หายปวดเมื่อยได้ง่าย ๆ ด้วยน้ำชาใบเถาวัลย์เปรียงสำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาทางออกสำหรับอาการปวดเมื่อยตามร่างกายของตนเองนั้น แน่นอนส่วนใหญ่สิ่งที่คิดในการจัดการกับอาการปวดนั้นคงไม่พ้นเรื่องต้องไปหาหมดนวด หรือไม่ก็ต้องพึ่งยาหมอ เช่น ยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ เป็นต้น ซึ่งผลข้างเคียงจากยาแผนปัจจุบันพวกเราก็คงรู้ดีอยู่แล้วว่าอันตรายแค่ไหน โชคดีเป็นอย่างยิ่งที่สมุนไพรไทยเราตัวหนึ่งที่สามารถจัดการกับปัญหาอาการปวดเมื่อยตามร่างกายเราได้ก็คือ เถาวัลย์เปรียง หรือเรียกตามภาษาท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า เครือไหลบ้าง เครือตาปลาบ้างเถาวัลย์เปรียงจัดว่าเป็นไม้เถาเลื้อยที่มีขนาดใหญ่ ที่สามารถเลื้อยไปไกลได้ถึง 20-25 เมตร ในสมัยโบราณสมุนไพรตัวนี้จัดอยู่ในหมวดยากระษัย หรือ แก้กระษัย และใช้เป็นยาอายุวัฒนะเลยทีเดียว และในที่นี้เราจะมาแนะนำการใช้เถาวัลย์เปรียงมาทำชาร้อน ๆ ต้มดื่มแก้ปวดเมื่อยกัน ไปดูกันว่า วิธีและขั้นตอนในการทำชาไว้ต้มกินเองนั้นมีอะไรบ้าง รวมถึงสรรพคุณหลักอื่น ๆ ของเถาวัลย์เปรียงกันเลยที่มาภาพ: sarunyouในการทำน้ำสมุนไพรเถาวัลย์เปรียงนั้นเราจะใช้ส่วนของใบที่ตากแห้งประมาณ 3 วันหรือใบที่เข้าเตาอบ ลักษณะใบจะเป็นรูปรี ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ในการต้มนั้นเราจะใช้เวลาต้มให้เดือดประมาณ 15-20 นาที เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของน้ำชา เพื่อน ๆ อย่ากังวลถึงรสชาติเลยครับ รสชาติของน้ำชาเถาวัลย์เปรียงนั้นจะเบามาก ๆ ดื่มง่ายไม่ขมติดคอเลยสักนิด แต่ก็ควรระวังการดื่มปริมาณมาก ๆ ในระหว่างที่ท้องกำลังว่างนะครับ เพราะเค้าออกฤทธิ์เช่นเดียวกับยาแก้ปวดต้านการอักเสบ อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อทางเดินอาหารได้ รวมถึงสตรีมีครรภ์ก็ห้ามรับประทานสมุนไพรนี้นะครับที่มาภาพ : sarunyouเถาวัลย์เปรียงนั้นนอกจากจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยของร่างกายแล้ว ยังมีสรรพคุณในการรักษาอาการใข้ ช่วยแก้ไอ แก้หวัด เป็นยาถ่ายเสมหะลงสู่ทวารหนัก และยังใช้เถามาดองเหล้าแก้ขับระดูของสตรีอีกด้วย โดยเฉพาะคนโบราณจะใช้มาเป็นยารักษาอาการตกขาวของสตรีด้วยครับ สมุนไพรเถาวัลย์เปรียงยังมีสรรพคุณอีกมากมาย เพื่อน ๆ ควรศึกษาและเลือกใช้ให้ถูกต่ออาการของร่างกายด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัยในการใช้สมุนไพร