7 เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง ที่บ้านง่ายๆ ไม่มีความรู้ก็ทำได้✅สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญถ้าใครบอกว่าหาเงินก่อนสุขภาพเอาไว้หลังอาจต้องคิดใหม่ค่ะ ทำไมต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนทั้งๆ ที่เราสามารถหาเงินได้ด้วยแล้วก็มีสุขภาพดีได้ด้วยในเวลาเดียวกัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผู้เขียนก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะ แต่พอได้เห็นตัวอย่างของผู้คนที่มีปัญหาด้านสุขภาพจำนวนมากเลยต้องรีบเปลี่ยนความคิดตัวเองซะใหม่ก่อนจะสายเกินไป ที่เราไม่ยอมหันมาดูสุขภาพตัวเองในระหว่างหาเงินไปด้วยหลายครั้งเป็นเพราะเราไปคิดว่าเป็นเรื่องยาก เป็นเรื่องของหมอ แต่ในความเป็นจริงแล้วการดูแลสุขภาพสามารถทำได้ง่ายๆ โดยเริ่มต้นได้จากที่บ้านและตัวเราต้องเป็นคนแรกที่ตระหนักถึงความสำคัญและเป็นคนเริ่มค่ะ ซึ่งบางอย่างทำได้เลยทันทีทันใดแบบไม่ต้องรอให้เรียนจบด้านสุขภาพมาด้วยซ้ำที่ร้ายไปกว่านั้นบางคนยังไปคิดอีกว่าการดูแลสุขภาพต้องมีสถานที่ๆ จำเพาะเจาะจงต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้ตลอดเวลาเลยกลายเป็นว่าไม่ได้เริ่มดูแลสุขภาพตัวเองกับเขาสักที จากสถานการณ์นี้จึงทำให้ผู้เขียนอยากบอกต่อเกี่ยวกับ 7 เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพที่บ้าน ง่ายๆ ไม่มีความรู้ก็ทำได้✅ ที่ใครๆ ก็ทำได้ค่ะ ขอเพียงอย่างเดียวต้องตัดสินใจว่า ต่อจากนี้ไปจะหันมาดูแลสุขภาพตัวเองแบบจริงจังสักที พร้อมๆ กับการหารายได้ด้วย เรียนรู้พัฒนาตัวเองและอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ไปพร้อมๆ กันค่ะ 7 เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพที่บ้าน ง่ายๆ ไม่มีความรู้ก็ทำได้✅ ที่ผู้เขียนจะได้พูดถึงในบทความนี้สามารถทำให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตดีควบคู่กันไปค่ะ ซึ่งถ้าคุณผู้อ่านลองอ่านทำความเข้าใจดีๆ แล้วจะพบว่า 7 เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพที่บ้าน ง่ายๆ ไม่มีความรู้ก็ทำได้✅ นี้สามารถเห็นผลลัพธ์ได้จริงค่ะ เพราะผู้เขียนก็ปรับใช้ตลอดจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ อ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะว่าเคล็ดลับที่ว่านี้มีอะไรกันบ้าง?1. ดูแลความสะอาดภายในบ้าน หลายคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งแวดล้อมสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ดังนั้นเราจึงต้องพูดถึงการรักษาความสะอาดภายในบ้านค่ะ โดยการทำความสะอาด คือ การเอาความสกปรกออกไปจากบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ที่เวลาหนึ่ง การทำความสะอาดทำให้บ้านมีของเสียน้อยลง ความสกปรกลดลง ขยะลดลง แหล่งเกิดเหตุรำคาญต่างๆ ลดลง จึงทำให้สุขภาพดีขึ้น เช่น ฝุ่นน้อยลงก็สามารถลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ค่ะ เมื่อบ้านสะอาดพวกหนู แมลงสาบ ไรฝุ่น ก็หายไปความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆ จากแมลงและสัตว์พาหนะนำโรคก็น้อยลงค่ะ 2. เพิ่มการเผาผลาญไขมันด้วยการมีกิจกรรมในระหว่างวัน ปกติผู้เขียนนอนพักกลางวันน้อยมากค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำอะไรตลอดเวลาจนไม่พักนะคะ แต่ส่วนใหญ่ในตอนกลางวันจะมีกิจกรรมทำตลอดถึงแม้ว่าวันหยุดวันว่างหรือวันอะไรก็ตามแต่ กิจกรรมที่ว่านี้ตัวเราต้องเป็นคนคิดและวางแผนเองค่ะว่าจะทำอะไรบ้าง การมีกิจกรรมมากขึ้นทำให้ร่างกายเพิ่มการเผาผลาญไขมันไปโดยอัตโนมัติ จึงทำให้ไขมันลดลง พอไขมันลดลงน้ำหนักก็ลดลงจากนั้นหุ่นก็ดีขึ้น การมีกิจกรรมต่างๆ ทำยังทำให้ผ่อนคลายความเครียดลงได้ค่ะโดยเฉพาะกิจกรรมในลักษณะที่เป็นงานอดิเรก สำหรับกิจวัตรประจำวันทั่วๆ ไปก็มีส่วนทำให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้นได้ค่ะ เพราะพอเราหันมาดูแลตัวเองอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน แต่งหน้า แต่งตัวให้ดูดีและเหมาะสม ก็ง่ายมากๆ ที่เราจะรู้สึกกับตัวเองและเห็นคุณของตัวเองที่นอกเหนือไปจากร่างกายที่สะอาดขึ้นค่ะ ผลดีตามมาหลังจากนั้นก็หนีไม่พ้นการมีสุขภาพจิตดีค่ะ โดยทั้งหมดทำได้ที่บ้านง่ายๆ ค่ะ 3. ทิ้งขยะให้มิดชิดและวางให้ห่างจากสิ่งของที่สะอาด ขยะสามารถนำมาซึ่งความเจ็บป่วยได้ค่ะ สัตว์และแมลงพาหนะนำโรคส่วนหนึ่งพบได้ในกองขยะ ถุงขยะหรือถังขยะ กลิ่นเหม็นของขยะยังทำให้เกิดความน่ารำคาญใจ การจัดการขยะให้เหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงด้านสุขภาพได้ จึงทำให้สุขภาพดีขึ้นแค่เพียงเอาขยะไปทิ้งให้ถูกที่ถูกทางเท่านั้นเองค่ะ ในบางครั้งภาพของขยะที่ดูน่าขยะแขยงยังทำให้เกิดความน่ารังเกียจจึงส่งผลต่อสุขภาพจิตได้ ดังนั้นมีขยะให้รีบจัดการค่ะปกติผู้เขียนจะจัดการขยะทุกวัน นำขยะจากจุดย่อยๆ ไปทิ้งที่ถังขยะรวมทุกวัน และนำถุงพลาสติกที่สามารถใช้ซ้ำได้มารองรับขยะประเภทเศษอาหารและมัดปากถุงให้มิดชิดก่อนเพื่อป้องกันการมีกลิ่นเหม็นหรือมีแมลงและสัตว์พาหนะนำโรคมาตอมหรือคุ้ยขยะค่ะ4. เก็บข้าวของให้เป็นระเบียบและจัดบ้านให้น่าอยู่ บ้านคือสถานที่ๆ เราใช้เวลาส่วนใหญ่โดยเฉพาะตอนไม่ได้อยู่ที่ทำงาน บ้านสะอาดบ้านน่าอยู่ทำให้คนอยู่ในบ้านสุขภาพจิตดีขึ้นค่ะ แม่บ้านหลายคนเพิกเฉยที่จะดูแลบ้านพอแฟนหรือสามีกลับมาบ้านอารมณ์เสียบ่อย สาเหตุหนึ่งคือบ้านสกปรกไม่เป็นระเบียบ พอเป็นแบบนั้นบรรยากาศในบ้านก็จะเริ่มมีเสียงบ่นเสียงด่าตามมา การเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบและจัดบ้านให้น่าอยู่ยังทำให้สุขภาพกายดีขึ้น เพราะเมื่อสุขภาพจิตดีสุขภาพกายก็ค่อยๆ เยียวยาตัวเองและดีขึ้นตามลำดับค่ะ การจัดบ้านให้น่าอยู่ยังช่วยส่งเสริมอีกหลายอย่าง เช่น ถ้ามีสวนหน้าบ้านสวยๆ ด้วยดอกไม้ ต้นไม้และน้ำตก การนั่งพักผ่อนเพื่อผ่อนคลายความเครียดก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ที่บ้านค่ะ5. ฝึกคิดบวกจากเรื่องใกล้ตัวจนติดเป็นนิสัย การคิดบวกอาจไม่ได้ทำให้สุขภาพกายดีขึ้นในทันทีทันใดค่ะ แต่การคิดบวกทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นทันที ปกติสมองเรามักชักชวนให้เราคิดลบเป็นส่วนใหญ่จึงทำให้เรามักมีพฤติกรรมบ่น ตำหนิ วิพากวิจารณ์ มองเห็นแต่ข้อเสีย พอเป็นแบบนั้นวันแล้ววันเล่าจึงกลายเป็นนิสัยคิดลบ การคิดบวกจึงเป็นเรื่องจำเป็นตามมาที่สำคัญในชีวิต หลายครั้งเรามักมองว่าจะคิดบวกได้ก็ต่อเมื่อมีความสำเร็จใหญ่ๆ เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงคือการคิดบวกสามารถทำได้ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ใกล้ตัวและทุกเรื่องรอบตัวค่ะ เช่น คิดบวกว่าอย่างน้อยก็เก่งขึ้นถึงแม้ว่าจะมีปัญหาให้ต้องแก้ไขในทุกๆ วัน อย่างน้อยก็ยังมีลมหายใจมีชีวิตที่สามารถพัฒนาตัวเอง เรียนรู้และปรับปรุงแก้ไขสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้นได้ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีเรื่องลบๆ เกิดขึ้นก็ตามอะไรประมาณนี้ค่ะ6. ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์สม่ำเสมอ ข้อนี้สามารถทำได้ง่ายๆ ค่ะ แบบไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเลยก็ได้ เช่น การเดินออกจากบ้านไปทุ่งนาใกล้ๆ บ้าน เพียงเท่านี้ก็ได้สูดอากาศบริสุทธิ์แล้วค่ะ อากาศบริสุทธิ์ที่ว่านี้ควรจะเป็นเช้าตรู่หรือบ่ายแก่ๆ หลังเลิกงานจะดีที่สุดค่ะสำหรับกลางแจ้ง แต่ถ้าเป็นสวนสาธารณะมีร่มไม้ใหญ่ก็จะเป็นอีกบรรยากาศที่แตกต่างออกไปค่ะ การออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ทำให้เราได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ๆ มีส่วนทำให้เม็ดเลือดแดงทำงานได้ดีขึ้นค่ะ เห็นไหมค่ะว่าง่ายๆ แต่ได้ประโยชน์ที่บางคนอาจคาดไม่ถึง!7. เพิ่มรูปแบบการออกกำลังกายที่เป็นไปได้ พอพูดเรื่องออกกำลังกายไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีๆ ก็ยังเป็นปัญหาระดับชาติอยู่เหมือนเดิมค่ะ ปัญหาที่พบจะประมาณนี้ค่ะ ไม่มีเวลาออกกำลังกายบ้างล่ะ ออกกำลังกายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นหรือหนักไปกว่านั้นบางคนแทบจะไม่ได้ออกกำลังกายเลย การออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องยากถ้าเราตัดสินใจว่าจะออกกำลังกายค่ะ และการออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องทำตามวิดีโอในยูทูบตลอดเวลา เพราะการออกกำลังกายเราสามารถออกแบบเองได้ ทำในสิ่งที่เป็นไปได้ที่สอดคล้องกับตารางเวลาและความสนใจของเราได้ค่ะ เพราะผู้เขียนเองไม่เคยยึดติดกับวิธีการออกกำลังกายเลยค่ะ บางวันได้ไปขี่จักรยานเพียงแค่ 10 นาทีก็ไป หรือบางทีแค่ได้ไปทำสวนหน้าบ้านในช่วงสั้นๆ ก็ถือว่าได้ออกกำลังกายแล้วก็ทำค่ะ ซึ่งผู้เขียนพบว่าการออกกำลังกายในรูปแบบที่เป็นไปได้ ณ เวลาหนึ่งนั้น โอกาสที่จะทำสำเร็จเป็นไปได้สูงกว่าการเจาะจงหรือยึดติดกับรูปแบบของการออกกำลังกายเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ8. ลดการกินหวาน มัน เค็ม ลงวันละเล็กวันละน้อย คำพูดนี้กลายคุณผู้อ่านอาจคุ้นหูเพราะอาจจะได้ยินจากสื่อต่างๆ โดยเฉพาะเวลาไปโรงพยาบาล การลดการกินหวาน มันและเค็มในทุกๆ วันสามารถทำได้ง่ายมากๆ ค่ะ ที่ไม่ใช่เพียงแค่ว่าไม่เติมน้ำตาล ต่อไปนี้คือตัวอย่างของการลดการกินหวาน มันและเค็มแบบง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ค่ะ กินผลไม้แทนการกินของหวานหากมีมันเทศหรือมีข้าวโพดหรืออื่นๆ ในลักษณะคล้ายกันให้กินแบบต้มหรือนึ่งแทนการนำไปทำของหวานตลอดเวลาปรุงอาหารด้วยวิธีการย่าง ต้ม นึ่ง เผา อบ ลวก แทนการผัดและทอดไม่เติมน้ำปลา ซอสตามความเคยชินแต่ให้ชิมก่อนปรุงและปรุงเท่าที่จำเป็นค่ะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมต่ำการกินหวาน มันและเค็มลดลงทำให้สุขภาพดีขึ้นได้ เพราะเมื่อน้ำตาลลดลงร่างกายก็ทำงานหนักน้อยลง เพราะปกติน้ำตาลกลูโคสร่างกายจะสามารถเอาไปใช้ได้ก็ต่อเมื่อทำงานร่วมกันกับอินซูลินค่ะ การกินน้ำตาลมากจะไปกระตุ้นให้กระบวนการทางชีวเคมีในร่างกาย จึงทำให้เกิดความเสื่อมตามธรรมชาติเร็วขึ้น อาหารที่มันทำให้มีไขมันสะสมมากเกินไปในร่างกายและอาหารที่เค็มจะไปกระตุ้นให้กระบวนการแลกเปลี่ยนโซเดียมในเซลล์ทำงานมากขึ้นจึงเกิดความเสื่อมตามธรรมชาติเร็วกว่าปกติค่ะ ดังนั้นการลดการกินหวาน มันและเค็ม ถือเป็นการลดความเสี่ยงด้านสุขภาพลงนั่นเองค่ะ9. สะสมความสำเร็จในแต่ละวัน ความสำเร็จแม้เพียงเล็กน้อยก็ต้องนับค่ะ อะไรที่เราเห็นคุณค่าเราจะมีมากขึ้น การรู้สึกขอบคุณในความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวันทำให้เราได้ฝึกตัวเองคิดบวกมากขึ้นและการคิดบวกนี้เป็นผลทำให้เรามีสุขภาพจิตดีขึ้น เมื่อสุขภาพจิตดี คิดบวกได้ ก็มีกำลังใจ มีแรงจูงใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น เมื่อจิตใจดีสุขภาพกายก็ดีตามมาง่ายๆ ค่ะ ความสำเร็จในแต่ละวันมีอะไรบ้าง เช่น การได้ทำงานให้เสร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในแต่ละวัน ได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมงานว่าแต่งตัวสวยก็ถือเป็นความสำเร็จค่ะ และอื่นๆ อีก ถึงแม้ว่าจะเจอเงิน 100 บาทในกระเป๋ากางเกงก่อนนำไปซักก็ตาม ทุกอย่างนับเป็นความสำเร็จหมดค่ะ10. ไม่ตีความสถานการณ์รอบตัวไปในทางลบ การตีความสถานการณ์หนึ่งสำหรับคนๆ หนึ่งนั้นมักออกมาในทางลบมากกว่าทางบวก โดยเฉพาะถ้าคนๆ นั้นมองเห็นเฉพาะด้านลบ การไม่ตีความสถานการณ์หนึ่งไปในทางลบหรือบวกทำให้เราไม่มีอะไรต้องคิดค่ะ พอไม่มีอะไรต้องคิดใจก็สงบได้ พอใจสงบสุขภาพจิตก็ดีขึ้นได้ค่ะ ที่คนมีปัญหาสุขภาพจิตเยอะเพราะการตีความสถานการณ์รอบตัวไปในทางลบ และสถานการณ์รอบตัวเรามีตลอดแล้วคุณผู้อ่านจะไหวไหม? กับการต้องมาจัดการความคิดลบที่เกิดขึ้นตลอดเวลาจากการตีความของตัวเองค่ะ การตีความที่ว่านี้มักออกมาในรูปของการวิพากวิจารณ์ ซึ่งผู้เขียนมองว่าต่อให้เราไม่ตีความเดี๋ยวเหตุการณ์นั้นก็ผ่านไปอยู่ดี แล้วแบบนี้จะไปคิดลบให้ใจตัวเองหม่นหมองเพื่ออะไรกัน พอสุขภาพจิตแย่สุขภาพกายก็แย่ตามมาด้วยค่ะ พอจะมองเห็นภาพไหมคะ!?และทั้งหมดคือเนื้อหาที่เกี่ยวกับ 7 เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพที่บ้าน ง่ายๆ ไม่มีความรู้ก็ทำได้ เห็นไหมคะว่าไม่ได้มีอะไรยากเลย! บางอย่างก็แทบจะไม่มีต้นทุนสักบาท ดังนั้นลองนำเอาเนื้อหาของ 7 เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพที่บ้าน ง่ายๆ ไม่มีความรู้ก็ทำได้ ไปปรับใช้กันค่ะ เพราะผู้เขียนลองทำมาแล้วเห็นผลลัพธ์เกิดขึ้นด้วยตัวเอง เช่น จากที่ไปขี่จักรยานออกกำลังกายตามโอกาสที่เป็นไปได้ก็ยังสามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงได้ค่ะ และปกติผู้เขียนพยายามรักษาความสะอาดในบ้านตลอดค่ะ ถึงไม่ทำอย่างหนึ่งก็จะทำอีกอย่างเพื่อเอาความสกปรกออกไปจากในบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ และโดยภาพรวม 7 เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพที่บ้าน ง่ายๆ ไม่มีความรู้ก็ทำได้ เป็นเรื่องใกล้ตัวทั้งนั้นซึ่งทุกคนสามารถทำได้ ขอเพียงตัดสินใจว่าจะเอาจริงและหันมาดูแลด้านสุขภาพของตัวเองและประยุกต์ใช้ 7 เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพที่บ้าน ง่ายๆ ไม่มีความรู้ก็ทำได้ค่ะเครดิตภาพประกอบบทความโดย: ผู้เขียนภาพหน้าปก โดย Cliff Booth จาก Pexelsออกแบบภาพหน้าปกใน Canvaภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1 โดย Andrea Piacquadio จาก Pexels, ภาพที่ 2 โดย Juan Pablo Serrano Arenas จาก Pexels, ภาพที่ 3 โดย Ayub Rahman จาก Pexels, ภาพที่ 4 โดย Nina Uhlikova จาก Pexelsบทความอื่นที่น่าสนใจ✳️7 วิธีมีความสามารถดูแลสุขภาพตนเองได้ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต อ่านเลย👌6 อาหารที่สามารถทำให้ท้องเสียได้ง่ายๆ จากประสบการณ์ตรง กดอ่านเลย❇️9 สาเหตุที่ทำให้มีปัญหาด้านสุขภาพ มีความเจ็บป่วย อ่านเลย‼️อยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้