ทุกวันนี้หันไปทางไหนเราก็มักที่จะเห็นคนออกมาวิ่งกันมากมาย แม้ว่าเหตุผลในการวิ่งของแต่ละคนจะต่างกัน แต่สุดท้ายสิ่งที่นักวิ่งทุกคนได้เหมือนกันคือสุขภาพที่ดี เพราะการวิ่งนับเป็นการออกกำลังกายที่เริ่มต้นได้ง่าย ค่าใช้จ่ายน้อย และทำได้ทุกเพศทุกวัย ขอเพียงมองหาสถานที่ๆ มีพื้นที่สักหน่อย และมีอากาศถ่ายเทสะดวก เราก็สามารถเริ่มออกวิ่งเพื่อสุขภาพได้แล้วเมื่อตัดสินใจที่จะวิ่งแล้วเรามาดูกันดีกว่าครับ ว่าเราจะต้องเตรียมพร้อม และเรียนรู้อะไรบ้าง1. เช็กสุขภาพ และความพร้อมของตนเองแม้ว่าใจเราจะพร้อม ร่างกายเราอาจจะไม่พร้อมอย่างใจก็เป็นได้ ก่อนการวิ่งทุกครั้งเราควรที่จะต้องเช็คสุขภาพ และสัญญาณความพร้อมของร่างกายทุกครั้งก่อนการวิ่ง เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้น อย่าลืมนะครับว่าเราวิ่งเพื่อสุขภาพ เพราะฉะนั้นถ้าวันไหนที่ไม่ไหวจริงๆ อย่าฝืนครับ 2. การวอร์ม เหยียดยืดยืดกล้ามเนื้อนักวิ่งหลายๆ ท่านมักที่จะละเลยการวอร์ม หรือเหยียดยืดกล้ามเนื้อก่อนการวิ่ง เพราะมองว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ไม่ต้องทำเราก็สามารถวิ่งได้ ซึ่งนั้นเป็นความเชื่อที่ “ผิด” การสละเวลา 10 - 15 นาทีเพื่อเหยียดยืดกล้ามเนื้อ ทั้งก่อนและหลังการวิ่ง สามารถช่วยลดโอกาสในการบาดเจ็บจากการวิ่งได้เป็นอย่างดี 3. ค่อยเป็นค่อยไป ร่างกายของแต่ละคนมีความพร้อม และความแข็งแรงที่แตกต่างกัน ดังนั้นได้โปรดอย่าคิดว่าระยะทางแค่นี้เอง เพื่อนเราวิ่งได้ เราก็วิ่งได้ ยิ่งถ้าเราเป็นนักวิ่งที่เพิ่งเริ่มต้น เราควรที่จะค่อยเป็นค่อยไป โดยอาจจะเริ่มจากการวิ่งสลับกับการเดิน และค่อยๆ เพิ่มระยะทาง เพิ่มระยะเวลาในการวิ่ง เพื่อให้ร่างกาย และหัวใจค่อยๆ ปรับตัว และเสริมสร้างความแข็งแรง การตั้งเป้าหมายเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่อะไรที่เกินตัวจนเกินไปอาจจะทำให้เราบาดเจ็บ และหมดสนุกกับการวิ่งได้เช่นกัน 4. เสริมความแข็งแรงให้ร่างกายการวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ต้องใช้กล้ามเนื้อแทบทุกสวนของร่างกาย ดังนั้น นอกจากการฝึกซ้อมวิ่งอย่างสม่ำเสมอแล้ว การเสริมความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อด้วยเวทแทรนนิ่ง หรือการออกกำลังกายแบบคาดิโอเพิ่มเติม จึงเป็นตัวช่วยอย่างดีในการเพิ่มขีดความสามารถของกล้ามเนื้อ และช่วยให้คุณสามารถวิ่งได้ดียิ่งขึ้น แถมยังช่วยให้รูปร่างเฟิร์มกระชับอีกด้วยนะครับ5. การวางน้ำหนักที่กลางฝ่าเท้าถ้าเราลองสังเกตดู เราจะเห็นได้ว่านักวิ่งแต่คนมีจังหวะการวิ่ง และการก้าวเท้าที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่การวิ่งที่ดี คือการวิ่งแบบลงน้ำหนักเท้าที่กลางฝ่าเท้า เนื่องจากเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ และส่งผลกระทบต่อเข่าน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังมีผลจากการวิจัยพบว่า การก้าวเท้าที่เป็นธรรมชาติ หรือ ก้าวเท้าที่มีระยะปกติ ของนักวิ่งทั้งที่มีประสบการณ์และนักวิ่งมือใหม่ คือวิธีที่ใช้พลังงานน้อยที่สุดและได้ประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งหมายถึงว่าเมื่อก้าวเท้าปกติในขณะวิ่งจะทำให้สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลกว่าและเร็วกว่าการก้าวเท้าที่สั้นหรือยาวกว่าปกติ 6. จังหวะการหายใจการหายใจที่ถูกวิธีมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้เราสามารถวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ การหายใจที่เหมาะสมคือการหายใจที่ลึก และเป็นธรรมชาติ โดยพยายามสูดลมหายใจเข้าทางจมูก แล้วจึงหายใจออกพร้อมกันทั้งทางจมูกและปาก กระบวนการทั้งหมดควรเป็นไปอย่างสบายๆ ไม่เครียดเกร็ง หรือถี่กระชั้นจนเกินไป เพราะการหายใจที่ผิด อาจส่งผลให้เกิดอาการจุกเสียดขณะวิ่งจนเราไม่สามารถวิ่งได้อย่างที่ใจหวังก็เป็นได้ครับ7. สนามวิ่งที่ดีหลายๆ คนบอกว่าการวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย เพราะเราสามารถวิ่งที่ไหนก็ได้ ที่เราต้องการ ไม่ว่าจะวิ่งฝ่าเมือง ดูบรรยากาศข้างทาง วิ่งในสวนสาธารณะ วิ่งเข้าป่าขึ้นเขา หรือแม้กระทั่งบนลู่วิ่งดีๆ ซักเครื่อง แต่เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานที่วิ่งที่ดี มีผลกับประสิทธิภาพในการวิ่ง และความปลอดภัยของผู้วื่งด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นจะวิ่งที่ไหนก็ระมัดระวังและดูแลตัวเองด้วยนะครับ โดยเฉพาะท่านที่ชื่นชอบการวิ่งแบบ City Run 8. เพลงที่ชอบ หรือพ็อดแคสต์ที่ใช่นอกจากการผ่อนคลายความตึงเครียดด้วยการวิ่งแล้ว ระหว่างทางที่เราวิ่ง เรายังสามารถสร้างความเพลิดเพลินให้กับตัวเองได้ผ่านเพลงป๊อปช้าๆ สบายๆ หรือหาความรู้ความบันเทิงผ่านพ็อดแคสต์ที่ใช่ การหาอะไรดีๆ ฟังระหว่างการวิ่ง มีส่วนเป็นอย่างมากในการสร้างความสุข ความเพลิดเพลิน และช่วยให้เราสามารถวิ่งได้นานขึ้น9. เพื่อนวิ่งหลายครั้งหลายหนที่สุดท้ายเป้าหมายการออกกำลังกายต้องพังไม่เป็นท่า เพียงเพราะว่าเรามีสารพัดข้ออ้างกับตัวเอง ไหนจะไม่ว่าง เหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ วันนี้ชั้นไม่พร้อม บลาบลา~ การหาเพื่อนวิ่งจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีมากๆ สำหรับคนที่มีสารพัดเหตุผลที่จะไม่ลุกออกไปวิ่งครับ เพราะเมื่อเรามีเพื่อนที่พร้อมจะชวนกันไปออกกำลังกาย เหตุผลที่เราพร้อมอ้างก็จะโดนเพื่อนตัวดีปัดตกไปอย่างง่ายดาย และอาจจะมาพร้อมคำสบประมาทเพื่อให้เราฮึดสู้ออกไปวิ่งได้อย่างสม่ำเสมอ (ถ้าไม่ชวนกันไปกินหมูกระทะแทนเสียก่อนนะครับ) 10. การเปลี่ยนบรรยากาศไปร่วมงานวิ่งต่างๆการวิ่งเองคนเดียว หรือวิ่งกับเพื่อนตามสถานที่ต่างๆ แม้ว่าจะสนุกสนาน และเพลิดเพลินในแบบของเรา กลับมีบรรยากาศ และความสนุกสนานที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวเมื่อเทียบกับการไปร่วมวิ่งตามงานวิ่งต่างๆ เพราะเราจะได้เจอกับบรรยากาศใหม่ๆ เส้นทางวิ่งใหม่ๆ และสภาพแวดล้อมที่รายรอบไปด้วยเหล่านักวิ่งมากหน้าหลายตา ตากล้องที่พร้อมจะถ่ายรูปเราเหมือนเป็นดาราเซเลบริตี้ชื่อดัง ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นอย่างดีที่จะช่วยให้เราได้สถิติการวิ่งที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ (ลองซักครั้งครับ แล้วจะติดใจ) จะเห็นได้ว่าการวิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่ง่าย แต่ก็มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แอบแฝงอยู่เช่นกัน การหาความรู้เพิ่มเติม และเช็คความพร้อมของร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากเราหักโหมร่างกายจนเกิดพอดีก็อาจจะเกิดอาการบาดเจ็บจนส่งผลเสีย และทำให้การวิ่งไม่สนุกได้เช่นกัน ดังนั้นทุกครั้งก่อนการวิ่ง อย่าลืมเช็คความพร้อม วิ่งแต่พอดี เพื่อความสุข และสุขภาพที่ดีของตัวเราเองครับ ขอให้มีความสุขกับการวิ่งครับ ขอบคุณรูปภาพจาก Pixabay.com