สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวการฝังยาคุมกำเนิดในวัย 20 ปี ฟรีหรือไม่? มาดูกันคือถ้าเรามีแฟน การมีเพศสัมพันธ์ปกติค่ะสำหรับวัยเราๆ (ใส่ถุงยางทุกครั้ง) แต่ก็มีบางครั้งที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ที่ถุงฉีกขาดหรือรั่ว ทำให้ต้องกินยาคุมฉุกเฉินอยู่บ่อยครั้ง จนแบบกังวลมาก แถมเราได้หาข้อมูลพบว่าถ้ากินยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ จะทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง ทำเพิ่มโอกาสที่จะตั้งครรภ์!! สุดท้ายเลยตัดสินใจไปฝังยาคุม ในวันที่ 24 เมษายน 65เราเลือกฝังที่รพ.ภูมิพลฯ กทม. ซึ่งก็ไม่ได้มีสิทธิ์การรักษาที่รพ.นี้ เรายอมรับเลยว่าตัดสินใจมาฝังช้าไปมากๆ เพราะตอนมาฝัง เราอายุ 20 ปี 10 เดือน ซึ่งมันไม่ฟรีแล้ว ต้องอายุน้อยกว่า 20 ปี ลงไปถึงจะฟรี แต่เราก็ตัดสินใจฝังค่ะ มาแล้วเนอะ พี่พยาบาลก็จะให้กรอกข้อมูลค่ะ แล้วต้องไปตรวจฉี่ก่อน เมื่อผลออกมาว่าไม่ตั้งครรภ์ ก็ไปนั่งรอ คุณหมอเรียกเข้าห้องเมื่อเข้าห้องไปคุณหมอก็จะอธิบายเกี่ยวกับแท่งยาคุมกำเนิดชนิด Implanon 1 หลอด คุมได้ 3 ปี ชนิด jadelle 2 หลอด คุมได้ 5 ปี ยาฝังคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงมากค่ะ มีโอกาสในการตั้งครรภ์ไม่เกิน 0.05-0.1% ซึ่งน้อยมากๆ ส่วนตัวเราเลือกชนิดแรกค่ะ 3 ปี กำหนดถอดออกปี 68ผลข้างเคียงมีเลือดประจำเดือนมาผิดปกติโดยเฉพาะช่วงแรก แต่ต่อมาประจำเดือนจะค่อยๆ น้อยลงและจะหายไปโดยไม่มีอีกเลยตลอดช่วงที่ฝังยาบางรายอาจมีประจำเดือนมาบ่อยและมานานขึ้น (พบได้น้อยมาก)ปวดท้องน้อยและปวดประจำเดือนบ้าง ในช่วง 2-3 เดือนแรกมีอาการปวดหรือเจ็บเต้านมบางรายอาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มเกิดฝ้า สิวช่องคลอดอักเสบและแห้งข้อดีของยาฝังคุมกำเนิดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงมาก ประมาณ 1/200 คน ที่เกิดอัตราล้มเหลวเป็นวิธีที่มีความสะดวก ฝังครั้งเดียวสามารถคุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปีสามารถเลิกใช้เมื่อใดก็ได้ เมื่อต้องการจะมีบุตรหรือเปลี่ยนเป็นใช้วิธีการคุมกำเนิดแบบอื่นหลังจากถอดออกจะสามารถมีลูกได้เร็วกว่าการฉีดยาคุมกำเนิด 90% ตกไข่ใน 1 เดือนยาฝังคุมกำเนิดยังช่วยลดอาการปวดประจำเดือน ลดภาวะประจำเดือนมามากขั้นตอนการฝังยาคุมกำเนิดคุณหมอใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์และเบตาดีนมาถูที่ใต้ท้องแขนฝั่งที่จะฝังนะคะ (เราฝังฝั่งซ้ายค่ะ)ฉีดยาชา 4 จุด รอให้ยาชาออกฤทธิ์สัก 2-3 นาทีจากนั้นคุณหมอก็จะบรรจุแท่งยาเข้าเครื่องยาคุม ฝังเข้ามาที่ใต้ท้องแขนเรา (เรามองดูทุกขั้นตอนของการฝังเลยค่ะ เห็นเข็มของเครื่องสอดยาแล้วตกใจนิดๆ ขนาดเท่าหลอดยาคูลค่ะ ตอนฝังยาเข้าไปรู้สึกได้เลยค่ะว่ามีแท่งยาเข้าไปแต่ไม่ค่อยเจ็บเพราะฤทธิ์ของยาชาค่ะ)จากนั้นคุณหมอก็เอาสำลีมากดปากแผลไว้เพื่อหยุดเลือดค่ะ กดไว้สักพัก ก็เอาสำลีแผ่นและพลาสเตอร์กันน้ำมาปิดปากแผลไว้แค่นี้เองค่ะ เสร็จแล้ว ถือว่าชิลล์มากสำหรับเรา จากนั้นก็นำใบรักษาไปจ่ายค่ายา เราจ่ายไป 3,394 บาทค่ะ จุกๆ เลย จากนั้นก็ไปรับยา เสร็จแล้วกลับบ้านได้เลยค่ะหลังจากฝังไปประมาณ 4 เดือน จนถึงตอนนี้เดือน สิงหาคม 65 ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นสำหรับเราที่เห็นอย่างได้ชัดเลยก็คือ "น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น" ตอนไปฝังน้ำหนัก 49 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นมาเป็น 52 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 4 เดือน มีตกขาวมามากทำให้ช่องคลอดอักเสบอยู่ช่วงหนึ่งแต่ก็หายไปได้ด้วยดี ส่วนประจำเดือนของเรามากะปริดกะปรอยตลอดช่วง 1-2 เดือนแรก จากนั้นก็ไม่มาอีกเลยค่ะ ประหยัดค่าผ้าอนามัยไปมากๆ รูปปลากรอบ เอ้ยไม่ใช่ รูปประกอบ- 26/04/65 รอยช้ำเห็นได้ชัดมากๆ- แกะแผ่นพลาสเตอร์กันน้ำออก 26/04/65 เวลา22.04น. - รอยช้ำ 29/04/65- รอยช้ำเริ่มจางลงและดีขึ้นเรื่อยๆ 05/05/65- รอยช้ำเริ่มหายเป็นปกติ 13/05/65หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่ผ่านเข้ามาอ่านนะคะ ขอบคุณค่ะเครดิตรูปภาพทั้งหมดโดยผู้เขียนแหล่งข้อมูลอ้างอิง“ยาคุมฉุกเฉิน” กินบ่อยไม่ใช่เรื่องดี นี่คือความจริงที่ผู้หญิงควรรู้ไว้"ยาฝังคุมกำเนิด” เรื่องควรรู้และผลข้างเคียงที่ต้องระวัง!เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !