ในการรักษาโรคทั่วไปนั้น หลังจากที่แพทย์ได้ทำการวินิจฉัยและให้ยาแล้ว เราก็มีหน้าที่ที่จะต้องรับประทานยาเหล่านั้นตามแพทย์สั่งให้ครบจำนวนตามที่กำหนด เช่น ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียจะต้องรับประทานต่อเนื่องจนยาหมด ยาโรคเรื้อรังเช่น ยาเบาหวาน ยาลดความดัน จะต้องรับประทานต่อเนื่องกันทุกวันห้ามหยุดยาเองอย่างเด็ดขาด หรือหากเป็นยาที่รักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ปวด ก็ให้รับประทานเฉพาะเมื่อมีอาการปวดเท่านั้น เมื่ออาการผิดปวดหายดีแล้วก็สามารถหยุดรับประทานยาได้ แต่ทราบไหมว่ามียาบางชนิดที่หลังจากใช้ยานั้นแล้ว จำเป็นที่จะต้องมีการเจาะเลือดเพื่อนำไปวัดระดับยาที่แน่นอนออกมาด้วย ทำไมต้องเจาะวัดระดับยาในเลือด ยาบางตัวนั้นจะมีความแตกต่างจากยาทั่วไป ยกตัวอย่างเช่นยา Gentamycin (เจนตาไมซิน) เป็นยาปฏิชีวนะสำหรับรักษาอาการติดเชื้อชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูง มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียแกรมลบได้หลายชนิด จึงถูกนำมาใช้ในการรักษาภาวะติดเชื้ออย่างแพร่หลาย แต่อย่างไรก็ตามยาชนิดนี้อาจก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่เป็นอันตราย คือ เป็นพิษต่อหูและเป็นพิษต่อไตได้ ดังนั้นการตรวจวัดระดับยาที่แน่นอนจึงเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันได้ว่าผู้ป่วยที่ใช้ยานี้จะมีความปลอดภัยและไม่เกิดอาการข้างเคียงที่อันตรายในขณะใช้ยา หรือยาอีกชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Digoxin (ไดจ็อกซิน) เป็นยาที่มีผลช่วยเพิ่มแรงบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ จึงถูกนำมาใช้สำหรับรักษาภาวะหัวใจล้มเหลวและปรับการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ แต่การใช้ยาชนิดนี้ในผู้ป่วยแต่ละรายที่ได้รับยาในขนาดเดียวกันมักจะให้ผลไม่คงที่ อีกทั้งยายังมีช่วงดัชนีในการรักษาแคบ ซึ่งหมายถึงขนาดยาที่ให้ผลในการรักษาและขนาดยาที่อาจก่อให้เกิดพิษต่อผู้ป่วยนั้นมีช่วงใกล้เคียงกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการตรวจวัดระดับยาชนิดนี้เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาในขนาดที่เหมาะสมและเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษา ยาชนิดอื่นที่ต้องเจาะวัดระดับยาในเลือด และนอกจากยาทั้งสองตัวที่ได้กล่าวไป ก็ยังมียาอีกหลายชนิดที่จำเป็นจะต้องเจาะเลือดเพื่อตรวจวัดระดับยาด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นยากันชักบางชนิดอย่าง Carbamazepin (คาร์บามาซีปีน), Phenobarbital (ฟีโนบาร์บิทาล), Phenytoin (ฟีนีตอย), Valproic acid (วาลโปรอิค แอซิด), Methotrexate (เมธอเทรกเซท) ยากดภูมิคุ้ม, Theophylline (ธีโอฟิลลิน) ยาขยายหลอดลม, Vancomycin (แวนโคไมซิน) ยาปฏิชีวนะ เป็นต้น จำเป็นต้องเจาะวัดระดับยาในเลือดในผู้ป่วยทุกรายหรือไม่ และถึงแม้รายการยาต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปในข้างต้นนี้จะเป็นยาที่มีอันตรายและควรมีการตรวจติดตามระดับยาเพื่อความปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตามการเจาะวัดระดับยาในผู้ป่วยทุกรายนั้นอาจไม่จำเป็น เนื่องจากในการให้ยานั้นจะต้องมีการคำนวณขนาดยาจากน้ำหนักตัวของผู้ป่วย หรือมีการให้ยาในขนาดมาตรฐานตามที่แนวทางการรักษากำหนดไว้ และจะต้องมีการติดตามอาการไม่พึงประสงค์เพื่อเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด จึงสามารถให้ยาเหล่านี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องเจาะวัดระดับยาทุกครั้ง เมื่อไรที่ควรจะตรวจติดตามระดับยา แต่เมื่อไรก็ตามที่ผู้ป่วยมีภาวะใดภาวะหนึ่งที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาหรืออาจได้รับพิษจากยา ก็จำเป็นจะต้องมีการเจาะวัดระดับยาเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการพิจารณาประกอบผลการรักษาหรือติดตามอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายหรือมีค่าการทำงานของไตลดลงผิดปกติ การกำหนดขนาดยาที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากไตจะมีหน้าที่ในการกำจัดยาในร่างกาย หากไตไม่สามารถทำงานได้ก็อาจจะทำให้มีระดับยาในเลือดสะสมสูงจนเกิดพิษจากยาได้ นอกจากนี้ การตรวจวัดระดับยาอาจจำเป็นในกรณีอื่น ๆ ด้วย เช่น ต้องการทราบระดับยาเนื่องจากผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษา ผู้ป่วยมีภาวะผิดปกติที่สงสัยว่าอาจเกิดพิษจากยา ต้องการประเมินระดับยาหลังจากที่มีการเปลี่ยนขนาดยาที่ให้กับผู้ป่วย หรือเพื่อประเมินระดับยาเนื่องจากผู้ป่วยได้รับยาอื่นที่ส่งผลต่อระดับยาที่กำลังใช้อยู่ เป็นต้น สำหรับขั้นตอนในการเจาะวัดระดับยานั้น จะต้องมีการกำหนดระยะเวลาที่จะเจาะเลือดอย่างแม่นยำและสัมพันธ์กันกับคุณสมบัติของยารวมไปถึงภาวะของผู้ป่วย ซึ่งหากเจาะเลือดในระยะเวลาที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้ค่าที่ได้ไม่สอดคล้องกับระดับยาในเลือดที่แท้จริง นอกจากนี้ยังจะต้องมีวิธีการนำระดับยาในเลือดที่ได้มาคำนวณเพื่อหาค่าปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยต่อไป ซึ่งผู้เขียนจะขออธิบายเพิ่มเติมต่อไปในบทความหน้าค่ะ ภาพประกอบ : ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 บทความอื่นจากผู้เขียน 👩⚕️ ทำไมการดื่ม "สารละลายเกลือแร่" เมื่อ "ท้องเสีย" จึงเป็นสิ่งสำคัญ ? 📖 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "Clinical Trial" การทดลองทางการแพทย์ในมนุษย์ 🌞 ร้อนนี้ต้องระวัง Heatstroke (โรคลมแดด) 🌞 หน้าร้อนต้องระวัง โรคเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูง ถามหา ! 😷 เกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย เมื่อติดเชื้อ ไวรัส 💊 อาการข้างเคียงของ "ยาลดความดัน" ที่ควรรู้ 💊 ไขข้อสงสัย มีไข้ ไอ เจ็บคอ ทำไมคุณหมอไม่จ่ายยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ? 💊 รู้ไหมว่ายาบางชนิดอาจทำให้ “เหงือกบวมโต” ได้ 💓 โรคโลหิตจาง ไม่จำเป็นต้อง "เสริมธาตุเหล็ก" เสมอไป