alone." (จดจำอยู่ฝ่ายเดียว)ประโยคนี้สื่อถึงการที่เรายังคงเก็บความทรงจำหรือความรู้สึกไว้อยู่คนเดียว ในขณะที่อีกฝ่ายอาจจะลืมไปแล้วหรือไม่ได้รู้สึกเหมือนกันค่ะ มันให้ความรู้สึกเหงาและเศร้าเหมือนเรากำลังยึดติดกับอดีตอยู่คนเดียว โดยที่ไม่มีใครรับรู้หรือแบ่งปันความทรงจำนั้นด้วยกับเราค่ะ6."All my feelings are shattered." (ความรู้สึกของฉันมันพังไปหมดแล้วล่ะ)ประโยคนี้สื่อถึ'ความรู้สึกของเราที่มันสิ้นหวังและเจ็บปวดอย่างหนักจนไม่เหลือความรู้สึกดีๆหรือความหวังอะไรเลยค่ะ เหมือนกับว่าความรู้สึกที่เคยมีอยู่ได้พังทลายลงไปหมดแล้ว ทำให้รู้สึกเหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยดีหรือมีความหมายได้แตกสลายไปแล้วสำหรับคนคนหนึ่ง7."It’s incredibly painful." (โครตเจ็บใจเลย)ประโยคนี้สื่อถึงการที่เรารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมากหรือความรู้สึกที่เจ็บใจสุดๆไปเลยค่ะ เป็นการแสดงออกถึงความผิดหวังหรือความเจ็บปวดที่ลึกซึ้งและรู้สึกได้อย่างชัดเจน โดยใช้คำว่า "โครต" เพื่อเพิ่มความรุนแรงของอารมณ์ที่รู้สึกอยู่ค่ะ 8."It should be me." (มันควรต้องเป็นฉัน)ประโยคนี้สื่อถึงความรู้สึกว่าเราควรจะเป็นคนที่ได้รับหรือทำสิ่งนั้นแทนคนอื่นค่ะ อาจจะเป็นความรู้สึกว่ามีสิ่งที่เราคิดว่าต้องเป็นของเราหรือสิ่งที่เราควรจะได้รับ แต่กลับไปตกอยู่กับคนอื่นทำให้รู้สึกผิดหวังหรือไม่ยุติธรรมค่ะ9."You’d be just fine without me." (ไม่มีฉันเธอก็อยู่ได้แหละ)ประโยคนี้สื่อถึงว่าในบางทีแม้เราจะหายไปคนๆนั้นก็ยังสามารถอยู่ได้หรือดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างปกติค่ะ เป็นการยอมรับหรือรู้สึกว่าเรามีความสำคัญน้อยลงในชีวิตของอีกคนหนึ่ง ทำให้รู้สึกว่าไม่มีเราก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเขาเลยค่ะ10."I'm feeling sad while everyone else is happy." (ฉันกำลังเศร้านะในขณะที่คนอื่นกำลังมีความสุข)ประโยคนี้สื่อถึงการบอกความรู้สึกของเราเองที่ตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เศร้าหรือท้อแท้ ในขณะที่คนรอบข้างหรือคนอื่นๆดูเหมือนจะมีความสุขและสนุกสนานค่ะ มันบ่งบอกถึงความรู้สึกโดดเดี่ยวและความแตกต่างของอารมณ์ระหว่างเรากับคนอื่นๆที่อยู่รอบตัวของเราค่ะ11."A summer that's so sad." (ฤดูร้อนที่แสนเศร้า)ประโยคนี้สื่อถึงฤดูร้อนในครั้งนี้ไม่เหมือนกับฤดูร้อนที่มันเคยเป็นที่มันเคยสนุกสนานหรือเต็มไปด้วยความสุขสำหรับเราค่ะ แทนที่จะเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยกิจกรรมที่สนุกสนาน แต่เรากลับรู้สึกเศร้าและไม่มีความสุขเอาซะเลย อาจจะเกิดจากสถานการณ์หรือความรู้สึกส่วนตัวที่ทำให้ช่วงเวลานี้ไม่น่าจดจำหรือไม่เป็นไปตามที่คาดหวังค่ะ12."Even though you’re gone, I will keep moving forward." (ถึงแม้เธอจะจากไปแล้ว แต่ฉันก็จะก้าวต่อไป)ประโยคนี้สื่อถึงการที่เราตัดสินใจที่จะก้าวต่อไปในชีวิตต่อหลังจากเศร้ามานานแล้วนะ แม้ว่าคนสำคัญหรือคนที่เรารักจะจากไปหรือไม่อยู่ด้วยกันแล้วค่ะ เป็นการแสดงถึงความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นในการดำเนินชีวิตต่อไป แม้จะต้องเผชิญกับความสูญเสียหรือความเจ็บปวดก็ตาม13. "Just another liar." (ก็แค่คนโกหกอีกคน)ประโยคนี้สื่อถึงความรู้สึกของเราที่มีต่อคนบางคนที่ชอบโกหกหรือไม่ซื่อสัตย์กับเราซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำให้เราเจ็บแล้วเจ็บอีกแค่เสียเขาไปอีกคนก็คงไม่เป็นไรเพราะเราเคยเจอคนประเภทนี้มาก่อนแล้ว และครั้งนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นเท่าไหร่14."We’ve become strangers and just memories." (เรากลายเป็นคนแปลกหน้าและความทรงจำ)ประโยคนี้สื่อถึงความสัมพันธ์ที่เราเคยใกล้ชิดกับคนคนหนึ่งแต่ในตอนนี้กลับห่างเหินกันจนกลายเป็นคนแปลกหน้า เหลือไว้เพียงแค่ความทรงจำที่เคยมีร่วมกัน เป็นการแสดงถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ ทำให้รู้สึกเหมือนคนสองคนที่เคยสำคัญต่อกันกลายเป็นแค่ส่วนหนึ่งของอดีตที่ไม่อาจกลับคืนมาได้อีกแล้วค่ะ15."I have to pretend that I'm okay." (ฉันต้องแกล้งทำเป็นว่าฉันโอเค)ประโยคนี้สื่อถึงการที่ต้องฝืนหรือเสแสร้งว่าเราสบายดี ทั้งที่จริงๆ แล้วข้างในอาจจะไม่ได้รู้สึกดีเลยค่ะ มันเป็นการปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงเพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ แต่บางครั้งเราก็ต้องจำใจทำมันเพราะสถานการณ์บางอย่างทำให้เราต้องทำแบบนี้ค่ะ16."If only I could turn back time, that would be nice." (ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงดีสินะ)ประโยคนี้สื่อถึงความรู้สึกเสียดายหรือเสียใจที่เราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขบางสิ่งบางอย่างในอดีตกันบ้างมั้ยค่ะ มันเป็นการสะท้อนถึงความรักที่ผิดหวังหรือความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แล้วทำให้เราอยากย้อนเวลากลับไปเพื่อทำบางอย่างให้ดีขึ้นหรือไม่ให้เกิดความเจ็บปวดนี้ขึ้นเลย แต่เพราะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้เราจึงได้แต่พูดประโยคนี้ด้วยความรู้สึกเศร้าและผิดหวัง17. "We often hide someone in a certain song." (เรามักจะซ่อนใครบางคนไว้ในเพลงบางเพลง)ประโยคนี้สื่อถึงการที่เรามักจะมีเพลงหนึ่งที่ทำให้นึกถึงใครบางคนเสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เมื่อได้ยินเพลงนั้นก็จะนึกถึงคนคนนั้นขึ้นม มันเป็นเหมือนการซ่อนความทรงจำหรือความรู้สึกที่เรามีต่อใครบางคนไว้ในเพลงนั้นค่ะ ทุกครั้งที่ได้ฟังเพลงนั้นก็จะทำให้เราหวนคิดถึงช่วงเวลา หรือความรู้สึกที่เคยมีต่อเขาเสมอมาค่ะ18."Let’s not talk about it anymore." (อย่าพูดถึงมันอีกเลย)ประโยคนี้สื่อถึงความต้องการของเราที่จะไม่พูดถึงเรื่องที่ทำให้เจ็บปวดหรือไม่สบายใจอีกต่อไปค่ะ เป็นการขอให้หยุดการพูดถึงเรื่องนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกแย่ๆ หรือเพื่อตัดความคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่อยากจำเป็นการพยายามปิดฉากเรื่องที่เราไม่อยากเผชิญหรือไม่อยากคิดถึงอีกแล้วค่ะ19."You're not there by my side on the day my dreams come true." (ไม่มีเธออยู่เคียงข้างในวันที่ฝันเป็นจริง...)ประโยคนี้สื่อถึงความรู้สึกเศร้าและผิดหวังที่แม้ว่าเราจะประสบความสำเร็จหรือทำให้ฝันของเรากลายเป็นจริง แต่คนสำคัญที่เราอยากให้เขาอยู่เคียงข้างกลับไม่อยู่ในช่วงเวลานั้นค่ะ มันเป็นการสะท้อนถึงความคิดถึงและความรู้สึกว่าความสำเร็จนั้นไม่สมบูรณ์เต็มที่ เพราะคนที่เราอยากแบ่งปันช่วงเวลานี้ด้วยไม่ได้อยู่ตรงนั้นกับเราแล้ว20."Why would tears flow?" (ทำไมน้ำตาถึงไหลล่ะ)ประโยคนี้แสดงถึงความสงสัยหรือการตั้งคำถามเกี่ยวกับเหตุผลที่ทำให้เกิดน้ำตาหรือการร้องไห้ค่ะ อาจเป็นการถามตัวเองหรือคนอื่นว่าทำไมถึงมีความรู้สึกหรือเหตุการณ์ที่ทำให้เราหรือคนอื่นร้องไห้ มันเป็นการค้นหาสาเหตุหรือความหมายที่อยู่เบื้องหลังอารมณ์ที่ทำให้เรารู้สึกถึงความเศร้าหรือความเจ็บปวด บางครั้งเราก็ไม่ได้อยากให้มันไหลออกมาแต่มันดันไหลออกมาซะงั้น21."When we love someone at the wrong time, all we can do is pray." (เมื่อเรารักใครผิดเวลา สิ่งที่เราทำได้คืออธิฐาน)ประโยคนี้สื่อถึงความรู้สึกที่เมื่อเรารักใครบางคนในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมหรือไม่สามารถเป็นไปได้เช่น ความรักที่เกิดขึ้นในเวลาที่ไม่ตรงกับสถานการณ์ที่สามารถพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์ได้ การแสดงออกถึงความรู้สึกนี้คือการยอมรับว่าสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือการอธิฐานหรือหวังให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรักนั้นไปถึงคนที่เรารักหรือการหาทางที่จะทำใจได้ค่ะ22."The things you say are never true." (สิ่งที่เธอพูดไม่เคยเป็นความจริง)ประโยคนี้สื่อถึงความผิดหวังและความเจ็บปวดที่เกิดจากการที่เราได้รับรู้ว่าเรื่องที่คนๆ หนึ่งพูดออกมาไม่เคยเป็นความจริงค่ะ การที่เราต้องเผชิญหน้ากับความไม่ซื่อสัตย์หรือการหลอกลวงจากคนที่เราเคยเชื่อใจ มันทำให้เรารู้สึกว่าคำพูดหรือสัญญาที่เคยได้รับมานั้นไม่มีค่าและเต็มไปด้วยความไม่จริงใจในทุกครั้งที่เขาพูดมันออกมา23."Just let it all fall apart." (ปล่อยให้มันพังๆไปให้หมด)ประโยคนี้สะท้อนถึงการยอมแพ้หรือการปล่อยให้สิ่งต่างๆ ในชีวิต ความรู้สึก หรือสถานการณ์ที่ไม่ดีไปตามทางของมันค่ะ ไม่ว่าเราจะพยายามแก้ไขหรือกู้คืนสิ่งที่กำลังพังทลายไปแค่ไหนสุดท้ายมันก็กลับมาพังเหมือนเดิม มันเหมือนกับเป็นการยอมรับในความล้มเหลวหรือความสิ้นหวังในช่วงเวลานี้ และเลือกที่จะไม่ต่อสู้หรือรักษาสิ่งที่กำลังพังไปแล้วค่ะ24."Gradually fading away." (ค่อยๆ จางหายไป)ประโยคนี้สื่อถึงบางสิ่งบางอย่างในชีวิตของเราที่กำลังค่อยๆลดลงหรือหายไปทีละนิด ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึก ความทรงจำ หรือความสัมพันธ์ มันแสดงถึงการที่บางอย่างกำลังเลือนลางลงอย่างช้าๆ และในที่สุดอาจจะหายไปโดยสมบูรณ์ เป็นการสะท้อนถึงการยอมรับความเปลี่ยนแปลงหรือการปล่อยให้บางสิ่งบางอย่างจบลงอย่างช้าๆถึงแม้ว่ามันต้องใช้เวลาก็ตามค่ะ25."I’m not as good at lying as you are." (ฉันไม่เก่งเรื่องการโกหกเท่าเธอ)ประโยคนี้สื่อถึงความรู้สึกเจ็บปวดหรือผิดหวังที่ตัวเองไม่สามารถโกหกหรือปกปิดความจริงได้ดีเท่ากับอีกฝ่าย มันเป็นการเปรียบเทียบตัวเองกับคนที่เคยโกหกหรือหลอกลวงเรา และอาจแฝงความรู้สึกตำหนิตัวเองเล็กน้อยที่ไม่สามารถทำเช่นเดียวกันได้ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการบอกถึงความจริงใจและความตรงไปตรงมาของตัวเองค่ะ26."How did we both come this far?"(เราทั้งคู่มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?)ประโยคนี้สะท้อนถึงความสงสัยและความเจ็บปวดในความสัมพันธ์ของเราที่เคยดีแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วค่ะ เป็นการตั้งคำถามที่มีทั้งความผิดหวังและความสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อะไรที่ทำให้เราทั้งคู่มาถึงจุดที่ไม่หันหน้าเข้าหากันหรือบางคู่อาจถึงขั้นเลิกรากันเลยค่ะ27."Everything I did was with intention, but you made it fall apart."(ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำให้คือความตั้งใจ แต่คุณกับทำมันพัง)ประโยคนี้แสดงถึงความรู้สึกผิดหวังและความเจ็บปวดที่เกิดจากการที่ความพยายามและความตั้งใจของเราที่ถูกทำลายหรือไม่เห็นผลตามที่คาดหวังไว้ค่ะ การที่เราได้พยายามทำสิ่งต่างๆด้วยความตั้งใจแต่กลับพบว่าผลลัพธ์นั้นไม่เป็นไปตามที่หวังและถูกทำลายโดยคนคนหนึ่งทำให้รู้สึกว่าความพยายามทั้งหมดนั้นเหมือนสูญเปล่าอีกครั้งค่ะ28."Love’s time is up." (เวลาแห่งความรักสิ้นสุดลงแล้ว)ประโยคนี้สื่อถึงความรู้สึกที่ความรักหรือความสัมพันธ์มาถึงจุดสิ้นสุดแล้วค่ะ มันเปรียบเสมือนเวลาของความรักที่หมดลงเราไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้อีก เป็นการยอมรับว่าความรักที่เคยมีนั้นไม่สามารถดำเนินต่อไปและต้องปล่อยให้มันจบลงไป29."Some things, sometimes, I just have to let go." (เรื่องบางเรื่อง บางครั้งฉันก็ต้องปล่อยมันไป)ประโยคนี้สื่อถึงความเข้าใจของเราในเรื่องของการปล่อยวาง และการรู้จักที่จะปล่อยสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมหรือแก้ไขได้แล้ว ในชีวิตของเรามักจะพบกับสถานการณ์ที่เราทำได้เพียงแค่ยอมรับและปล่อยผ่านไป การยึดติดกับปัญหาหรือการพยายามควบคุมสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อาจทำให้เราหมดแรงและรู้สึกเครียดได้ค่ะ30."Heartbroken even though we were never anything." (อกหักทั้งๆที่เราไม่เคยเป็นอะไรกัน)ประโยคนี้สะท้อนถึงความเจ็บปวดที่เกิดจากความรู้สึกของเราที่มีต่อใครบางคน แม้ว่าในความเป็นจริงจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนหรือเป็นคนรักกันจริงๆค่ะ มันแสดงถึงความรู้สึกลึกซึ้งที่เกิดขึ้นเองภายในใจของเราเอง แม้จะไม่มีสถานะที่แน่นอนก็ตาม ความรู้สึกนี้ทำให้คนเจ็บปวดเหมือนกับการอกหักจากความสัมพันธ์ที่มีอยู่จริงๆค่ะ31."It’s exhausting..." (มันเหนื่อยนะ)ประโยคนี้สื่อถึงความรู้สึกเหนื่อยล้าไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจค่ะ มันอาจเป็นผลมาจากการเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ความรู้สึกท้อแท้ หรือการต้องแบกรับความรู้สึกหนักหน่วงบางอย่าง เป็นการระบายออกถึงความเหน็ดเหนื่อยที่สะสมมาและต้องการจะพักผ่อนหรือปล่อยวางค่ะ32."Trying alone." (พยายามอยู่ฝ่ายเดียว)ประโยคนี้สื่อถึงความรู้สึกที่เราต้องเป็นฝ่ายพยายามหรือทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองโดยไม่มีการสนับสนุนหรือความร่วมมือจากอีกฝ่ายค่ะ มันแสดงถึงความพยายามที่อาจจะรู้สึกเหนื่อยหน่ายหรือท้อแท้ เพราะต้องแบกรับภาระหรือความรับผิดชอบเพียงลำพังการพยายามอยู่ฝ่ายเดียวมักจะทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าได้เหมือนกันค่ะ33."I’m the one who walked away, but it hurts so much..." (เป็นคนเดินออกมาเองแต่มันโครตเจ็บเลย..)ประโยคนี้สะท้อนถึงความรู้สึกเจ็บปวดที่เกิดจากการตัดสินใจของเราเองที่จะเดินออกจากความสัมพันธ์หรือสถานการณ์นั้นๆ แม้ว่าจะเป็นการตัดสินใจของตัวเองแต่มันกับทำให้เรารู้สึกเจ็บกว่าที่เราคิดไว้ค่ะ34."Now it hurts so much that I can barely cry anymore." (ตอนนี้มันเจ็บจนแทบไม่มีน้ำตาจะไหลอีกแล้วหล่ะ)ประโยคนี้สะท้อนถึงความเจ็บปวดที่ลึกซึ้งมากจนเราไม่สามารถร้องไห้หรือแสดงความรู้สึกออกมาได้อีกแล้วค่ะ ความรู้สึกนี้เหมือนกับเราได้ผ่านการแสดงออกทั้งหมดมาแล้วจนรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรเหลือให้แสดงออกอีกแล้ว และตอนนี้รู้สึกเหนื่อยล้าจนไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ได้อีกแล้วค่ะ ถึงแม้ตอนนี้อาจจะไม่มีน้ำตาให้ไหลแต่ความรู้สึกเจ็บปวดยังคงอยู่ในใจเรา การให้เวลากับตัวเองและหาวิธีในการบรรเทาความรู้สึกอาจช่วยให้เราค่อยๆ ฟื้นฟูและพบความสงบในที่สุดค่ะ35."I can’t force a smile." (ฉันไม่สามารถฝืนยิ้มได้)ประโยคนี้สื่อถึงความรู้สึกที่เราไม่สามารถยิ้มได้แบบจริงๆแม้จะพยายามทำให้ดูเหมือนว่าโอเคค่ะ มันแสดงถึงความรู้สึกภายในที่ไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ที่เราต้องแสดงออกมา อาจเป็นความรู้สึกผิดหวังหรือเศร้าที่ไม่สามารถซ่อนหรือปิดบังได้และทำให้การยิ้มอย่างฝืนใจดูเป็นเรื่องยากค่ะ36."Everything happened so quickly." (ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก)ประโยคนี้สะท้อนถึงความรู้สึกที่สิ่งต่างๆในชีวิตของเรามันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและอาจรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะรับมือกับมันค่ะ บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนรู้สึกว่ามันเร็วเกินไป ไม่สามารถปรับตัวหรือรับมือได้ทัน กับความรู้สึกที่ต้องจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แสนสั้นนี้ค่ะ37."Why can't we go back in time?" (ทำไมเราถึงย้อนเวลากลับไปไม่ได้?)ประโยคนี้สะท้อนถึงความรู้สึกของเราที่ต้องการย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นค่ะ มันแสดงถึงความรู้สึกผิดหวังหรือเสียดายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตที่ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ถึงแม้อยากจะกลับไปแค่ไหน แต่ปัจจุบันเราไม่สามารถทำอะไรได้แล้วค่ะนอกจากต้องเดินหน้าต่อไป38."I did everything for you, but you did everything for someone else." (ฉันทำทุกอย่างเพื่อเธอ แต่เธอทำทุกอย่างเพื่อใครอีกคน)ประโยคนี้สะท้อนถึงความรู้สึกของการถูกละเลยหรือไม่ถูกให้ความสำคัญจากคนที่เราดูแลหรือทำสิ่งต่างๆเพื่อเขา ในขณะที่เขากลับให้ความสำคัญหรือทำทุกอย่างเพื่อคนอื่นค่ะ มันแสดงถึงความรู้สึกผิดหวังและเจ็บปวดที่เราทุ่มเทความรักและความพยายาม แต่กลับรู้สึกว่าไม่ได้รับการตอบแทนหรือความใส่ใจจากคนที่เราเคยทำทุกอย่างเพื่อเขาอย่างเต็มที่ค่ะ39."Whenever I start to trust someone too much, I always end up being betrayed." (เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันเริ่มไว้ใจใครคนหนึ่งมากเกินไป ฉันก็มักจะถูกทรยศเสมอ)ประโยคนี้สื่อถึงความเจ็บปวดและความผิดหวังที่เกิดขึ้นซ้ำๆเมื่อเรามอบความไว้วางใจให้กับใครบางคนมากเกินไปค่ะ แต่กลับถูกทรยศหรือทำร้ายในที่สุดเป็นความรู้สึกที่เหมือนถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อเราเริ่มเปิดใจให้กับคนอื่น และเมื่อความไว้วางใจนั้นถูกทำลายมันก็ทิ้งร่องรอยความเจ็บปวดไว้ในใจเราเสมอค่ะ40."It hurts so much that I’m afraid to start something new." (มันเจ็บปวดมากจนเรากลัวที่จะเริ่มต้นใหม่)ประโยคนี้สะท้อนถึงความเจ็บปวดที่เกิดจากประสบการณ์ในความรักหรือความสัมพันธ์ที่ผ่านมาจนทำให้รู้สึกกลัวหรือไม่กล้าที่จะเปิดใจให้กับความสัมพันธ์ใหม่ค่ะ มันแสดงถึงความเจ็บปวดจากความรักที่ไม่สมหวังหรือการแตกสลายที่ยังคงมีผลต่อความรู้สึกและการตัดสินใจในการเริ่มต้นใหม่ เป็นการบอกถึงความลังเลและความกลัวในการรักครั้งใหม่ที่มันยังไม่ทันได้เกิดขึ้นแต่กับกลัวว่ามันจะกลับไปเจ็บปวดแบบครั้งเก่าค่ะ41."You’ve been really cruel to me." (เธอใจร้ายกับฉันมากจริงๆ)ประโยคนี้สะท้อนถึงความรู้สึกของเราที่ถูกกระทำหรือปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากอีกฝ่ายค่ะ มันแสดงถึงความเจ็บปวดและผิดหวังจากพฤติกรรมหรือการกระทำของเขาที่ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจหรือไม่เมตตาต่อความรู้สึกของเรา การพูดประโยคนี้เป็นการบ่งบอกถึงความรู้สึกว่าอีกฝ่ายมีพฤติกรรมที่ทำร้ายจิตใจหรือทำให้เรารู้สึกไม่ดีค่ะ42."Why isn’t the world kinder to us?" (ทำไมโลกถึงไม่ใจดีกับเราบ้าง?)ประโยคนี้สะท้อนถึงความรู้สึกท้อแท้หรือผิดหวังกับความยากลำบากหรืออุปสรรคในชีวิตค่ะ มันแสดงถึงความรู้สึกว่าโลกหรือสถานการณ์รอบตัวไม่ให้ความเมตตาหรือสนับสนุนเราในเวลาที่เราต้องการมากที่สุด การตั้งคำถามนี้บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ต้องการความช่วยเหลือหรือความเข้าใจจากสิ่งรอบตัวของเรา แต่กลับรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมหรือไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ค่ะ43."In the end, we have to say goodbye." (ท้ายที่สุดเราก็ต้องบอกลา)ประโยคนี้สะท้อนถึงการยอมรับว่าความสัมพันธ์หรือช่วงเวลาที่ดีต้องมาถึงจุดสิ้นสุดและต้องบอกลาในที่สุดค่ะ มันแสดงถึงความเศร้าหรือความยากลำบากในการยอมรับการแยกจากกัน แม้ว่าเราจะไม่อยากให้มันจบลงแต่ก็ต้องเผชิญกับความจริงที่ว่าเราต้องแยกจากหรือปล่อยมือในที่สุดค่ะ44."It hurts in a way that's hard to describe." (มันเจ็บแบบบอกไม่ถูกเลยหล่ะ)ประโยคนี้สะท้อนถึงความเจ็บปวดของเราที่ซับซ้อนจนยากที่จะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจค่ะ มันแสดงถึงความรู้สึกที่เจ็บปวดเกินกว่าจะใช้คำพูดธรรมดาในการบรรยาย เป็นการบ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่ไม่สามารถหาคำมาบรรยายได้อย่างครบถ้วน หรือมันมากเกินกว่าที่เราจะอธิบายให้ชัดเจนในคำพูดได้ค่ะ45."The worst part is that everything is actually true." (สิ่งที่แย่ที่สุด คือทุกอย่างมันดันเป็นเรื่องจริง)ประโยคนี้สะท้อนถึงความรู้สึกผิดหวังหรือเจ็บปวดจากการที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดันเป็นความจริงขึ้น ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่เราหวังว่ามันจะไม่เป็นจริงหรือเป็นเพียงแค่ความฝันค่ะ มันแสดงถึงความท้อแท้หรือความเศร้าที่เกิดจากการรับรู้ว่าสถานการณ์หรือปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่นั้นเกิดขึ้นจริงๆ และไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือหลงลืมไปได้เลยค่ะ46."Betrayal hurts, but it's even more painful when it comes from someone close to you."(การถูกทรยศนั้นเจ็บปวดนะ แต่จะเจ็บปวดยิ่งกว่าเมื่อเกิดจากคนใกล้ตัว)ประโยคนี้สะท้อนถึงความรู้สึกผิดหวังหรือเจ็บปวดจากการโดนทรยศหักหลังมันเจ็บมากจริงๆนะคะ แต่สิ่งที่ทำให้มันเจ็บยิ่งกว่าก็คือเมื่อการทรยศนั้นมาจากคนใกล้ตัว คนที่เราเชื่อใจและไม่เคยคิดว่าจะทำร้ายเราได้ความเจ็บปวดจากการถูกหักหลังโดยคนใกล้ตัว มันเป็นเหมือนการถูกทำร้ายจากภายในเพราะคนที่เราไว้ใจมากที่สุดกลับเป็นคนที่ทำให้เราผิดหวังที่สุดค่ะ47."Loving you makes me look foolish." (การรักเธอทำให้ฉันดูโง่เขลา)ประโยคนี้สะท้อนถึงความรู้สึกที่การรักคนหนึ่งทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นคนโง่หรือเสียสติ เพราะความรักที่มีอาจทำให้เราทำสิ่งที่ดูไม่สมเหตุสมผล หรือทำให้เราต้องเผชิญกับความเจ็บปวดและความผิดหวังที่อาจไม่คุ้มค่าในสายตาของคนอื่นค่ะ ถึงแม้จะทำให้เราเจ็บอีกกี่ครั้งแต่เราก็ยังให้อภัยเสมอรู้ตัวแต่ก็ยังทำอยู่ดีค่ะ48."Stuck in the same feelings." (ติดอยู่ในความรู้สึกเดิมๆ)ประโยคนี้สะท้อนถึงความรู้สึกที่เราอยู่ในวงโคจรเดิมๆหรือประสบการณ์ทางอารมณ์ที่ซ้ำซาก ไม่สามารถก้าวออกจากความรู้สึกหรือปัญหาที่เกิดขึ้นเรื่อยๆค่ะ มันแสดงถึงความรู้สึกว่าตัวเองติดอยู่ในสถานการณ์หรืออารมณ์ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แม้ว่าจะพยายามทำอะไรก็ตามแต่ก็ยังวนเวียนอยู่ในความรู้สึกเดิมๆอยู่ดี49."I can't believe you could actually do that." (ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอสามารถทำแบบนั้นได้จริงๆ)ประโยคนี้สะท้อนถึงความรู้สึกตกใจหรือผิดหวังที่มีต่อการกระทำของอีกฝ่ายที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ค่ะ มันแสดงถึงความรู้สึกที่ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าเขาจะทำสิ่งนั้นจริงๆ ซึ่งอาจเป็นการกระทำที่ไม่คาดคิดหรือมีผลกระทบที่ทำให้เรารู้สึกผิดหวังอย่างมากค่ะ50."You’ve made me hate this place." (เธอทำให้ฉันเกลียดที่นี่ไปเลย)ประโยคนี้สะท้อนถึงความรู้สึกที่ถูกกระทำหรือประสบการณ์ที่ไม่ดีจากอีกฝ่ายจนทำให้เรารู้สึกไม่ดีต่อสถานที่ที่เราเคยไปหรือที่เคยมีความรู้สึกดีอยู่ค่ะ มันแสดงถึงผลกระทบที่เกิดจากความสัมพันธ์หรือพฤติกรรมของคนอื่นที่ทำให้เรามีความรู้สึกแย่หรือไม่ชอบสถานที่ที่เคยมา มันกลายเป็นภาพจำตอนมีเขาอยู่ด้วยเลยทำให้ที่ตรงนั้นเราเกลียดมันไปเลยและนี่ก็คือ 50 แคปชั่นภาษาอังกฤษเศร้า ๆ คำคมอกหัก พร้อมคำแปลที่เราได้นำมาแชร์ความรู้สึกกันมาให้เพื่อนๆแล้วนะคะ หวังว่าจะมีแคปชั่นที่ถูกใจและตรงกับความรู้สึกของเพื่อนๆในช่วงเวลานี้นะคะ ไม่ว่าจะเลือกใช้แคปชั่นไหน MiddleKlin เชื่อว่ามันจะช่วยให้เพื่อนๆได้ระบายและสื่อสารความรู้สึกออกมาอย่างที่ใจต้องการค่ะ อย่าลืมนะคะว่าทุกความรู้สึกมีค่าและการแบ่งปันเรื่องราวเหล่านี้ก็อาจเป็นการเริ่มต้นการเยียวยาหัวใจตัวเองได้เช่นกันค่ะ เจอกันในบทความหน้านะคะสำหรับวันนี้ของลาไปก่อนแล้วพบกันใหม่นะคะกอดๆ 🫂🫂🫂20 แฮชแท็ก ภาษาอังกฤษเศร้าๆ#Heartbroken💔(อกหัก),#LonelyNights🌙(คืนเหงา),#SadVibes😢(ความรู้สึกเศร้า),#LostLove💔(สูญเสียความรัก),#TearsFall😭(น้ำตาที่ไหล),#EmptyHeart💔(หัวใจที่ว่างเปล่า),#BrokenDreams😔(ความฝันที่พังทลาย),#HurtingInside😞(เจ็บปวดข้างใน),#UnspokenWords😶(คำพูดที่ยังไม่ได้บอก),#Heartache💔(อาการเจ็บปวดจากความรัก),#MissYou😢(คิดถึงคุณ),#LonelyHeart💔(หัวใจที่เหงา),#FeelingEmpty😔(รู้สึกว่างเปล่า),#SadMemories😓(ความทรงจำที่แสนเศร้า),#BrokenPieces💔(เศษเสี้ยวที่แตกสลาย),#LostHope😞(ความหวังที่สูญหาย),#Desperate😣(สิ้นหวัง),#PainfulTruth😢(ความจริงที่เจ็บปวด),#FadingLove💔(ความรักที่จางหาย),#EmptyPromises😔(คำสัญญาที่ว่างเปล่า)บทความแนะนำจาก MiddleKlin30 เพลงสากล แนวเศร้า สำหรับคนอกหัก ไว้อัปสตอรี่แบบคูลๆ30 เพลงช้า ฟีลอกหักทิพย์ ไว้ฟังตอนเงียบๆอัพสตอรี่คนคูลๆ 30 แคปชั่นอกหัก ภาษาอังกฤษ สำหรับคนอกหัก ไว้อัปสตอรี่ 20 แคปชั่น ฮีลใจ ภาษาอังกฤษ ไว้อัปสตอรี่ (พร้อมแปลไทย)20 แคปชั่น จิกกัด ภาษาอังกฤษ เอาไว้สตอรี่แบบเฟียสๆ (พร้อมแปลไทย)เครดิตภาพหน้าปก และ ภาพทั้งหมด โดย MiddleKlin ผ่านเว็บไซต์ Canva Pro เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !