ช่วงนี้ได้รับผลกระทบจากมาตรการเก็บตัวอยู่กับบ้าน เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผู้เขียนไม่ได้เดินทางไปทำงานต่างจังหวัด เก็บตัวอยู่ที่บ้านกับลูกชาย 2 คน ลูกเป็นโรคภูมิแพ้อากาศมาตั้งแต่เด็กมีน้ำมูก จามเวลาอากาศเปลี่ยน และใต้ขาพับก็คันและเกาจนเป็นแผล ในเวลาอย่างนี้ การไปพบหมอที่คลีนิกหรือสถานพยาบาลน่าจะเสี่ยงต่อการไปรับเชื้อโรคอื่นเข้ามา จำเป็นต้องปรุงยาจากสมุนไพรใกล้ตัวไว้ใช้ สำหรับแก้คันใต้ขาพับของลูกชาย จึงถือโอกาสนี้บันทึกไว้เป็นวิทยาทานแก่ท่านผู้อ่านที่บ้านผู้เขียนปลูกต้นเสลดพังพอนตัวผู้เอาไว้ 1 ต้น เป็นต้นยาที่ขุดมาจากสวนของคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นต้นเล็ก ๆ และสูตรยานี้ คุณแม่เคยทำให้ผู้เขียนทาใบหน้ารักษาโรคแพ้กุ้งทะเล เมื่อประมาณปี 2528 อาการแพ้ตอนนั้น ใบหน้าเป็นตุ่มเม็ดเล็ก ๆ สีแดงกระจายเต็มพื้นที่ทั่วทั้งใบหน้า บางตุ่มเป็นหนองใส ๆ เว้นแต่รอบดวงตาเท่านั้น ผู้เขียนไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชก็แพ้ยาของโรงพยาบาล ผื่นไม่ยุบแถมยังเห่อแดงหนักกว่าเดิม คุณแม่ไปได้สูตรยามาจากชาวบ้านในคลอง 12 ธัญบุรี ซึ่งผู้เขียนก็ได้ใช้ยานี้รักษาใบหน้าเป็นเวลา 2 เดือนเศษ เม็ดเล็ก ๆ เหล่านั้นค่อย ๆ แห้งและต้องปล่อยให้หัวมันหลุดออกมาเอง ห้ามใช้มือแกะเกา เพราะจะทำให้หน้าเป็นแผลเป็นได้ อีกอย่างหนึ่ง ผู้เขียนเป็นพวกแพ้มดตะนอย หากถูกมดตะนอยต่อยจะแพ้ชนิดปวดมวนท้อง หน้ามืด เป็นลมล้มตึงเลยทีเดียว สูตรยานี้ ใช้ได้ทั้งเสลดพังพอนตัวเมียและตัวผู้ ตัวเมียต้นจะเป็นเถาเลื้อยไม่มีหนาม ตัวผู้จะเป็นต้นทรงพุ่มมีหนามแหลมใต้ขั้วใบ แต่มดตะนอยมักจะชอบอาศัยอยู่กับต้นเสลดพังพอนตัวเมีย ผู้เขียนจึงเลือกใช้เสลดพังพอนตัวผู้มาปรุงเป็นตัวยา แม้ในทางวิทยาศาสตร์จะบอกว่า เสลดพังพอนตัวเมียมีสรรพคุณทางยามากกว่าตัวผู้ก็ตาม ผู้เขียนจะทำยาติดบ้านไว้ใช้ถอนพิษมดตะนอย แมลงสัตว์กัดต่อย รักษาโรคผิวอักเสบ สิว ฝี เริม งูสวัด ไฟลามทุ่ง รวมทั้งตุ่มคันต่าง ๆ ที่เกิดจากการแพ้น้ำ หรืออากาศ เช่น ลมพิษ เป็นต้น เพื่อนฝูงที่เป็นสิวหัวช้างหรือเป็นงูสวัด เคยรับตัวยาจากผู้เขียนไปรักษาจนหายเป็นปกติไม่ต้องไปพบแพทย์ผู้เขียนเก็บใบเสลดพังพอนตัวผู้จากต้นหน้าบ้าน เอามาล้าง ผึ่งลมให้สะเด็ดน้ำ ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่จะสอนว่า การเก็บสมุนไพรใบยาให้ทำตอนเช้า คงเป็นเรื่องของความปลอดภัยจากงูเงี้ยวเขี้ยวขอ จากนั้นเตรียมภาชนะใส่ตัวยาโดยการลวกขวดโหลด้วยน้ำร้อนเดือด คว่ำขวดให้น้ำแห้ง แล้วโขลกใบเสลดพังพอนให้ละเอียด ด้วยครกบดยาโดยเฉพาะ ห้ามใช้ปนกับครกตำพริกแกง ใส่ใบเสลดพังพอนที่โขลกแล้วลงในขวดโหลแก้ว อัดแน่นเติมเหล้าขาว 40 ดีกรีจนท่วมใบเสลดพังพอน เติมพิมเสน 1/4 ของปริมาณใบเสลดพังพอนที่โขลกได้ ปิดฝาให้สนิทเก็บไว้ในตู้เย็นวิธีใช้ ทำเสร็จแล้วสามารถนำไปใช้ได้เลย โดยใช้สำลีพันปลายไม้ หรือ cotton buds ชุบน้ำยาเช็ดบริเวณที่ผิวอักเสบเบา ๆ เช็ดจากข้างนอกเข้าไปหาจุดที่อักเสบ อย่าเช็ดป้ายไปมา ทาวันละ 2-3 ครั้ง หลังอาบน้ำ หรือเวลาแสบคัน เพียง 3 วัน สำหรับตุ่มใส ตุ่มหนอง 3 วัน แผลจะฝ่อลง แล้วค่อย ๆ แห้ง ห้ามแกะเกา มิฉะนั้น จะเป็นแผลเป็น หากน้ำยาแห้งก็สามารถเติมเหล้าขาวใช้ต่อไปได้อีกประมาณ 3 - 4 ครั้ง หรือจนกว่าสีเขียวของน้ำยาจะจาง จึงค่อยปรุงยาใหม่ขออานิสงส์ผลแห่งกุศลจากการมอบวิทยาทานครั้งนี้จงส่งถึงคุณแม่ คุณครูบาอาจารย์ ผู้ถ่ายทอดตำรับยาทุกท่าน และขอให้พี่น้องชาวไทยพ้นจากโรคภัยอันตรายทั้งปวงเทอญ